Instagram SEO คืออะไร ช่องทางการดันแรงก์ที่หลายคนอาจมองข้าม

สำหรับธุรกิจสมัยใหม่ การทำ SEO (Search Engine Optimisation) ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในยุคที่คนเราค้นหาทุกสิ่งบน Search Engine ทุกเว็บไซต์ต่างก็ต้องการให้ตนเองขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา เพื่อที่ลูกค้าจะได้มองเห็นและคลิกเข้ามาเป็นเว็บไซต์แรก ๆ ส่วนวิธีทำนั้น นักการตลาดหลายคนคงทราบคร่าว ๆ กันอยู่แล้วว่าเป็นการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของ Google ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ว่าก็มีมากมายมหาศาล และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ของเหล่านัก SEO ที่ต้องคอยอัปเดตเทร็นด์หรือ Google Core Update อยู่เสมอ เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ดี หัวใจหลักของการทำ SEO ที่หลายคนน่าจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้น “คีย์เวิร์ด (Keyword)” กล่าวคือ เว็บไซต์ที่ต้องการทำให้ตนเองได้อันดับดี ๆ บนหน้าผลการค้นหา จะต้องมีการทำ Keyword Research เพื่อหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมกับธุรกิจที่ทำ จากนั้นก็นำคีย์เวิร์ดดังกล่าวมาสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์หรือบล็อกภายในเว็บไซต์ เพื่อที่เวลามีผู้ใช้งานค้นหาคีย์เวิร์ดนั้น ๆ บน Search Engine จะได้เจอเว็บไซต์ของเราทันที และนี่อาจเป็นภาพจำของการทำ SEO ที่อยู่ในหัวของทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้

แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากบนเว็บไซต์แล้ว เรายังสามารถทำ SEO บน Instagram ได้อีกด้วย !

เหมือนกับการทำ SEO ให้เว็บไซต์ การทำ Instagram SEO คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาบัญชีของธุรกิจเราได้ง่ายขึ้น กล่าวคือ เมื่อพวกเขาค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจเราเมื่อใด การทำ SEO บน Instagram อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้โพสต์ต่าง ๆ ของเราถูกค้นหาง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคใหม่มาแรงที่แบรนด์ต่าง ๆ ควรให้ความใส่ใจ เชื่อว่ายุคนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องมีบัญชี Instagram เป็นของตัวเองอย่างน้อยคนละ 1 บัญชีทั้งนั้น ยิ่งสำหรับร้านขายของยิ่งไม่ควรพลาด เพราะถือเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตในการทำการตลาดเลยทีเดียว

ดังนั้น เรามาดูกันเลยว่า Instagram SEO คืออะไร และสามารถทำอย่างไร

Instagram SEO คืออะไร

จากผลสำรวจของ NapoleanCat เมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา พบว่า Instagram มีผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 1,300 ล้านราย และอยู่ที่ 21.44 ล้านรายสำหรับในประเทศไทย ส่งผลให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงมากทั้งในแง่ของการเล่นเพื่อความบันเทิงใจและทั้งในแง่การตลาด เรียกได้ว่าแทบจะแซงหน้า Facebook (Meta) ที่เป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกตลอดกาลเลยทีเดียว

แต่เมื่อมีจำนวนผู้ใช้งานเยอะขนาดนี้ แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการแข่งขันที่สูงลิ่ว แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะเพื่อให้บัญชีธุรกิจของเราถูกมองเห็นมากที่สุด

หากกำลังมองหาคำตอบของโจทย์นี้อยู่ บอกเลยว่ามาถูกบทความแล้ว ! เพราะ Instagram SEO คือกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการสร้างความโดดเด่นให้แก่แบรนด์ อีกทั้งยังสามารุดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านการค้นหาแบบออร์แกนิก (Organic Search) ดังนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินยิงแอดเยอะเท่าเมื่อก่อน และสามารถเก็บงบประมาณไปลงทุนส่วนอื่นได้เลย !

