PEST Analysis คืออะไร แนวคิดช่วยทำธุรกิจที่นักการตลาดต้องรู้

ในการทำธุรกิจทุกประเภท เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องเจออุปสรรคหรือปัญหาระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทั้งจากในองค์กรเอง หรือปัจจัยภายนอกก็ตาม แต่ยังดีที่หากเป็นปัจจัยภายใน เราสามารถป้องกันและแก้ไขให้โอกาสในการเกิดเหลือน้อยที่สุดได้ แต่สำหรับปัจจัยภายนอก เราไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นมีอะไรบ้าง จะเกิดขึ้นเมื่อไร และอย่างไร

ในบทความก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึง SWOT Analysis ไปแล้ว ซึ่งเป็นเทคนิคการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของธุรกิจ เพื่อให้เราทบทวนและทำความรู้จักองค์กรของตนเองมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้อื่น ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาพูดถึง PEST Analysis” หรือเทคนิคการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจบ้าง เพื่อให้เราสามารถวางแผนรับมือกับปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

ไปดูกันเลยว่า PEST Analysis คืออะไร และมีอะไรบ้างที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้

 

PEST Analysis คืออะไร

PEST Analysis คือ แนวคิดหรือเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและองค์กร พร้อมทบทวนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ จะได้รู้ว่าอะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น อันไหนที่เราสามารถควบคุมได้ อันไหนควบคุมไม่ได้ จากนั้น ก็นำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้มาวางแผนและสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม เพื่อหาวิธีรับมือกับปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่องค์กรไม่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดได้ โดยทั่วไปแล้ว มักใช้คู่กับแนวคิด SWOT Analysis

PEST Model คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

การวิเคราะห์ PEST Analysis มีอะไรบ้าง

PEST Analysis คือ ปัจจัยภายนอก 4 อย่างตามชื่อ ได้แก่ P = Political, E = Economic, S = Social และ T = Technology ซึ่งทั้ง 4 อย่างนี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้โดยตรง และการวิเคราะห์ PEST Analysis ก็จะทำให้เราเห็นภาพรวมของสิ่งเหล่านี้ พร้อมสร้างกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาดูไปพร้อม ๆ กันว่า 4 ปัจจัยภายนอกของ PEST Analysis คืออะไรบ้าง

P – Political (การเมือง)

PEST Analysis ข้อแรก ได้แก่ P ที่ย่อมาจาก Political หมายถึง การเมือง ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย มาตรการต่าง ๆ ของรัฐ ไปจนถึงกฎหมายบังคับใช้ที่มีผลต่อการทำธุรกิจ เช่น นโยบายการขึ้นค่าแรง ทำให้ธุรกิจ SME ต้องเสียทรัพยากรต้นทุนเพิ่มขึ้นในการจ้างพนักงาน ซึ่งสำหรับธุรกิจเล็ก ๆ ที่ยังไม่มีต้นทุนมากนักอาจลำบากได้ หรือจะเป็นมาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้เมื่อราวเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ มาตรการการกักตัวช่วงโควิดระบาดหนัก ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านได้ ธุรกิจที่มีหน้าร้านหลายแห่งจึงจำต้องปิดตัวลงเพราะขาดทุนหนัก ไม่มีลูกค้ามาที่หน้าร้าน ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการธุรกิจเลยทีเดียว แต่บางธุรกิจก็สามารถปรับตัวได้ดี คือ เปลี่ยนไปโฟกัสที่การขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือไลฟ์สดขายกันมากขึ้น ก็ช่วยประคองธุรกิจให้อยู่รอดในช่วงโรคระบาดได้

E – Economic (เศรษฐกิจ)

PEST Analysis ข้อถัดมา คือ E หรือ Economic ที่แปลว่าเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างชัดเจน เพราะธุรกิจจะได้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราเงินเฟ้อ เงินฝืด หรือสภาพความเสี่ยงในการลงทุน อย่างในปัจจุบัน ตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 เป็นต้นมา สภาวะเศรษฐกิจก็เสื่อมถอยลง ถึงจะดีขึ้นบ้างในช่วงหลัง ๆ แต่ก็ไม่ได้มากนัก ทำให้หลายธุรกิจขาดทุน ขายไม่ออก เพราะผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อมากพอ อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี ในทางกลับกัน ถ้าเศรษฐกิจรุ่งเรือง ธุรกิจก็สามารถขยายโอกาสในการเติบโตได้มาก เพราะผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น

S – Social (สังคม)

PEST Analysis ข้อที่สาม ได้แก่ S ที่ย่อมาจาก Social หมายถึง สังคม อันประกอบไปด้วยค่านิยม บรรทัดฐาน วัฒนธรรม วิถีชีวิตประจำวันของผู้คน ไปจนถึงเทร็นด์หรือกระแสที่เป็นไวรัล ณ ขณะนั้น ๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มีความผันผวนสูงมาก เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า สมัยนี้ กระแสสังคมเปลี่ยนทุกวัน รวมไปถึงความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มักเปลี่ยนไปตามเทร็นด์ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ด้วย เช่น ช่วงนี้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลตัวเองกันมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่ได้เปรียบจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นร้านนวด ร้านอาหารคลีน ฟิตเนส หรือแม้กระทั่งธุรกิจบริการเสริมความงามก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน

T – Technology (เทคโนโลยี)

PEST Analysis ข้อสุดท้าย เป็นปัจจัยที่เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจสมัยใหม่แล้วจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ได้แก่ T หรือ Technology ที่หมายถึงความก้าวหน้าของโลก และการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งทางฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค อย่างในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่มาแรงที่สุด คือ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันและตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องรู้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือการเข้ามาของสิ่งใหม่ ๆ เช่น ทุกวันนี้ ธุรกิจไหนที่ไม่ได้ใช้ AI เข้ามาช่วยทำงาน ก็มีโอกาสที่จะล้าหลังคู่แข่ง หรือธุรกิจไหนที่ไม่ได้ปรับตัวตามยุค Cashless Society จะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ไม่รับเงินโอน ลูกค้าก็อาจเปลี่ยนใจไปซื้อร้านอื่น เพราะสมัยนี้ คนพกเงินสดน้อยลง และนิยมโอนเงินกันมากขึ้นเพราะสะดวกสบายกว่า เป็นต้น

วิธีวิเคราะห์ PEST Analysis

การวิเคราะห์ PEST Analysis มีเทคนิคอย่างไร

หาปัจจัยภายนอกแต่ละด้านให้มากที่สุด

ข้อควรระวังอย่างหนึ่งในการวิเคราะห์ PEST Analysis คือ อย่ามองแต่ปัญหาใกล้ตัวจนลืมปัญหาไกลตัวไป เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็น P E S หรือ T เราต้องหาปัจจัยของแต่ละด้านให้ได้มากที่สุด เพราะเราไม่สามารถบอกได้ 100% ว่าในอนาคตจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราบ้าง สิ่งที่เราควรทำจึงเป็นการวิเคราะห์และหาวิธีรับมือปัญหาต่าง ๆ เอาไว้เยอะ ๆ ทั้งในมุมมองของธุรกิจเราเอง คู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือแม้แต่มุมมองของลูกค้าก็ตาม

จัดลำดับโอกาสในการเกิดของปัจจัยเหล่านั้นจากมากไปน้อย

เมื่อเราได้ลิสต์ปัจจัยภายนอกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้แล้ว ลำดับถัดมา คือ การจัดลำดับโอกาสในการเกิดปัจจัยเหล่านั้นว่า อะไรที่มีแนวโน้มจะเกิดและส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรามากที่สุด เช่น ในช่วงที่เกิดโรคระบาด สิ่งที่เราคาดเดาได้อย่างแน่นอน คือ เรื่องภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นสูง ก็ให้เอาปัจจัยนี้ไว้ลำดับแรก และหาวิธีจัดการและรับมือกับภาวะดังกล่าวว่าเราจะประคับประคองธุรกิจในช่วงที่คนซื้อของน้อยลงได้อย่างไร หรือถ้าเป็นกรณีปัจจุบัน ก็อาจคาดเดาได้ว่า ในอนาคต AI อาจสามารถทำงานแทนที่มนุษย์ได้จริง ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก เราก็ต้องมาวิเคราะห์ปัจจัยนี้เป็นลำดับแรก ๆ ว่า จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้กับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องใช้มนุษย์แทน AI หรือ AI แทนมนุษย์ แต่ให้เป็นการอยู่ร่วมกันแทน

วางแผนรับมือปัจจัยภายนอกตามที่ลิสต์ไว้

ขั้นตอนสุดท้ายของการวิเคราะห์ PEST Analysis ได้แก่ การวางแผนรับมือปัจจัยภายนอกด้านต่าง ๆ ตามที่ลิสต์ไว้จากขั้นตอนด้านบน เช่น หากเรากำลังทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงต่อการที่กลุ่มลูกค้าเริ่มเข้ามาที่หน้าร้านน้อยลง กลยุทธ์ที่ดีจึงเป็นการหันไปโฟกัสที่การขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ก็จะมีหลายช่องทาง เราก็ต้องมาดูอีกทีว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามักอยู่บนช่องทางใดมากที่สุด และให้เน้นโปรโมตแบรนด์บนช่องทางนั้น ๆ ไปเลยเพื่อเพิ่มอัตราการมองเห็นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ช่องทางอื่น ๆ เป็นตัวเสริม จะได้สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างได้ เป็นต้น

 

PEST Analysis การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกสำหรับธุรกิจทุกประเภท

ดังนั้น PEST Analysis จึงเป็นหลักการวิเคราะห์ที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะทำให้เราได้ทบทวนและเข้าใจธุรกิจของตนเองมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุมได้อีกด้วย ทางที่ดี ควรใช้ PEST Analysis ควบคู่กับ SWOT Analysis เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด รับรองว่าแม้จะเจออุปสรรคใด ธุรกิจก็พร้อมเผชิญหน้า และไม่พ่ายแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแน่นอน

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญช่วยทำการตลาดออนไลน์ Primal Digital Agency เป็นเอเจนซีชั้นนำของไทย มีมืออาชีพเฉพาะด้านกว่า 150 คน ที่พร้อมผลักดันธุรกิจของคุณให้ไปสู่จุดมุ่งหมายที่คุณวางไว้ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี 30 นาทีได้เลยวันนี้