วิธีลงโฆษณาในไลน์ ทำง่าย ๆ ถึงกลุ่มเป้าหมายแน่นอน!

หลังจากที่เปิดบริการมาถึง 10 ปี “LINE” แอปพลิเคชันชื่อดังที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารก็มีผู้ใช้งานในประเทศไทยสูงถึง 50 ล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ๆ เพราะเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว ตัวเลขนี้มากกว่า 2 ใน 3 เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ปัจจุบันแบรนด์และเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจจะมีการทำ LINE Advertising กันเยอะมากยิ่งขึ้น 

LINE Advertising คืออะไร

LINE Advertising (LINE Ads) คือช่องทางทำการตลาดออนไลน์ด้วยการลงโฆษณาบนแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งก็เหมือนดั่งโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่คุณสามารถกำหนดจุดประสงค์ของแคมเปญ กลุ่มเป้าหมาย ช่วงเวลาที่จะแสดงโฆษณาและงบประมาณได้

LINE Advertising มีข้อดียังไงบ้าง

เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ

ด้วยความที่ LINE เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการติดต่อสื่อสารหลักของชาวไทย ทำให้การลงโฆษณาผ่าน LINE Ads นั้นสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมากได้ ซึ่งในส่วนนี้ช่วยส่งเสริมการเพิ่ม Brand Awareness ที่สามารถต่อยอดเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้

รักษาฐานลูกค้าเดิม

การลงโฆษณาบน LINE Ads นั้นช่วยเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ (Engagement) ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้ เนื่องจากเป็นช่องทางการสื่อสารที่ใช้งานได้ง่ายดาย ไม่ต้องกดคลิกอะไรมากมาย

ตัวเลือกที่หลากหลาย

การทำโฆษณาบน LINE มีข้อดีที่โดดเด่นเหนือกว่าการลงโฆษณาบนแอปพลิเคชัน อื่น ๆ เพราะมีตัวเลือกรูปแบบการโฆษณาที่หลากหลายอย่างมาก ซึ่งตอบโจทย์และครอบคลุมสำหรับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนหรือมีขนาดใด โดยคุณสามารถเลือกทำรูปแบบการลงโฆษณาบน LINE ได้ดังนี้

  • Cost Per Click (คิดค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการคลิก) 
  • Cost Per Action (คิดค่าใช้จ่ายตามยอดปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งาน)
  • Cost Per Friend (คิดค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการเพิ่มเพื่อน)
  • Cost Per 1,000 Impressions (คิดค่าใช้จ่ายต่อการมองเห็น 1,000 ครั้ง)
  • Cost Per Video (คิดค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการดูวิดีโอ)
  • Cost Per Install (คิดค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการติดตั้งแอปพลิเคชัน) 

นอกจากนี้ สถานที่ที่โฆษณาของคุณจะไปปรากฏนั้น มีทั้งบนแอปพลิเคชัน LINE  ทั้งในส่วนของหน้าแชต หน้าไทม์ไลน์ หน้าข่าวสาร (LINE Today) รวมถึงหน้าวอลเล็ต ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากเลยทีเดียว

ยิงแอดไลน์ LINE Business ID

วิธีลงโฆษณาในไลน์ 

1. เตรียมบัญชี LINE Business ID 

เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz ซึ่งถ้าคุณมีบัญชี LINE Business ID อยู่แล้วก็สามารถเลือก “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ” ได้เลย หากคุณยังไม่มีบัญชีก็สามารถกด “สร้างบัญชี” แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ 

2. สร้างบัญชีโฆษณา

เลือกที่เมนูแล้วคลิก “สร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณาใหม่” กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ตามขั้นตอนให้ครบถ้วน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วกด “สร้าง”

3. เลือกรูปแบบการชำระเงิน

การลงโฆษณาบน LINE มีค่าใช้จ่าย ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องผูกบัญชีโฆษณาเอาไว้กับช่องทางการชำระเงินที่คุณสะดวก ซึ่งมีให้คุณเลือกทั้ง Rabbit LINE Pay และบัตรเครดิต ในส่วนนี้หลังจากที่คุณทำการเชื่อมบัญชีหรือบัตรเสร็จแล้ว ทาง LINE จะมีการพิจารณาอนุมัติบัญชีโฆษณาของคุณโดยใช้เวลาราว ๆ 48 ชั่วโมง (2 วันทำการ)

**ข้อควรระวัง** คุณต้องหมั่นตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชี Rabbit LINE Pay หรือบัตรเครดิตให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา LINE Ads ด้วย 

4. สร้างแคมเปญโฆษณา

หลังจากที่บัญชีโฆษณาบน LINE ของคุณได้รับการอนุมัติแล้วเรียบร้อย คุณก็สามารถเริ่มทำโฆษณาได้ โดยคลิกที่เมนู “สร้างแคมเปญ” แล้วเลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและสินค้าของคุณ เมื่อเสร็จแล้ว ระบบจะมีช่องให้คุณระบุงบประมาณของแคมเปญรวมถึงระยะเวลาในการทำแคมเปญ

5. สร้างกลุ่มโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

ขั้นตอนต่อไป คุณสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาได้ในส่วนนี้กรณีที่คุณมีโฆษณาหลายตัวในแคมเปญเดียวกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกจะสร้างหรือไม่สร้างก็ได้ แต่ในส่วนที่คุณไม่สามารถข้ามก็คือ “การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย” โดยระบบจะให้คุณเลือกพื้นที่ เพศ อายุ และ OS (ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์) ซึ่งในส่วนนี้ เราแนะนำให้คุณดูตามข้อมูลจากลูกค้าใน LINE Official Account ของคุณแล้วนำมาปรับใช้

6. สร้างคอนเทนต์สำหรับการทำโฆษณาบน LINE

ในขั้นตอนสุดท้ายของการลงโฆษณาบน LINE ก็คือระบบจะให้คุณอัปโหลดคอนเทนต์ ซึ่งอาจจะเป็นรูปภาพ หรือวิดีโอ แล้วเขียนคำอธิบายต่าง ๆ ให้ครบ ในส่วนนี้ คุณจำเป็นต้องเตรียมรูปภาพ หรือวิดีโอ มาก่อนล่วงหน้า โดยขนาดของรูปภาพที่เหมาะสมสำหรับการลงโฆษณาบน LINE คือ 1080 x 1080 px หรือ 1200 x 628 px และสำหรับวิดีโอคือ 1080 x 1080 px หรือ 1280 x 720 px

อย่าลืมสร้าง LINE ของธุรกิจใน MyShop!

ถึงแม้ว่าคุณจะทำตามวิธีลงโฆษณาในไลน์ตามด้านบนเสร็จสิ้นแล้ว แต่เราอยากจะเสนอให้คุณสร้างบัญชี LINE ของธุรกิจใน MyShop – ช่องทางการขายสินค้าและบริการออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน LINE โดยตรง เพราะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าในการดูรายการสินค้า รายละเอียดโปรโมชัน รวมถึงการซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายแอปพลิเคชัน เรียกได้ว่าครบ จบ ปิดการขายได้ในแอปฯ เดียว!