Instagram Search Engine Optimisation หรือ Instagram SEO คือ เทคนิคที่ช่วยให้โพสต์จากบัญชีของเราปรากฏบนหน้าผลการค้นหาเป็นลำดับต้น ๆ อันจะส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาบัญชีของเราเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งกระบวนการทำอาจจะไม่ได้มีอะไรยิบย่อยเท่ากับการทำ SEO เว็บไซต์ เพียงแค่ให้ความสำคัญกับหัวใจหลักของ SEO อย่างการทำ Keyword Research ก็พอ โดยเราสามารถเช็กดูว่าคีย์เวิร์ดประมาณไหนที่ผู้ใช้งานชอบใช้ค้นหาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเรา แล้วนำคำนั้น ๆ มาเขียนในโพสต์ จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของอัลกอริทึมที่จะคัดเลือกคอนเทนต์ที่ดีที่สุดไปจัดแรงก์ในหน้า Search Result ของ Instagram

ทั้งนี้ เราสามารถใส่คีย์เวิร์ดไว้ได้ทั้งในส่วนของแคปชันหรือแฮชแทก แต่ควรกระจายกันอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ เพื่อที่ระบบอัลกอริทึมจะได้มองว่าคอนเทนต์ของเรามีคุณภาพมากพอที่จะนำขึ้นมาจัดอันดับให้กลุ่มเป้าหมายค้นเจอได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของการทำ Instagram SEO คืออะไร

• ได้กระตุ้นยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) โดยเฉพาะในส่วนของยอดวิว เพราะการทำ SEO บน Instagram จะช่วยดันโพสต์ของเราให้อยู่ลำดับแรก ๆ ของหน้าผลการค้นหา ซึ่งเพิ่มโอกาสในการถูกมองเห็นมากขึ้น
• มีโอกาสได้ผู้ติดตามใหม่ ๆ เพิ่มจากการค้นหาแบบออร์แกนิก หากพวกเขาเข้ามาดูหน้าฟีดของเราแล้วรู้สึกสนใจ
• ได้กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและความต้องการในการซื้อสินค้าหรือบริการจริง ๆ เพราะการที่คนเหล่านั้นใช้คีย์เวิร์ดในการค้นหา ก็หมายความว่ามีความตั้งใจจะซื้ออยู่แล้วไม่มากก็น้อย
• ได้ศึกษาคู่แข่งว่าเขามีการนำเสนอคอนเทนต์อย่างไร จุดแข็ง-จุดอ่อนคืออะไร แล้วนำมาพัฒนาคอนเทนต์ของตนเองให้แตกต่างและโดดเด่นกว่า
• ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้บัญชีของเรา ทำให้ผู้ใช้งานที่พบเห็นเกิดความรู้สึกไว้วางใจที่จะเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการ
• ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) จากบางคนที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์ของเรามาก่อน แต่ถ้าค้นหาคีย์เวิร์ดแล้วเจอไอจีของเราเป็นอันดับแรก ๆ ก็จะได้รับรู้ว่าแบรนด์ของเราขายอะไร ซึ่งจะสร้างการจดจำไปเรื่อย ๆ ได้ในระยะยาว

เทคนิคการทำ SEO บน Instagram

เมื่อรู้จักแล้วว่า Instagram SEO คืออะไร ขั้นต่อไปเรามาดูกันว่าเทคนิคการทำ SEO ในไอจีนั้นมีอะไรบ้าง และเราจะสามารถโปรโมตแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นได้อย่างไร โดยกลยุทธ์หลัก ๆ ได้แก่

ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและกำลังเป็นที่นิยม

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหัวใจสำคัญของการทำ SEO คือคีย์เวิร์ด ไม่ว่าจะ SEO บนเว็บไซต์หรือ SEO บน Instagram เราก็ต้องมีการทำ Keyword Research เพื่อหาคำที่เหมาะสมมาใช้ในการทำคอนเทนต์ทั้งสิ้น โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ว่าในช่วงเวลานั้น ๆ มีคีย์เวิร์ดใดบ้างที่ผู้ใช้งานชอบค้นหาถึงสินค้าและบริการของเรา เช่น หากขายอาหารเพื่อสุขภาพ ก็ใช้คำว่า “อาหารเพื่อสุขภาพ” เพื่อที่เวลาผู้ใช้งานค้นหาคำนี้จะได้เจอโพสต์ของเราเป็นอันดับแรก ๆ แต่ข้อควรระวัง คือ ควรใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราเท่านั้น และต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่กำลังได้รับความนิยมด้วย ไม่อย่างนั้นการทำ SEO อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยอาจใช้เครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดช่วย เช่น Keyword Planner หรือ Ubersuggest เป็นต้น

