อัปเดตด่วน ! Google August 2023 Core Update มีอะไรบ้าง

ในยุคการตลาดสมัยใหม่ที่ความเป็นเทคโนโลยีและดิจิทัลมีแต่จะก้าวไปข้างหน้า ส่งผลให้บนโลกออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราในฐานะนักการตลาดจึงต้องหมั่นตามเทร็นด์ให้ทัน เพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับยุค Digital Transformation ไม่เช่นนั้นอาจล้าหลังคู่แข่งไปหลายก้าวได้ เพราะปัจจุบัน ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดบนโลกออนไลน์กันทั้งนั้น หนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เราสามารถลงสนามแข่งขันกับคนอื่น ๆ ได้ก็คือ การรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

และแน่นอนว่าเหล่าธุรกิจออนไลน์คงไม่มีใครไม่รู้จักการทำ SEO (Search Engine Optimisation) หรือการผลักดันให้เว็บไซต์ขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งในเว็บไซต์และนอกเว็บไซต์ให้ตรงตามเกณฑ์ของ Google ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ว่านี้มีมากมายมหาศาลจนนับแทบไม่ถ้วน แถมยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะทุกไตรมาสเลยทีเดียว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เหล่านักการตลาดและนัก SEO จะต้องคอยอัปเดตเป็นประจำว่าการทำงานของอัลกอริทึมของ Google มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ Google ก็ได้ประกาศ Core Update ฉบับใหม่หลังจากที่มีการอัปเดตครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนมีนาคม เพื่อพัฒนาหน้าผลการค้นหาของ Search Engine ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยบทความนี้จะมาบอกว่า Google August 2023 Core Update มีอะไรบ้าง !

ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับ Google Core Update

อย่างที่เกริ่นไปว่า การจะทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพนั้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนด และเกณฑ์ดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ปีละมากกว่าหนึ่งครั้ง อะไรที่อัลกอริทึมเคยมองว่าดีในอดีต Core Update ครั้งใหม่อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้ ดังนั้น การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Google Core Update จึงสำคัญมาก เพราะการทำตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องจะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหาได้มากกว่า ในทางกลับกัน หากเรายึดตามเกณฑ์เดิม ๆ ไม่ได้อัปเดตตามการปรับปรุงของอัลกอริทึมเลย เว็บไซต์ของเราจากที่เคยอยู่บน ๆ ก็อาจถูกเลื่อนลงมาอยู่ข้างล่าง กระทั่งหายไปจากหน้าผลการค้นหาในที่สุดได้

Google August 2023 Core Update มีอะไรบ้าง

เนื้อหาต้องมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่าน

เรื่องนี้ หลายคนที่ติดตามการอัปเดตของ Google Algorithm อยู่เรื่อย ๆ อาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเมื่อปี 2022 Google ก็ออกมาประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์มากขึ้น และในปีนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แถมมีแนวโน้มว่าจะเข้มงวดมากกว่าเดิม เนื่องจากการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดของ AI (Artificial Intelligence) หรือหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ที่ตอนนี้สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้หลายอย่าง ที่เรารู้จักกันดีก็จะเป็น ChatGPT และ Google Bard AI ซึ่งมีความชาญฉลาดในระดับที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างเป็นธรรมชาติจนดูแทบไม่ออกว่าเป็นมนุษย์หรือ AI เขียน ทำให้ในช่วงหลังมานี้มีคอนเทนต์ที่ถูกเขียนโดยหุ่นยนต์เต็มอินเทอร์เน็ตไปหมด แม้ว่า Google จะเคยออกมาบอกแล้วว่าอัลกอริทึมไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเนื้อหาที่เขียนโดยมนุษย์กับที่เขียนโดย AI ได้ แต่ผลที่ออกมาจริง ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามนั้น จึงอนุมานได้ว่าเราควรเผยแพร่เนื้อหาที่เขียนโดยมนุษย์มากกว่า เพราะต่อให้ AI จะสามารถเขียนงานได้เทียบเท่ามนุษย์เพียงไร แต่ในแง่ของการตอบโจทย์ผู้อ่านที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ก็อาจยังทำได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ด้วยกันเองเป็นผู้เขียนอยู่ดี ดังนั้น ทุกเว็บไซต์จึงต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก มากกว่าแค่การทำคอนเทนต์เพื่อ SEO ไปวัน ๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จาก AI ไม่ได้เลย การที่ AI เติบโตขึ้นทุกวันก็เป็นเรื่องที่ดีต่อนักการตลาด เพราะช่วยทุ่นแรงและเวลาในบางส่วนได้ หากใครต้องการหาไอเดียการเขียนคอนเทนต์จาก AI ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ไม่ควรให้ AI เขียนทั้งหมด แนะนำว่าให้ใช้ AI เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือให้เราสามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้นจะดีกว่า โดยเฉพาะเนื้อหาภาษาไทย ที่ตอนนี้ยังไม่มี AI ตัวไหนสามารถเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับภาษาอังกฤษ หากเราไปใช้ AI เขียน ทั้งผู้อ่านและอัลกอริทึมของ Google ก็จะดูออกทันทีว่านี่ไม่ใช่เนื้อหาที่เขียนโดยมนุษย์ อันจะเป็นผลให้เว็บไซต์ของเราไม่ถูกนำไปจัดอันดับบนหน้าผลการค้นหาได้

