รวมขนาดรูป Facebook ฉบับอัปเดตล่าสุด 2023 นักโพสต์ต้องรู้ !

โซเชียลมีเดียสมัยนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยการแชร์ข้อความเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยการใช้รูปภาพหรือวิดีโอ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบหลักของการทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ จากผลการสำรวจของ Kissmetrics พบว่า การโพสต์รูปภาพบน Facebook ทำให้มีอัตราการกดไลก์สูงขึ้นถึง 53% เมื่อเทียบกับการโพสต์ลิงก์ วิดีโอ หรือข้อความ นอกจากนี้ ยังเพิ่มยอดคอมเมนต์ให้สูงกว่า 104% และเรตการคลิก (Click-Throughs) สูงถึง 84% เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ต่าง ๆ จึงนิยมใช้ “รูปภาพ” เป็นสื่อหลักการในการทำคอนเทนต์กันอย่างแพร่หลาย

แต่การจะโพสต์รูปภาพลงบน Facebook ก็ไม่ใช่ว่าเราจะถ่ายเสร็จแล้วโพสต์เลย เพราะเราต้องมีการปรับแต่ง แก้ไขรูปภาพนั้นให้ออกมาดีที่สุด และหนึ่งในสิ่งที่จะพลาดไม่ได้ คือ การแก้ปรับ “ขนาดภาพ เพื่อให้เหมาะสมกับการโพสต์แต่ละประเภท

 

ทำไมต้องทำขนาดรูป Facebook

หลายคนอาจสงสัยว่า ลงเลยไม่ได้เหรอ ทำไมต้องปรับขนาดรูปให้เหมาะสมก่อนลง Facebook ด้วย

คำตอบคือ ก็เพื่อให้องค์ประกอบและรายละเอียดของภาพนั้น ๆ อยู่ครบถ้วนเวลาแสดงผลบนหน้าจอของผู้ใช้งาน เพราะไม่ว่าเราจะถ่ายภาพออกมาสวยขนาดไหน ผ่านการแก้ไข ตกแต่ง จัดเรียงองค์ประกอบดีเท่าไร แต่ถ้าหากรูปภาพมีขนาดที่ไม่เหมาะสม เวลาแสดงผลบนหน้าฟีด รูปภาพของเราก็จะถูก Facebook ปรับขนาดให้โดยอัตโนมัติ

หากใครอ่านถึงตรงนี้แล้วคิดว่า “ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วนี่” ขอบอกเลยว่า “ไม่จริง” เพราะว่ารูปภาพส่วนมากที่โดนปรับขนาดโดยอัตโนมัตินี้ ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะตัดตรงขอบบน ขอบล่าง หรือขอบข้างออก ทุกอย่างเป็นการสุ่มของระบบล้วน ๆ ทำให้ภาพส่วนมากที่ไม่ได้ตั้งขนาดมาไว้ตั้งแต่แรก จะแสดงผลแบบถูกตัดรายละเอียดและองค์ประกอบออกไปเยอะเสียจนผู้ใช้งานดูไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว

เมื่อผู้ใช้งานเห็นรูปภาพของเราไม่ครบ ก็สามารถทำให้ความสนใจในโพสต์นั้น ๆ ลดลงไปได้เลย เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาเพียงหลักวินาทีเท่านั้นในการเลื่อนฟีดและประมวลผลว่าโพสต์ไหนน่าสนใจ ถ้าโพสต์ของเราไม่สามารถดึงดูดความสนใจพวกเขาได้ แน่นอนว่าโพสต์นั้นจะถูกเลื่อนผ่านทันที ไม่ต้องพูดถึงการกดไลก์ คอมเมนต์หรือกดแชร์อะไรเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำ Facebook Advertising ยิ่งต้องเลือกใช้รูปภาพที่มีขนาดเหมาะสม เพราะคงจะไม่มีใครลงทุนทำโฆษณาแล้วไม่คาดหวังผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น การวางกลยุทธ์ ออกแบบ จัดวาง และนำเสนอให้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานนั้นจึงสำคัญที่สุด ชนิดที่เรียกได้ว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

รวมขนาดรูปสำหรับลง Facebook

รวมขนาดรูป Facebook Post และ Cover Image ประจำปี 2023

ขนาดรูป Facebook Page Profile Picture

รูปที่เหมาะสมกับการใช้เป็นภาพโพร์ไฟล์ Facebook ควรจะมีอัตราส่วนเป็น 1:1 หรือจัตุรัส (Square Photo) เพื่อให้องค์ประกอบตรงกลางของภาพ (ส่วนมากเป็นโลโก้หรือชื่อแบรนด์) เด่นที่สุด ผู้ใช้งานจะได้เห็นและสังเกตได้ง่าย ๆ โดยขนาดรูปโพร์ไฟล์ที่แสดงผลนั้นจะแตกต่างกันตามอุปกรณ์ที่ใช้ ดังนี้

