ส่องฟีเจอร์ Bard Google อัปเดตล่าสุด! รองรับภาษาไทยแล้ว!

หลังจาก ChatGPT แชตบอต AI อัจฉริยะที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ เปิดให้ใช้งานฟรีและมีผู้คนเข้าไปใช้งานกว่า 1 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน! กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่ผู้คนในแวดวงเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่นั่งไม่ติดพื้น เร่งงัดกลยุทธ์หมัดเด็ดมาประชัน พร้อมพัฒนาแชตบอต AI ของตนเองที่ชื่อว่า “Bard Google” เพื่อโชว์ศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและไม่แพ้ใครในโลก 

อย่างไรก็ดี แม้ Bard Google จะเปิดตัวมาประชันกับ ChatGPT ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 แต่ในการทดลองใช้ครั้งแรก กลับได้รับผลกระทบเชิงลบ เนื่องจาก Bard ได้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดให้แก่ผู้ใช้งานอยู่บ่อยครั้ง จนส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัท Alphabet Inc ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ร่วงแรงกว่า 100,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุนี้เอง Google จึงได้เร่งพัฒนา Bard ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และได้มีการประกาศใช้อีกครั้งหลังการอัปเดตครั้งใหญ่ ซึ่งนอกจากจะแก้ไขข้อผิดพลาดของ Bard ในหลาย ๆ เรื่องแล้ว ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่สามารถรองรับการใช้งานได้มากขึ้นด้วย

Bard Google ฉบับอัปเดตล่าสุด! จะมีฟังก์ชันใดน่าสนใจกันบ้าง แล้วเราจะใช้ Google Bard AI ต่อยอดธุรกิจหรือทำ SEO ได้อย่างไร มาทำความรู้จักกับแชตบอต AI ที่กำลังมีอิทธิพลมากที่สุดในยุคนี้ไปพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย!

bard ai

Google Bard คืออะไร? แชตบอต AI ที่กำลังมีอิทธิพลมากที่สุด

Bard Google หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “Bard” คือ โปรแกรม AI Chatbot ที่สามารถตอบคำถามและตอบโต้บทสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลในด้านต่าง ๆ ซึ่งได้มีการเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 

Google Bard AI สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี LaMDA หรือ Language Model for Dialogue Applications มีขนาด 137,000 ล้านพารามิเตอร์ โดย Bard Google เป็นระบบที่เข้าใจบทสนทนาต่อเนื่องคล้ายกับ ChatGPT โดยสามารถพูดคุยโต้ตอบได้คล้ายกับมนุษย์ แต่จะต่างกันตรงที่ ChatGPT สามารถดึงฐานข้อมูลแค่ถึงปี 2021 ในขณะที่ Google จะใช้ฐานข้อมูลทั้งหมดมาจากเว็บไซต์จนถึงปัจจุบัน โดย Sundar Pichai ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Google ระบุว่า วิธีการนี้จะทำให้คำตอบที่ Bard มอบให้ผู้ใช้งานเป็น “คำตอบที่สดใหม่และมีคุณภาพสูง” มากกว่า

โดย Bard ถือเป็น Generative AI แบบ Text-based กล่าวคือ เป็นโปรแกรมที่สามารถเข้าใจคำถามและสร้างคำตอบใหม่ ๆ แม้ผู้ใช้จะป้อนคำสั่งซ้ำเดิมมาก็ตาม 

 

ทบทวนความจำ ฟีเจอร์หลักของ Bard Google มีอะไรบ้าง?

หลายคนอาจสงสัยว่าในเมื่อเราค้นหาทุกอย่างที่ต้องการได้เพียงพิมพ์คีย์เวิร์ดในช่อง Search ของ Google แล้วทางผู้สร้างจะสร้าง Bard ขึ้นมาทำไม?