Experience ใน E-E-A-T จะมีความสำคัญมากขึ้น

จากเดิมที่ Google ให้เจ้าของเว็บไซต์ยึดหลัก E-A-T หรือ Expertise, Authoritativeness และ Trustworthiness ในการเขียนคอนเทนต์ กล่าวคือ เนื้อหาจะต้องแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญของผู้เขียน ได้รับการยอมรับในวงกว้าง และมีความน่าเชื่อถือ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ E-A-T คืออะไร รู้จักปัจจัยของกูเกิลที่มีผลต่ออันดับเว็บไซต์) แต่ใน Google August 2023 Core Update นี้ Google ได้เพิ่ม E ที่หมายถึง Experience เข้าไปอีกตัว กลายเป็นหลักเกณฑ์ที่ชื่อว่า “E-E-A-T” และตัว E ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้เองที่จะเข้ามามีบทบาทในการเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อัลกอริทึมใช้คัดกรองเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดอันดับ โดย Experience หมายถึง ผู้เขียนเนื้อหานั้น ๆ จะต้องมีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับสิ่งที่เขียน เช่น หากเขียนบทความเกี่ยวกับความรู้ทางการตลาด อัลกอริทึมก็จะมีการตรวจสอบว่าผู้เขียนเป็นใคร เป็นนักการตลาดที่มีความรู้ในแขนงดังกล่าวจริงหรือไม่ หรือหากเป็นผู้บริโภคทั่วไปเขียนคอนเทนต์รีวิวสินค้าหรือบริการ ก็จะตรวจสอบว่าผู้เขียนได้มีประสบการณ์ใช้สินค้าหรือบริการนั้น ๆ หรือเปล่า เพื่อป้องกันคอนเทนต์ที่ไม่เป็นความจริง หลอกลวงผู้อ่าน แล้วให้โอกาสคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ได้ขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ บนหน้าผลการค้นหามากขึ้น

ร่วมงานกับ SEO เอเจนซีชั้นนำ เพื่อหาผู้ช่วยรับมือความเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm

เนื่องด้วย Google August 2023 Core Update มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้บางเว็บไซต์อันดับตกจากที่เคยเป็น ดังนั้น หากใครที่เคยเป็นสามอันดับแรกบนหน้าผลการค้นหาแล้วจู่ ๆ อันดับตกลงมาในช่วงนี้ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเว็บไซต์คุณไม่ได้ละเมิดหรือทำผิดกฎแต่อย่างใด แต่เป็นสาเหตุมาจาก Google August 2023 Core Update เท่านั้น สิ่งที่เราต้องทำก็เพียงแค่ติดตามเทร็นด์เหล่านี้ให้ทัน แล้วปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ Google มองว่ามีคุณภาพ เท่านี้ เว็บไซต์ของเราก็จะสามารถกลับมาเฉิดฉายบนหน้า Search Results ได้เหมือนเดิมแล้ว

ด้วยความที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ นี้เอง ส่งผลให้การทำ SEO ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะทำแล้วก็ประสบความสำเร็จ หลายธุรกิจจึงหันไปพึ่งบริษัทรับทำ SEO กันเสียส่วนมาก เพราะรับประกันผลลัพธ์ได้ดีกว่าทำเอง หากใครรู้สึกว่าการต้องมาคอยนั่งติดตามอัปเดตเทร็นด์ตลอดเวลาเป็นเรื่องยุ่งยาก ที่ Primal Digital Agency ยินดีให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือในทุกด้านที่คุณกังวลเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เราเป็นบริษัทรับทำ SEO ที่ดีที่สุดของไทย และมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คนที่พร้อมดันเว็บไซต์ของคุณให้โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ ติดต่อเราได้เลยวันนี้