  • เดสก์ท็อป – 170 x 170 พิกเซล
  • มือถือ – 128 x 128 พิกเซล

ดังนั้น ขนาดที่แนะนำคือ 180 x 180 พิกเซล เผื่อสำหรับภาพที่จะถูกครอปออกเป็นวงกลมด้วย ซึ่งก็จะได้ภาพที่คมชัดทุกขนาดที่แสดงในแต่ละอุปกรณ์ และมีไฟล์ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป

อย่างไรก็ตาม บางเว็บไซต์อาจแนะนำขนาดที่ใหญ่กว่านี้ เช่น 1,200 x 1,200 พิกเซล แต่ความจริง ภาพโพรไฟล์ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟล์ภาพที่ละเอียดถึงขนาดนั้น แนะนำให้เลือกภาพที่มีไฟล์เล็กที่สุดไว้ก่อน เพื่อความรวดเร็วในการแสดงผล

ขนาดรูป Facebook Page Cover Image

สำหรับรูป Cover Image หรือรูปปกก็เช่นเดียวกันกับภาพโพรไฟล์ คือ การแสดงผลในแต่ละอุปกรณ์จะแตกต่างกัน ดังนี้

  • เดสก์ท็อป – 820 x 312 พิกเซล
  • มือถือ – 640 x 360 พิกเซล

ส่วนขนาดที่แนะนำ จะเป็น 820 x 312 พิกเซล แต่อย่าลืมเผื่อ Safe Area เวลาแสดงบนมือถือด้วย เพราะถึงแม้ขนาดนี้จะสามารถใช้ปรับได้กับทั้งสองอุปกรณ์ แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ที่สุด เพราะการแสดงผลบนมือถือนั้น ความกว้างของภาพจะถูกตัดออกไป ทำให้เวลาออกแบบ Safe Area ของทั้งสองอุปกรณ์ คือขนาด 640 x 360 ที่เป็นขนาดของมือถือนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรนำเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญไปวางไว้ที่ขอบภาพด้านซ้ายและด้านขวาเด็ดขาด

ขนาดรูป Facebook Group Cover Image

ก่อนหน้านี้ ขนาดรูป Facebook Group Cover Image จะแตกต่างกับขนาด Page Cover Image แต่หลังจากที่มีการอัปเดตดีไซน์ใหม่ของ Facebook ภาพปกของทั้งสองอย่างที่แสดงบนเดสก์ท็อปก็ถูกปรับให้มีขนาดเดียวกันแล้ว รายละเอียดต่าง ๆ ของ Group Cover Image จึงเหมือนกับ Page Cover Image ส่วนภาพที่แสดงผลบนมือถือนั้นจะยังแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก

ดังนั้น ขนาดรูป Facebook Group Cover Image ที่แนะนำ คือ 820 x 312 พิกเซล เช่นเดียวกับ Facebook Page Cover Image และที่สำคัญ การออกแบบก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกัน คือ ควรวางเนื้อหาให้อยู่ใน Safe Area ที่มีขนาดประมาณ 640 x 360 พิกเซล

ขนาดรูป Facebook Feed Square Image (ภาพจัตุรัสไม่มีลิงก์)

เป็นรูปแบบการโพสต์ Facebook พื้นฐานที่นิยมใช้กันทั่วไป ใช้งานสะดวก ออกแบบอาร์ตเวิร์กได้ง่าย และสามารถนำไปใช้ได้กับหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องปรับแต่งหรือแก้ไขอะไร ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Twitter และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ

ขนาดรูปที่เหมาะสม ควรใช้ที่ 1,200 x 1,200 พิกเซล ซึ่งเป็นขนาดที่แสดงภาพได้ใหญ่ที่สุด และหากมีข้อความในภาพ ไม่ควรเกิน 20% ของพื้นที่ภาพ เพื่อความสวยงามและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านง่ายมากขึ้น โดยจำนวนตัวอักษรไม่ควรเกิน 125 ตัวอักษรโดยประมาณ (ไม่เกิน 3 บรรทัด) จะทำให้แสดงข้อความได้ครบถ้วน หากยาวกว่านี้ ข้อความจะถูกซ่อนไว้ และผู้ใช้งานต้องคลิกเพื่ออ่านข้อความเพิ่มเติมเอาเอง และอย่างที่รู้กันว่า ผู้ใช้งานในปัจจุบันเน้นการกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจในไม่กี่วินาทีแรกก็จะเลื่อนผ่านไปอย่างง่ายดาย ดังนั้น หากข้อความถูกซ่อน โอกาสที่ผู้ใช้งานจะคลิกเพื่ออ่านต่อนั้นมีน้อยมากถ้าคอนเทนต์ของเราไม่น่าสนใจจริง ๆ