เราขอบอกเลยว่า ระบบนี้มีข้อดีมากกว่าที่หลาย ๆ คนคิด! อย่างที่ได้กล่าวไปว่า Bard ใช้โมเดลภาษา LaMDA ซึ่งแตกต่างจาก ChatGPT ทำให้สามารถตอบคำถามได้ละเอียดมากกว่าการค้นหาบน Google Search แบบทั่วไป ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย

ช่วยสร้างคอนเทนต์ SEO ได้

Bard Google มีเครื่องมือแนะนำการใช้ คำ ประโยค และธีมของคอนเทนต์ ซึ่งผู้ใช้สามารถนำไปเป็นไกด์ไลน์สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ สำหรับทำคอนเทนต์ SEO ได้ พร้อมกันนั้นยังมีฟังก์ชันเสนอคำพ้องความหมายหรือคำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงฟังก์ชันประเมินงานเขียน และเสนอความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นฟีดแบ็กต่อการพัฒนาคอนเทนต์ เช่น สไตล์งาน โทนเรื่อง และโครงสร้างการเขียน ทำให้นอกจากจะช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ดี ๆ ได้แล้ว ยังช่วยให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงคอนเทนต์ให้ถูกต้องตามหลักของ SEO ทำให้คอนเทนต์นั้น ๆ เป็นมิตรกับอัลกอริทึมของ Google เพิ่มขึ้น

เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผู้ใช้งาน

นอกจากช่วยสร้างคอนเทนต์แล้ว Bard ยังมีฟังก์ชันการทำงานอัตโนมัติหลายอย่างที่ช่วยจัดการเวลาและสิ่งที่ต้องทำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหาร การค้นหาสินค้าและบริการ การนัดหมาย หรือแม้แต่การจองตั๋วเครื่องบิน

ปรับใช้กับ Google Meet, Google Docs และ Gmail ได้

Bard AI ยังสามารถนำมาปรับใช้กับ Google Meet, Google Docs และ Gmail เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้ Bard ช่วยแปลภาษาเวลาประชุมใน Google Meet ให้ช่วยแก้ไขคำผิดใน Google Docs หรือแม้แต่ให้ช่วยตอบ Gmail ลูกค้า เรียกได้ว่าช่วยประหยัดทั้งต้นทุนเวลาและงบการทำงานได้เป็นอย่างดี

 

หลังอัปเดตใหม่ล่าสุด! BARD มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง?

แต่นอกจากฟีเจอร์ข้างต้นแล้ว ล่าสุด! ในเดือนกรกฎาคมปี 2566 ที่ผ่านมา Bard AI ได้พัฒนาระบบเพิ่มเติมพร้อมปล่อยฟีเจอร์พิเศษใหม่ ๆ เพื่อรองรับและตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้มากขึ้น แต่จะมีอะไรบ้าง เรารวบรวมฟีเจอร์เด็ด ๆ มาบอกทุกคนพร้อมกัน ข้างล่างนี้แล้ว!

Bard รองรับภาษาไทยได้แล้ว!

จากตอนแรกที่รองรับการตอบสนองเพียง 3 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา Bard สามารถรองรับ Prompt ภาษาไทยได้แล้ว! พร้อมกันนั้น ยังรองรับภาษาอื่น ๆ อีกกว่า 40 ภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาอาหรับ จีน เยอรมัน ฮินดี สเปน ฯลฯ และสามารถใช้งานได้กว่า 180 ประเทศ เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้กับผู้คนทั่วโลกอย่างแท้จริง!

ให้ Bard อ่านคำตอบให้ฟังได้

ไม่ใช่แค่ตอบคำถามอย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ Bard ยังมีฟีเจอร์อ่านคำตอบและการสนทนาให้ผู้ใช้ฟังได้ด้วย เพียงแค่คลิกไอคอนเสียง เพียงเท่านี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอ่านข้อมูลทั้งหมดด้วยตาตัวเอง แล้วที่สำคัญฟีเจอร์นี้ยังรองรับได้มากกว่า 40 ภาษาเลยทีเดียว!

เลือกโทนและสไตล์ของการตอบคำถามได้

Bard เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด ยังสามารถเลือกโทนและสไตล์การตอบคำถามได้ถึง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตอบแบบเรียบง่าย (Simple) การตอบยาว (Long) การตอบสั้น (Short) การตอบแบบผู้เชี่ยวชาญ (Professional) หรือแม้แต่การตอบแบบไม่เป็นทางการ (Casual) แต่ถึงแม้ในตอนนี้ฟีเจอร์นี้จะรองรับได้แค่เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ในอนาคตคงจะมีการพัฒนาระบบให้สามารถรองรับในหลากหลายภาษาได้แน่นอน 

อ่านคำตอบย้อนหลังได้!