ใส่คีย์เวิร์ดลงไปในไบโอ (Biography) ด้วย

นอกจากจะใส่คีย์เวิร์ดลงไปในโพสต์แล้ว ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่งที่เราควรใส่ลงไปด้วย นั่นคือส่วนของ “ไบโอ” หรือ Biography นั่นเอง สำหรับคนที่สงสัยว่าไบโอไอจีคืออะไร ไบโอไอจีคือส่วนของโพรไฟล์เราที่อยู่ด้านบนสุด ที่คนส่วนใหญ่มักเขียนชื่อ และอธิบายรายละเอียดสั้น ๆ ว่านี่คือโพรไฟล์ของใครหรือเกี่ยวกับอะไร ซึ่งบอกเลยว่าการใส่คีย์เวิร์ดในไบโอนั้นมีอิทธิพลมาก เพราะไม่ว่าผู้ใช้งานจะเซิร์ชในช่องค้นหายูเซอร์เนมหรือหาคอนเทนต์ ระบบก็จะแสดงบัญชีของเราเป็นอันดับแรก ๆ เพราะมีคีย์เวิร์ดตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์หาอยู่ในไบโอไอจี นอกจากนี้ หากมีคนค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเราบน Google ก็มีโอกาสที่อัลกอริทึมจะนำ Instagram ของเราไปจัดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google อีกด้วย อันจะนำมาซึ่งจำนวนผู้เข้าชมโพรไฟล์ (Traffic) ที่มากขึ้น เพราะผู้ใช้งานสามารถคลิกลิงก์จาก Google มายังหน้าไอจีของเราได้ทันที

หมั่นเช็กกระแสตอบรับของแต่ละโพสต์

ในการจะทำ SEO บน Instagram ให้มีประสิทธิภาพนั้น เราต้องคอยเช็กกระแสตอบรับของแต่ละโพสต์ด้วย เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค ว่าพวกเขาชอบหรือไม่ค่อยชอบคอนเทนต์แบบใด โดยอาจใช้เครื่องมือวัดผล Insights ที่อยู่ใน “Insight Instagram” ที่ทางแพลตฟอร์มมีให้ แล้วดูว่าโพสต์ไหนมียอดการมีส่วนร่วมเยอะที่สุด ซึ่งอาจอนุมานได้ว่าผู้บริโภคชอบคอนเทนต์แนวนั้น ครั้งต่อไปเราก็สร้างสรรค์คอนเทนต์สไตล์นั้นอีก แต่พยายามอย่าทำบ่อยหรือทำติด ๆ กันเพราะอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อ ในทางกลับกัน ถ้าโพสต์ไหนมียอดการมีส่วนร่วมน้อย ก็อาจอนุมานได้ว่าคอนเทนต์ดังกล่าวยังไม่ถูกใจผู้ชม เราก็แค่หลีกเลี่ยงไม่ทำคอนเทนต์รูปแบบนั้นอีก ดังนั้น การหมั่นเช็กกระแสตอบรับของแต่ละโพสต์จะช่วยให้เรารู้แนวทางการทำคอนเทนต์ต่อไปในอนาคตได้

แพลนเวลาโพสต์ให้ดี

โซเชียลมีเดียออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมงก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่านึกอยากจะโพสต์ตอนไหนก็โพสต์ได้ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีเวลาที่ควรโพสต์อยู่ หากลงผิดเวลา มีโอกาสที่ยอดการมีส่วนร่วมจะหายไปเกือบครึ่งทีเดียว โดยสถิติจาก Hootsuite และ We Are Social ประจำเดือนเมษายน 2023 ระบุว่า เวลาโพสต์ที่ดีที่สุดของ Instagram จะเป็น