ขนาดรูป Facebook Feed Horizontal (ภาพแนวนอนไม่มีลิงก์)

ภาพแนวนอนสัดส่วน 16:9 เหมาะสำหรับการโพสต์ที่เน้นภาพถ่าย และภาพมุมมองแบบภาพยนตร์ สามารถใช้งานทั่วไปได้ทุกรูปแบบ โดยขนาดที่เหมาะสม จะอยู่ที่ 1,200 x 630 พิกเซล ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกับภาพจัตุรัส กล่าวคือ หากมีข้อความในภาพก็ไม่ควรเกิน 20% ของพื้นที่ เพื่อจะที่ได้ไม่ดูอัดแน่นเกินไปจนไม่น่าอ่าน

ขนาดรูป Facebook Feed Vertical (ภาพแนวตั้งไม่มีลิงก์)

เป็นขนาดรูปสัดส่วน 4:5 ที่มีพื้นที่การแสดงเนื้อหามากที่สุด เหมาะสำหรับภาพลักษณะอินโฟกราฟิกที่มีรายละเอียดเยอะ สามารถแสดงทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อปได้อย่างสวยงาม ถือเป็นอีกขนาดรูปที่น่าสนใจ แต่คนยังใช้งานกันค่อนข้างน้อย โดยขนาดรูป Facebook Feed Vertical ที่เหมาะสม ควรใช้ที่ 960 x 1,200 พิกเซล 

ขนาดรูป Link Post Image (โพสต์ภาพพร้อมแชร์ลิงก์)

การโพสต์ภาพลักษณะนี้ เรียกว่าเป็นภาพสัดส่วน 16:9 ถือเป็นการโพสต์พื้นฐานรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการสื่อสารเนื้อหาที่มีความยาวมาก เพราะเป็นวิธีที่ง่าย และไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากแชร์ URL ของเว็บไซต์ที่เราต้องการไปยัง Facebook โดย Facebook ก็จะทำการดึงภาพจาก URL นั้น ๆ มาแสดง ซึ่งโดยปกติจะเป็นภาพปกหรือภาพแรกของเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เรานำลิงก์มาแชร์ แต่หากเราต้องการกำหนดว่าภาพไหนที่จะนำมาแสดงผลบนหน้าฟีด ก็สามารถกำหนดได้ด้วยการใช้แทก og:image อันเป็นคำสั่งพื้นฐานที่มักจะมีในระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปทั่วไป

ทั้งนี้ ขนาดรูป Link Post Image ที่แนะนำ คือ 1,200 x 630 พิกเซล ส่วนข้อความในภาพก็ไม่ควรเกิน 20% ของพื้นที่ภาพเช่นกัน ส่วนหัวข้อหรือ Headline ของลิงก์จะปรากฏแค่ 25 ตัวอักษร และคำบรรยายเนื้อหาของลิงก์ หรือ Link Description จะปรากฏ 30 ตัวอักษร หากเกินกว่านี้จะถูกซ่อนไว้

ขนาด Stories และ Reels

นับตั้งแต่ที่ Facebook เพิ่มฟีเจอร์ Stories และ Reels เข้ามา วิธีการใช้งานก็เปลี่ยนไปทันที เพราะการสร้างสตอรีนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งยังมียอดมองเห็นที่สูงอีกด้วย ดังนั้น การทำคอนเทนต์ผ่านสตอรีจึงนับว่ามีประสิทธิภาพมาก เพราะแม้ผู้ใช้งานจะไม่เห็นในหน้าฟีด แต่พวกเขาก็ยังมีโอกาสเห็นผ่านสตอรีได้ ซึ่งขนาดรูปภาพที่เหมาะสมสำหรับการทำสตอรีก็คือ 1080 x 1920 พิกเซล หรืออยู่ที่อัตราส่วน 9:16 นั่นเอง

ขนาดรูปแบบ Album Post

การโพสต์แบบอัลบั้มก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กัน โดยเราสามารถใส่ลูกเล่นในแต่ละภาพให้ช่วงรอยต่อของภาพดูต่อเนื่องกัน ทำให้เป็นไอเดียงานครีเอทีฟที่ดูมีความสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี แต่การจะทำให้ภาพต่อเนื่องกันได้นั้น สิ่งที่เราต้องทราบก็คือ ขนาดรูปในอัลบั้ม โดยเฉพาะขนาดของรูปปกอัลบั้ม หรือ Album Cover สามารถแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ ดังนี้