เช่นเดียวกับ ChatGPT Bard AI ยังออกฟังก์ชันใหม่ที่สามารถปักหมุดและเปลี่ยนชื่อบทสนทนาได้ ทำให้ผู้ใช้กลับมาดู Prompt ที่เคยกรอกไว้ หรือแม้แต่หาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Prompt เก่า ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลใหม่ตั้งแต่แรก

นำโค้ดออกไปรันบนแพลตฟอร์มอื่นได้

นอกจากรองรับการเขียนโค้ดแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ของ Bard ล่าสุด ยังสามารถส่งออกโค้ด Python ไปรันบน Replit ได้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้รองรับได้มากกว่า 40 ภาษาเลยทีเดียว

แชร์คำตอบให้ผู้ใช้งานคนอื่นได้

Bard ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้แชร์บทสนทนาของเรากับ Bard ไปยังผู้ใช้คนอื่น ๆ ได้ด้วย และที่สำคัญยังรองรับการใช้งานกว่า 40 ภาษา ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมานั่งคัดลอกข้อความหรือแม้แต่แคปหน้าจอส่งให้เพื่อน ๆ ทำให้สามารถใช้ง่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น 

ใช้รูปภาพประกอบ Prompt ได้

หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพ หรือต้องการใช้รูปภาพเพื่อป้อนคำสั่งให้ชัดเจนมากขึ้น สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ของ Bard อัปโหลดรูปภาพนั้น ๆ  + ป้อนคำสั่ง Prompt เข้าไป โดย Bard จะทำงานร่วมกับ Google Lens เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับรูปภาพนั้น ๆ ให้ อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์นี้ยังรองรับได้แค่ภาษาอังกฤษ แต่เชื่อว่าในอนาคตจะรองรับการใช้งานในภาษาอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน 

ส่งเนื้อหาที่สร้างโดย Bard ไปยัง Gmail และ Google Doc ได้

ผู้ใช้ Bard สามารถส่งออกเนื้อหาหรือคำตอบจากบทสนทนาของ Bard ไปยัง Gmail หรือ Google Doc เพื่อทำงานต่อได้ จึงไม่จำเป็นต้องนั่งคัดลอกข้อความหรือแม้แต่ถ่ายรูปหน้าจอให้เสียเวลาอีกต่อไป

 

เริ่มใช้งาน Bard ตอนนี้! ต้องทำอย่างไร?

เมื่อเห็นฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่ Bard ปล่อยมามากมายขนาดนี้แล้ว ใครที่สงสัยว่า Bard Google ใช้ยังไง และสนใจอยากเริ่มใช้งาน ก็สามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ได้ดังนี้

  1.   Login บัญชีของ Google
  2.   คลิกเข้าไปที่ https://bard.google.com/ หรือพิมพ์คำค้นหา “Google Bard” ลงไปใน Google Search
  3.   คลิก Try Bard เพื่อเริ่มการทดลองใช้
  4.   เริ่มทดลองใช้ Bard Google โดยสามารถพิมพ์ Keyword ป้อนคำสั่งหรือคำถามที่สงสัย ตามภาษาที่ต้องการทั้งกว่า 40 ภาษาที่ Bard สามารถรองรับได้ตอนนี้

google bard คือ

สรุป

Bard Google ถือเป็นแชตบอต AI ที่ไม่หยุดพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในแง่ของการรองรับภาษาต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถประชันกับคู่แข่งอย่าง ChatGPT ได้ 

อย่างไรก็ดี ถึงแม้เวอร์ชันที่อัปเดตล่าสุดนี้จะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากมาย แต่นักการตลาดก็ควรติดตามเทรนด์และข่าวสารไว้เสมอ เพราะเชื่อว่าในอนาคต Bard Google ก็ยังคงจะออกฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

แต่ถ้าผู้ประกอบการท่านใดยังคิดไม่ออกว่าฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Bard จะช่วยให้แผนการตลาดของคุณดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง ปรึกษา Primal Digital Agency ของเราได้เลย เราคือบริษัทรับจ้างทำ SEO ชั้นนำ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดครบครันกว่า 150 คน ถ้าพร้อมแล้วก็คลิกตรวจสอบแผนการตลาดฟรีเพื่อปรึกษาเราได้เลยตอนนี้!