รู้เท่าทันคู่แข่งให้มากขึ้น ด้วย Facebook Page Transparency

Facebook ถือเป็นหนึ่งในช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มแรก ๆ ของยุคคอมพิวเตอร์แล้ว Facebook ยังครองตำแหน่งโซเชียลมีเดียที่มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะที่สุดในโลก โดยสถิติปี 2023 ของ Hootsuite ระบุว่า Facebook มีผู้ใช้งานมากถึง 2.93 พันล้านคนต่อเดือน แม้พักหลังจะมีโซเชียลมีเดียใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังไม่มีใครโค่นล้มตำแหน่ง Facebook ได้ ดังนั้น ไม่ว่าธุรกิจไหนจะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนกลุ่มใด Facebook ก็ยังเป็นหนึ่งในช่องทางที่ผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรพลาด

เมื่อจำนวนผู้ใช้งานล้นหลาม จำนวนคนทำการตลาดก็เยอะตาม สิ่งที่ตามมาคือการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ต่อให้เราบอกว่าแบรนด์ตัวเองดีขนาดไหน ลูกค้าก็เริ่มรู้ทันการตลาดแล้วว่าทุกแบรนด์พูดเหมือนกันหมด แถมยังมีคู่แข่งที่ทำธุรกิจเดียวกับเราหรือคล้าย ๆ เราเป็นร้อยเป็นพันเจ้า การจะเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าในยุคที่ทุกคนต่างทำการตลาดกันอย่างดุเดือดเช่นนี้ก็ไม่ง่ายเท่าไรนัก

สิ่งที่จะทำให้เราดูน่าสนใจขึ้นมาในสายตาของกลุ่มเป้าหมายได้ คือ ความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ทำอะไรที่คู่แข่งทำแล้วเรายังไม่ทำ อะไรที่เขามีแล้วเรายังไม่มี หรือดึงจุดเด่นของตัวเองที่มีเหนือกว่าคู่แข่งออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อบอกให้ลูกค้ารู้ว่าการอุดหนุนแบรนด์เรานั้นจะทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากแบรนด์คู่แข่งของเราอย่างไร และเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถสำรวจข้อมูลของคู่แข่ง เรียกว่า Facebook Page Transparency” 

วิธีตรวจสอบข้อมูลคู่แข่งบน Facebook

Facebook Page Transparency คืออะไร

Page Transparency เป็นเครื่องมือหนึ่งของ Facebook Page ที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบข้อมูลของเพจธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างโปร่งใส ตั้งแต่ข้อมูลการสร้างเพจ ประวัติการเปลี่ยนชื่อเพจ ไปจนถึงแนวทางการทำคอนเทนต์การตลาดและการยิงโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนที่มีประโยชน์มากที่สุด เพราะเราจะได้รู้ว่าคู่แข่งมีกลยุทธ์การทำคอนเทนต์อย่างไรบ้าง แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนให้กลยุทธ์ของตนเองดูไม่ซ้ำและโดดเด่นกว่า

เดิมทีแล้ว วัตถุประสงค์ของฟีเจอร์ Page Transparency คือ การสร้างความโปร่งใสของเพจเพื่อป้องกันปัญหาการยิงโฆษณาในทางที่ไม่เหมาะสม หรือละเมิดกฎของ Facebook เช่น การโพสต์ภาพอนาจาร การทำคอนเทนต์ที่เป็นประเด็นอ่อนไหวและอาจทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง เป็นต้น แต่ในช่วงหลังมานี้ แวดวงการตลาดได้ใช้ประโยชน์จาก Page Transparency ด้วยการสำรวจข้อมูลของคู่แข่งแล้วนำมาปรับใช้กับแผนธุรกิจของตนเอง ดูว่าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขามีวิธีการโพสต์และยิงโฆษณาอย่างไรจึงจะสามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ ตลอดจนทำให้ได้ไอเดียการทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามามีส่วนร่วม (Engagement) มากขึ้น