  • รูปแบบแรก หากเราอยากโพสต์อัลบั้มแบบปกแนวนอน ด้วยภาพปก 1 ภาพ และภาพประกอบ 2 ภาพ ภาพปกควรมีขนาด 1,080 x 540 พิกเซล
  • รูปแบบที่สอง คือ ภาพปกแนวนอน 1 ภาพ และภาพประกอบ 3 ภาพขึ้นไป ภาพปกที่ใช้ควรมีขนาด 1,080 x 720 พิกเซล
  • รูปแบบที่สาม หากเราอยากโพสต์อัลบั้มแบบปกแนวตั้ง ด้วยภาพปก 1 ภาพ และภาพประกอบ 2 ภาพ ภาพปกควรมีขนาด 540 x 1,080 พิกเซล
  • รูปแบบที่สี่ คือ ภาพปกแนวตั้ง 1 ภาพ และภาพประกอบ 3 ภาพขึ้นไป ภาพปกที่ใช้ควรมีขนาด 720 x 1,080 พิกเซล

ส่วนภาพประกอบของทุกรูปแบบ สามารถอัปโหลดภาพสัดส่วน 1:1 ขนาด 1,080 x 1,080 พิกเซลได้เลย

ขนาดรูป facebook 2023

ลิสต์สรุปขนาดรูป Facebook ฉบับอัปเดต 2023

  • Facebook Page Profile Picture – 170 x 170 พิกเซล
  • Facebook Page Cover Image – 851 x 315 พิกเซล
  • Facebook Group Cover Image – 851 x 315 พิกเซล
  • Facebook Event Cover Image – 1,200 x 628 พิกเซล
  • Facebook Feed Square Image (ภาพจัตุรัสไม่มีลิงก์) – 1,200 x 1,200 พิกเซล
  • Facebook Feed Vertical (ภาพแนวตั้งไม่มีลิงก์) – 960 x 1,200 พิกเซล
  • Facebook Feed Horizontal (ภาพแนวนอนไม่มีลิงก์) – 1,200 x 630 พิกเซล
  • Facebook Link Post Image (แชร์ลิงก์) – 1,200 x 630 พิกเซล
  • Facebook Stories – 1,080 x 1,920 พิกเซล
  • Album Post (1 Cover แนวนอน + 2 ภาพประกอบ)
    • ภาพ Cover – 1,080 x 540 พิกเซล
    • ภาพประกอบ – 1,080 x 1,080 พิกเซล
  • Album Post (1 Cover แนวนอน + 3 ภาพประกอบ)
    • ภาพ Cover – 1,080 x 720 พิกเซล
    • ภาพประกอบ – 1,080 x 1,080 พิกเซล
  • Album Post (1 Cover แนวตั้ง + 2 ภาพประกอบ)
    • ภาพ Cover – 540 x 1,080 พิกเซล
    • ภาพประกอบ – 1,080 x 1,080 พิกเซล
  • Album Post (1 Cover แนวตั้ง + 3 ภาพประกอบ)
    • ภาพ Cover – 720 x 1,080 พิกเซล
    • ภาพประกอบ – 1,080 x 1,080 พิกเซล

 

ใคร ๆ ก็ทำขนาดภาพลง Facebook ได้ !

หากใครอ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังเป็นกังวลว่าจะทำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ในการใช้โปรแกรมตัดต่อเลย ขอบอกเลยว่าอย่าเพิ่งหมดหวังไป ! เพราะปัจจุบัน มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้เราสร้างสรรค์รูปภาพที่มีขนาดเหมาะสมกับการโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์อย่าง Adobe Lightroom หรือแม้แต่แพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง “Canva” ที่มาพร้อมกับตัวช่วยการสร้างขนาดอัตโนมัติ เพียงแค่เราพิมพ์ประเภทของโพสต์ที่ต้องการจะนำภาพไปใช้ ทางแพลตฟอร์มก็จะมีขนาดสำเร็จรูปขึ้นมาให้เลย พร้อมกับไอเดียการจัดวาง ตกแต่ง และเทมเพลตมากมาย ซึ่งเราสามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ ดังนั้น ไม่ว่าใคร ๆ ก็ทำขนาดภาพลง Facebook ได้ !

อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าการที่นักการตลาดต้องมานั่งเช็กแต่ละรูปว่าต้องใช้ขนาดเท่าไรและทำอย่างไรนั้นต้องใช้เวลาไม่น้อย แน่นอนว่าการมีผู้ช่วยอาจดีกว่า โดย Primal Digital Agency เอเจนซีชั้นนำของไทย รับทำโฆษณาทุกประเภทแก่แบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเวลาตรงไปนี้โฟกัสที่การทำการตลาดส่วนอื่นได้เลย