8 เทรนด์โซเชียลแห่งปี 2023 ที่นักการตลาดห้ามพลาด

โซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาด เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บนโซเชียลมีเดียมากที่สุดในแต่ละวัน การสื่อสารกับลูกค้าบนช่องทางเหล่านี้จึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งการที่แบรนด์จะทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผลนั้น จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจในเทรนด์โซเชียลมีเดียอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้แผนการโปรโมตเป็นไปอย่างแม่นยำและช่วยดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด

วันนี้ เราจะมาแนะนำ เทรนด์โซเชียลมีเดียประจำปี 2023 ที่นักการตลาดควรรู้ เพื่อการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปดูกันเลย !

5 เทรนด์โซเชียลมีเดียที่น่าจับตามอง

8 เทรนด์โซเชียลมีเดียที่น่าจับตามอง

การใช้โซเชียลมีเดียชอปปิงยังมาแรง

ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เทรนด์การชอปปิงออนไลน์ไม่แผ่วเลยสักนิด ซ้ำยังมีแต่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสะดวกสบาย เพียงแค่กดซื้อของที่ไหนก็ได้ แล้วก็รอรับสินค้าอยู่ที่บ้านได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้ปัจจุบัน ต่อให้เราสามารถออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้แบบปกติแล้ว แต่การซื้อ-ขายออนไลน์ก็ยังคงอยู่ในเทรนด์ อีกทั้งโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ยังออกแบบฟังก์ชันมาเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกแก่สายชอปฯ ออนไลน์ เช่น Instagram Shop หรือ TikTok Shop เป็นต้น ส่งผลให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกลายเป็นแหล่งชอปปิงยอดฮิตของผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์อีกว่า ภายในปี 2569 ยอดขาย Social Commerce จะสูงขึ้นถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 703 ล้านล้านบาท และ 36% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะซื้อสินค้าผ่านทาง Facebook ส่วน 24.5% จะซื้อผ่านทาง Instagram

อย่างไรก็ดี การจะทำอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้น แม้จะมีโอกาสเติบโตสูง แต่เราก็ต้องพิจารณาด้วยว่าแพลตฟอร์มนั้น ๆ เหมาะกับแบรนด์ของเราหรือไม่ โดยก่อนอื่น เราต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร ชอบใช้แพลตฟอร์มไหนมากที่สุด แล้วใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในการทำการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้อย่างถูกจุด

คอนเทนต์สั้น ๆ จะครองโซเชียลฯ

ความจริง คอนเทนต์สั้น ๆ ได้รับความนิยมมา 2-3 ปีแล้ว และจะยังคงนิยมกันต่อไปมากขึ้นอีก โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2023 นี้ คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะกลายเป็นวิดีโอสั้น และ 86% ของธุรกิจ จะใช้วิดีโอสั้นเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดมากกว่าคอนเทนต์ที่เป็นโพสต์ธรรมดา ๆ แบบเดิม ๆ

บางคนอาจเกิดคำถามว่า วิดีโอสั้น ต้องสั้นแค่ไหนล่ะ ทั้งนี้ มีงานวิจัยระบุว่า ความสนใจของผู้คนในช่วงนี้จะอยู่ที่ 8.25 วินาที กระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำคลิปยาว 8 วินาทีเสียทีเดียว แต่ความสำคัญคือ เราต้องทำคอนเทนต์ที่เน้นสั้น กระชับ ได้ใจความ มีคุณภาพ และดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ เพราะผู้ใช้งานสมัยใหม่มักจะเลื่อนฟีดผ่านไปแบบเร็ว ๆ ไม่ชอบจดจ่อกับอะไรนาน ๆ หากเห็นว่าเป็นคอนเทนต์ที่ต้องใช้เวลานานในการอ่านหรือดู ก็มีโอกาสสูงที่จะเลื่อนผ่านไปทันทีโดยไม่สนใจ ดังนั้น เราจึงต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาให้พวกเขารู้สึกว่าโพสต์ของเรามีอะไรบางอย่างที่ควรดู และถ้าไม่ดูจะพลาดอะไรไป

AI มีบทบาทสำคัญในการแนะนำโพสต์

อย่างที่หลายคนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ในปี 2023 นี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งตอนนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในด้านการแนะนำโพสต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะบน Facebook, Instagram หรือ TikTok ที่จะแนะนำคอนเทนต์ให้กับผู้ใช้งาน โดยจะตรวจจับความชอบของผู้ใช้งานแต่ละราย ผ่านวิดีโอที่ผู้ใช้งานคนนั้น ๆ ชอบดู กดไลก์ หรือมีปฏิสัมพันธ์อื่น ๆ แล้วคัดเลือกคอนเทนต์ที่มีความคล้ายคลึงหรือเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานเหล่านั้นเคยดูมาขึ้นบนหน้าฟีด

ดังนั้น การจะทำให้คอนเทนต์ของเราถูก AI นำไปขึ้นบนหน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมายของเราได้นั้น เราจะต้องวางกลุ่มเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนก่อนว่า เราจะขายอะไรและขายให้ใคร จากนั้น ค่อยสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่คิดว่าคนกลุ่มนั้น ๆ น่าจะรู้สึกชอบและ “อิน” ออกมา เพราะถ้าหากกลุ่มเป้าหมายของเราสนใจคอนเทนต์แนวแบบที่เรากำลังทำอยู่ ก็มีโอกาสสูงที่โพสต์ของเราจะได้ไปขึ้นอยู่บนหน้าฟีดของกลุ่มคนเหล่านั้น

Nano-Influencer และ Micro-Influencer กลายเป็นกระแสหลัก

จากปีที่แล้ว ที่บน Instagram ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มแจ้งเกิดของ Micro-Influencer หลายราย จนมาถึงปีนี้ ซึ่งมีแววว่าจะไม่ใช่แค่แจ้งเกิด แต่การทำการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่ใช่คนดังหรือเซเลบฯ จะกลายมาเป็น “กระแสหลัก” ของโลกโวเชียลมีเดีย เพราะถึงแม้ Nano-Influencer และ Micro-Influencer จะมีผู้ติดตามน้อยกว่า แต่อีกนัยหนึ่งก็สามารถบอกได้ว่าแต่ละคนที่มาติดตามอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้นั้นล้วนเป็นผู้ติดตามที่มีคุณภาพ และเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จริง ๆ อีกทั้งยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกได้ถึงความ “เรียล” มากกว่าด้วย เพราะด้วยความที่มีผู้ติดตามไม่เยอะ ทำให้อินฟลูฯ ไซซ์เล็กสามารถสื่อสารกับผู้ติดตามได้อย่างใกล้ชิด สนิทสนม และพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองเหมือนเป็นเพื่อนกัน มากกว่าจะให้ความรู้สึกเหมือนมาขายของ

ดังนั้น Influencer Marketing จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการโซเชียลมีเดีย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนจากการใช้อินฟลูเอนเซอร์ดัง ๆ มาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนไม่มาก เพื่อให้การขายของดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นนั่นเอง

TikTok จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ใครที่เคยคิดว่า TikTok มาถึงจุดพีคที่สุดแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนยอดผู้ใช้งานที่สูงถึง 1 พันล้านรายต่อเดือน แต่ความจริงแล้ว เทรนด์โซเชียลมีเดียปี 2023 นี้ กลับพบว่า TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีรายงานว่าผู้ใช้งานในปัจจุบันชื่นชอบคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอสั้น ๆ หรือ Short Video กันมากขึ้น อย่างที่เราจะเห็นได้ว่าทั้ง Instagram และ Facebook ต่างก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ Reels เข้ามาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน ซึ่งด้วยความที่ TikTok เองก็เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นในเรื่องของวิดีโอสั้นอยู่แล้ว ทั้งยังมีจำนวนผู้ใช้งานสูงถึงหลักพันล้าน จึงเป็นโอกาสที่แบรนด์ต่าง ๆ จะใช้ TikTok ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอที่น่าสนใจเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) และนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นในที่สุด