นอกจากนี้ Page Transparency ยังเป็นตัววัดความน่าเชื่อถือของแต่ละเพจได้ด้วย เพราะไม่ใช่แค่เราที่สามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกิจอื่น ๆ ได้ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลของเราผ่านหน้า Page Transparency ได้เช่นกัน ดังนั้น หากเพจไหนมีพฤติกรรมการยิงโฆษณาแปลก ๆ ลูกค้าก็จะสามารถเห็นได้จากหน้านี้

 

วิธีใช้งาน Page Transparency

วิธีการใช้งาน Facebook Page Transparency เพื่อเข้าไปดูข้อมูลของเพจอื่น สามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • เข้าไปยังหน้าเพจที่เราต้องการจะตรวจสอบข้อมูล
  • เลื่อนหากรอบทางด้านซ้ายมือ ซึ่งจะเขียนว่า “Page Transparency” หรือ “ความโปร่งใสของเพจ” แล้วคลิก See all (ดูทั้งหมด)
  • เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับเมนูย่อยต่าง ๆ เช่น 
    • Page History (ประวัติของเพจ) ที่จะบอกข้อมูลของเพจว่าสร้างเมื่อไร มีการเปลี่ยนชื่อไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง เปลี่ยนจากชื่ออะไรเป็นชื่ออะไร ตั้งแต่วันที่เท่าไร 
    • People Who Manage This Page (ผู้ดูแลเพจ) ซึ่งบอกว่ามีจำนวนผู้ดูแลเพจนี้อยู่ทั้งหมดกี่คน โดยจะระบุเป็นชนชาติต่าง ๆ แทนการเปิดเผยชื่อ
    • Ads From This Page (โฆษณาจากเพจนี้) หากเพจดังกล่าวมีการรันโฆษณาอยู่ จะขึ้นข้อความว่า This Page is currently running ads. (เพจนี้กำลังแสดงโฆษณาอยู่) และหากเพจทำโฆษณาที่ละเมิดกฎของ Facebook จะขึ้นว่า This Page has run ads about social issues, elections, or politics. (เพจนี้แสดงโฆษณาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม การเลือกตั้ง หรือการเมือง)
  • เราสามารถคลิกดูโฆษณาทั้งหมดของเพจนั้น ๆ ได้ โดยเลือกเมนู Go to Ad Library (ไปที่คลังโฆษณา) แล้วระบบจะแสดงโฆษณาทั้งหมดที่เพจดังกล่าวกำลังรันอยู่ รวมถึงวันที่ยิงโฆษณา แต่จะไม่แสดงรายละเอียดการตั้งค่าอื่น ๆ เช่น กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) พื้นที่ (Location) และงบประมาณ (Budget) แต่หากอยากรู้ เราสามารถดูได้ที่เมนู Why am I seeing this ad? (ทำไมฉันถึงเห็นโฆษณานี้) ซึ่งจะขึ้นมาเฉพาะเวลาที่เราเห็นโฆษณาดังกล่าวแบบเรียลไทม์เท่านั้น
  • ทั้งนี้ บางเพจอาจไม่ปรากฏเมนู Page Transparency ให้เราคลิกเข้าไป ก็สามารถเข้าไปดูที่เมนู About (เกี่ยวกับ) แทนได้ หรืออีกช่องทางหนึ่งคือ Ad Library แล้วเลือก Ad Category จากนั้น กรอกชื่อเพจหรือคีย์เวิร์ดที่เราต้องการดูข้อมูล แล้วระบบจะรวบรวมประวัติการยิงโฆษณาของเพจนั้น ๆ มาให้ เหมือนกับในเมนู Page Transparency

 

Page Transparency มีประโยชน์อย่างไร

Page Transparency มีประโยชน์อย่างไร

แม้จุดประสงค์แรกเริ่มของ Facebook Page Transparency จะเป็นการสนับสนุนนโยบายความโปร่งใสของเพจต่าง ๆ แต่นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ได้มากมาย เพื่อนำมาปรับใช้ในกลยุทธ์การทำธุรกิจ ดังนี้

