วิธีทำ GDN ฉบับเข้าใจง่าย อ่านแค่ 5 นาทีรู้เรื่อง

ในบทความที่แล้วเราได้ทำความรู้จักว่า GDN คืออะไรกันไปแล้ว ในบทความนี้ เราจะมาบอกถึงวิธีการทำ Google Display Network ว่ามีขั้นตอนหรือวิธีการอย่างไรบ้าง ตั้งแต่เริ่มจนจบกระบวนการ รวมถึงวิธีการคิดเงินค่าโฆษณาว่าเป็นอย่างไร 

อย่างที่หลายคนทราบกันว่า การที่เราจะลงโฆษณากับ Google หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Google Ads ได้นั้นไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแค่เรามี Account ของ Google และมีบัตรเครดิต ก็สามารถลงโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Google ได้แล้ว แต่การลงโฆษณาให้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจต่างหาก เป็นความท้าทายที่ทุกคนต้องเผชิญ

ประโยชน์ของ GDN ที่ทุกคนควรรู้

ทำไมธุรกิจต่าง ๆ จึงควรทำโฆษณาแบบ GDN? ข้อดีของ GDN ที่สำคัญคือ การที่เราสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่าง  ๆ และสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการได้ กล่าวคือ GDN มี Placement และ Format ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกประเภทของเว็บไซต์ที่เราจะนำไปลงได้ สามารถกำหนดรูปแบบการจ่ายค่าโฆษณาได้ ว่าจะจ่ายแบบ Pay Per Click หรือจะจ่ายแบบ Cost per Impression และสามารถกำหนดทำ Re-Marketing โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้เช่นกัน ซึ่งวิธีทำ GDN เป็นอย่างไรนั้น เราลองมาทำไปพร้อม ๆ กันเลย

วิธีทำ GDN แบบ Step by Step


วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 1


  1. Log in เข้าไปที่ Google Ads account แล้วเลือก “Campaigns” คลิก “+” จะมีเมนูปรากฏขึ้น ให้เลือก “New campaign”

    วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 2

  2. เลือกวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาในครั้งนี้ โดยแบ่งเป็น Sales, Leads, Website Traffic, Product and Brand Consideration, Brand Awareness and Reach, App promotion เมื่อเราเลือกแล้วทาง Google จะเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมให้กับเรา แต่ถ้าเรายังไม่แน่ใจก็สามารถเลือกการทำโฆษณาแบบไม่มีวัตถุประสงค์ได้ ก็จะขึ้นรูปแบบของ Google Ads ทั้งหมดขึ้นมา

    วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 3.1

    วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 3.2


  3. หลังจากนั้นจะมีรูปแบบของแคมเปญ ให้เลือก ให้เราเลือกที่ Display ใส่หน้า Webpage ที่เราต้องการให้ลูกค้าเข้าไป และใส่ชื่อ Campaign กด Continue


    วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 4


  4. จากนั้นหน้าจอจะพาเข้าไปที่หน้า Campaign settings วิธีทำ GDN ขั้นตอนนี้จะให้เราเลือก Location ซึ่งเราสามารถเลือกตามประเทศ หรือเฉพาะเจาะลงไปอีก และภาษาที่ลูกค้าของเราใช้ แล้วกด Next


    วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 5


  5. ใส่งบประมาณ โดยมี 3 หัวข้อที่เราต้องกำหนดดังนี้ 
    • กำหนดงบประมาณที่เราต้องการใช้ต่อวัน 
    • ใส่วัตถุประสงค์ที่เราต้องการ ซึ่งจะเป็นตัวแบ่งวิธีการจ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับ Google ด้วย กล่าวคือ หากว่าเราต้องการให้คนคลิกเว็บไซต์เราจำนวนมาก เพื่อเพิ่ม Traffic หรือต้องการ Conversion ทาง Google ก็จะเลือกวิธีการจ่ายเงินต่อการที่ลูกค้าคลิก 1 ครั้ง หรือ CPC (Cost Per Click) แต่หากว่าเราต้องการสร้างการรับรู้หรือ Awareness จำนวนมาก การใช้ Cost per 1000 impressions หรือ CPM ซึ่งจะเป็นราคาต่อ 1,000 ครั้งที่คนเห็นโฆษณาดังกล่าว
    • การ Bid ราคาค่าโฆษณา โดยทาง Google จะคำนวณราคาค่าโฆษณาในแคมเปญที่ใกล้เคียงกับเราเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่หากว่าใครสายเปย์หรือไม่แน่ใจก็สามารถเลือกแบบอัตโนมัติได้นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเป็นแบบ Bid Strategy ได้เช่นเดียวกัน


      วิธีทำ GDN ขั้นตอนที่ 7


  6. เลือกกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ วิธีทำ GDN ให้ได้ผลเป็นที่มีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ ตรงนี้ Google จะให้เราเลือกได้ว่าผู้ที่จะเห็นโฆษณาของเราจะเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย มีความสนใจด้านสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องอย่างไร รวมถึงสามารถเลือกได้ว่าเราอยากให้โฆษณาของเราไปปรากฏที่เว็บไซต์ใด เพื่อที่จะเจาะกลุ่มที่เป็นผู้ที่สนใจสินค้าของเรา หรือกลุ่มที่เป็นลูกค้าของเราในอนาคตนั่นเอง 
  7. เลือกรูปแบบโฆษณาที่ต้องการ อัปโหลดแบนเนอร์หรือวิดีโอโฆษณาที่เราทำไว้แล้วลงไป แล้วกด Next ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วกด Publish Campaign เป็นอันสำเร็จ จบวิธีทำ GDN ในเบื้องต้น

พอได้รู้ถึงวิธีทำ GDN เป็น Step และทำตามไปด้วยอย่างนี้ ดูไม่ยากเลยใช่ไหม เพราะเพียงแค่เราใส่รายละเอียดต่าง ๆ จนครบ เราก็จะสามารถสร้าง Google Display Ads ที่สวยงามและตรงตามวัตถุประสงค์ของเรา พร้อมเผยแพร่ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย แต่ในความเป็นจริงนั้น วิธีการทำโฆษณาแบบ Google Display Network ให้ประสบความสำเร็จ และบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างสวยงาม มีรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด เพื่อสามารถสร้างการรับรู้และนำไปสู่ Conversion ในท้ายที่สุด และยังมีเรื่องของการ Optimizing Performance รวมถึงการทำแบนเนอร์หรือวิดีโอให้สวยงาม มีข้อความที่ดึงดูดและน่าสนใจ ชวนให้คลิกไปที่เว็บไซต์เพื่อรับชมรายละเอียด ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและเครื่องมือต่าง ๆ เป็นตัวช่วยที่ให้การ Google Display Ads มีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