Instagram กลายเป็นแหล่งแจ้งเกิดของ Micro-Influencer

Facebook ยังคงเป็นตลาดที่ไม่ควรปล่อยมือ

เมื่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ ๆ เติบโตขึ้น หลายคนอาจจะมองว่า Facebook เป็นตลาดที่ไม่น่าสนใจอีกต่อไป เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน ตอกย้ำด้วยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือคน Gen Z ที่เผยออกมาว่า ความนิยมของ Facebook ร่วงลงไปอยู่ในอันดับที่ 6 แต่ความจริงแล้วเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่

เมื่อถอยออกมาดูภาพรวม เรากลับพบว่า Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่สูงถึงกว่า 1.5 พันล้านรายต่อวัน และกลุ่มผู้ใช้งานที่ใหญ่ที่สุดยังเป็นวัยทำงานที่มีกำลังซื้อจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าแม้ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่จะหันไปให้ความสนใจกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง TikTok หรือ Instagram กันมากขึ้น แต่การทำการตลาดบน Facebook นั้นก็ยังคงเป็นหนึ่งในเทรนด์โซเชียลมีเดียที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการทำ Facebook Adverstising หรือการยิงแอดโฆษณา ที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ โดยสามารถยิงไปสู่กลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่างตรงจุด เรียกได้ว่าเป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้แก่แบรนด์ได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

อยากเพิ่มการมีส่วนร่วมต้องใช้ Podcast

แม้แพลตฟอร์ม Live Audio อย่าง Clubhouse ที่เคยได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในชั่วข้ามคืนจะดูเงียบเหงาลงในปัจจุบัน แต่นักลงทุนและนักการตลาดส่วนใหญ่ก็มองว่าการทำการตลาดบน Live Audio Applications ยังคงเป็นเทรนด์โซเชียลมีเดียที่จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งนอกจาก Clubhouse และ Twitter Space แล้ว หลายแบรนด์ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์บน Podcast กันมากขึ้นอีกด้วย

2023 ยังคงเป็นปีแห่ง Online Event

หลายคนมองว่าเมื่อเข้าสู่ปี 2023 การจัด Online Event อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเราน่าจะมีโอกาสให้ได้พบปะและรวมตัวกันในสถานที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าในปี 2023 นี้ การทำงานแบบ Hybrid Working ได้กลายมาเป็นรูปแบบการทำงานหลักในปัจจุบัน ไม่ใช่เพราะเรื่องโควิดอีกต่อไป แต่เป็นเพราะโลกของเราได้เปลี่ยนไปเป็นสังคม New Normal แล้วนั่นเอง

ดังนั้น Online Event จึงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ Facebook Live, Youtube Live หรือ Instagram Live ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ ก็ได้มีการนำมาปรับใช้กันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ต, งาน Fan Meeting หรืองาน Fashion Show นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์โซเชียลมีเดียที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในปีนี้

 

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือเทรนด์โซเชียลมีเดียแห่งปี 2023 ที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม จะเห็นได้ว่าแม้บางแพลตฟอร์มที่ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนจะหลุดจากความนิยมไป แต่ความจริงแล้วก็ยังเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญในการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย คือ การหมั่นอัปเดตเทรนด์ที่น่าสนใจ สร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ๆ ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของกลุ่มลูกค้าของเราอย่างลึกซึ้ง ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องทำคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง เพราะช่วงเวลาที่เราหายไป อาจเป็นช่วงเวลาที่คู่แข่งของเรากำลังตีตื้นขึ้นมาทำคะแนนกับกลุ่มเป้าหมายของเรา ส่งผลให้เรื่องของความสม่ำเสมอในการทำคอนเทนต์ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นมากต่อการตลาด หากเราทำได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก ๆ แพลตฟอร์มแล้ว

สำหรับใครที่กำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย Primal Digital Agency มีนักการตลาดมากประสบการณ์กว่า 150 คนที่พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อเราเพื่อรับแผนการตลาดฟรีได้เลยวันนี้ !