ช่วยวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่ง

Page Transparency จะแสดงข้อมูลเพจของคู่แข่ง ทำให้เราสามารถคาดเดาการวางแผนกลยุทธ์โซเชียลมีเดียของแบรนด์นั้นแบบคร่าว ๆ ได้ว่าพวกเขามักทำคอนเทนต์แบบไหน ทำโฆษณาแบบใดแล้วประสบความสำเร็จ และเวลาที่ยิงโฆษณามักเป็นช่วงใด อีกทั้งเรายังสามารถดูสไตล์การเขียนแค็ปชัน กราฟิก และวิธีการทำ Call to Action ของเพจนั้น ๆ ได้ด้วย

สามารถดูความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้

หากเรากำลังสนใจเพจไหนอยู่ ก็สามารถดูความเคลื่อนไหวของเพจนั้น ๆ ได้ผ่านฟีเจอร์ Page Transparency ทันที โดยเราจะรู้ว่าเพจดังกล่าวกำลังโปรโมตหรือทำการตลาดกับสินค้าและบริการใดอยู่บ้าง ตลอดจนเน้นการทำโฆษณาผ่าน Objective (วัตถุประสงค์) ใดเป็นหลักผ่านเมนู Ads From This Page

ได้สังเกตแพลตฟอร์มที่คู่แข่งใช้ยิงโฆษณา

ถึงจะชื่อ Facebook Page Transparency แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดูข้อมูลได้แค่บน Facebook เท่านั้น เพราะ Facebook รวมอยู่ในเครือ Meta ซึ่งประกอบไปด้วย Facebook, Messenger และ Instagram โดย Page Transparency จะช่วยให้เรารู้ว่าคู่แข่งมักยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มใดมากกว่า แต่กรณีนี้ แนะนำว่าให้ดูจากหลาย ๆ เจ้า และพิจารณากลุ่มเป้าหมายของตนเองด้วยว่าเหมือนกับของคู่แข่งหรือไม่ หากทำธุรกิจคล้ายกัน มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน แล้วแบรนด์นั้น ๆ ทำแล้วประสบความสำเร็จ เราก็สามารถนำแพตเทิร์นบางอย่างมาปรับใช้ตามได้

เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ

และนี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการมีเมนู Page Transparency ขึ้นมา คือการสร้างความโปร่งใส่ให้ทุกเพจระมัดระวังในการทำคอนเทนต์และยิงโฆษณามากขึ้น หากลูกค้ามีความสนใจในแบรนด์ของเรา แต่เรายังไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักก็อาจยังไม่ได้รับความไว้วางใจเต็มร้อย Page Transparency จึงเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สามารถคัดกรองได้ เช่น หากเป็นเพจที่เปลี่ยนชื่อมาแล้วหลาย ๆ ครั้ง ก็สันนิษฐานได้ว่าธุรกิจของเราไม่ยั่งยืน หรือหากมีข้อความขึ้นว่าเรากำลังยิงโฆษณาที่ละเมิดกฎของ Facebook ความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือของเพจก็จะลดลง

 

สรุป

Page Transparency คือเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์คู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนการตลาดของตนเองให้ก้าวตามทันธุรกิจใหญ่ ๆ ตลอดจนสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ในรูปแบบที่แตกต่างจากคู่แข่งได้ แต่เนื่องจาก Page Transparency สามารถใช้ได้แค่กับแพลตฟอร์มในเครือ Meta เท่านั้น เราจึงควรใช้เครื่องมือ Competitor Analysis อื่น ๆ ร่วมด้วย เพราะปัจจุบัน โซเชียลมีเดียไม่ได้มีแค่ Facebook กับ Instagram อีกต่อไปแล้ว แต่ยังมี TikTok, Twitter, YouTube และอีกมากมาย ที่สำคัญที่สุด เราต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของตนเองคือใคร เพราะต่อให้มีข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่ในมือ แต่หากทำการตลาดไม่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่ลงทุนลงแรงไปก็อาจสูญเปล่าได้

ไม่ค่อยถนัดทำการตลาดโซเชียลมีเดียใช่ไหม เราช่วยคุณได้ ! ที่ Primal Digital Agency เรามีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์กว่า 150 ชีวิตที่พร้อมจะพาธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ติดต่อเราได้เลยวันนี้