• วันจันทร์ เวลา 10:00-12:00 น.
• วันอังคาร เวลา 09:00-13.00 น.
• วันพุธ เวลา 10:00-13:00 น. และ
• วันศุกร์ เวลา 09:00-11:00 น.
• ไม่แนะนำให้โพสต์วันอาทิตย์

นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ Insight Instagram ในการช่วยวิเคราะห์หาวันและช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ติดตามของเรามักออนไลน์มากที่สุดด้วย เพราะบางทีเวลาโพสต์ที่ดีที่สุดจากสถิติในลักษณะข้างต้นก็เป็นเพียงภาพรวมเท่านั้น ไม่สามารถปรับใช้กับทุกแอ็กเคานต์ได้ ทางที่ดีคือสำรวจไปเลยว่าผู้ติดตามของเราชอบเล่น Instagram เวลาใดบ้าง แล้วเลือกโพสต์คอนเทนต์ในวันและเวลานั้น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกมองเห็น

ใช้แฮชแทกให้เหมาะสม

กลยุทธ์นี้หลาย ๆ คนที่ทำการตลาดออนไลน์น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะการใช้แฮชแทกเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของ Instagram SEO โดยเทคนิคการใช้แฮชแทกที่ถูกต้องเพื่อให้คอนเทนต์ได้รับการมองเห็นมากขึ้นและสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างได้ จะต้องเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม หรือแฮชแทกที่กำลังติดเทร็นด์ในช่วงเวลานั้น ๆ และที่สำคัญคือไม่ควรใช้เยอะจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ดูเหมือนสแปมแล้ว ยังอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายเลื่อนผ่านคอนเทนต์ของเราไปอย่างไม่ใส่ใจอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น Instagram ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้แฮชแทกเพื่อโปรโมตบัญชี ผลพบว่า โพสต์ที่มีแคปชันที่ใช้แฮชแทกได้รับยอดการมีส่วนร่วมมากกว่าโพสต์ที่ไม่มีแฮชแทก เพราะจะแฮชแทกจะช่วยดันให้โพสต์ไปอยู่ในหน้าผลการค้นหาเวลาที่มีผู้ใช้งานเซิร์ชคีย์เวิร์ด แต่แนะนำว่าให้ซ่อนแฮชแทกไว้ข้างล่าง ไม่ให้ปะปนกับเนื้อหาในแคปชัน เพราะจะสามารถดึงดูดสายตาผู้ชมได้ดีกว่า

สรุป

ดังนั้น SEO ในยุคนี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเขียนบล็อกลงเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังสามารถทำบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Instagram ได้ เพื่อที่คอนเทนต์ของเราจะถูกค้นพบได้ง่ายขึ้นบนแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่ได้ขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ บน Google หากเรามีการใช้คีย์เวิร์ดที่ผู้คนนิยมค้นหากันในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งการจะทำ SEO ใน Instagram ให้มีประสิทธิภาพได้ เราควรมีเครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดหรือเครื่องมือวัดผล เพื่อที่เราจะได้เข้าใจในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเองว่า พวกเขากำลังสนใจอะไร ต้องการอะไร แล้วนำมาต่อยอดว่าเราควรสร้างคอนเทนต์แบบไหนให้โดนใจคนเหล่านั้น อันจะนำมาซึ่งการเติบโตของธุรกิจนั่นเอง

สำหรับผู้ประกอบการคนใดที่กำลังมองหาความช่วยเหลือในการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย Primal Digital Agency เอเจนซีการตลาดชั้นนำของไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านออนไลน์กว่า 150 คนที่พร้อมช่วยดันธุรกิจของคุณให้ไปสู่เป้าหมายที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการยิงแอด การสร้างสรรค์โพสต์โฆษณาที่น่าดึงดูด หรือการทำ SEO บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลยวันนี้