Progressive Web App คืออะไร ทำไมตอบโจทย์ผู้ใช้แอปฯมากกว่า

ปัจจุบันแอปพลิเคชัน (Application) หรือโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานในสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง! ซึ่งในแต่ละระบบปฏิบัติได้มีการผลิตแอปฯ ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่แอปพลิเคชันด้านการศึกษาไปจนถึงความบันเทิง ที่มีให้เลือกดาวน์โหลดตั้งแต่ของฟรี ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ต้องเสียเงิน 

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันบางแอปพลิเคชันจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด แต่ผู้ใช้งานหลาย ๆ คน กลับเลือกที่จะไม่ติดตั้งแอปพลิเคชันในอุปกรณ์ของตัวเองเท่าไรนัก เนื่องจากกลัวว่าจะสิ้นเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้น Google จึงได้เกิดไอเดียในการทำ Progressive Web Apps (PWA) หรือการพัฒนาเว็บฯ ธรรมดาให้ใกล้เคียงกับแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดลงเครื่องมากที่สุด ว่ากันว่าเจ้าเว็บฯ ตัวนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้เทียบเท่าหรือสะดวกกว่าแอปฯ ที่ติดตั้งบางตัวเสียด้วย สำหรับใครที่อยากรู้ว่า Progressive Web App คืออะไร และจะทำหน้าที่แทนแอปพลิเคชันที่ติดตั้งได้จริงไหม รวมถึงจะแตกต่างจาก Web Application แบบธรรมดาอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย!

 

ทำความรู้จัก Progressive Web App คืออะไร

หลายคนอาจรู้จัก Web Application ว่าเป็นโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้กับเบราวเซอร์ต่าง ๆ เช่น Google Chrome, Safari แต่ Google ยังมีรูปแบบการพัฒนาเว็บฯ อีกแบบที่ชื่อว่า Progressive Web Apps (PWA) ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เช่นเดียวกัน

โดย Progressive Web Apps (PWA) คือการพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสร้างประโยชน์ได้คล้ายกับแอปพลิเคชัน อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านเบราวเซอร์ต่าง ๆ และไม่จำเป็นต้องติดตั้งในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน แม้คอนเซ็ปต์จะคล้ายคลึงกับ Web Application แต่ Progressive Web Apps จะมีบทบาทเพิ่มเติมตรงที่สามารถผสมผสานการใช้งานกับเว็บไซต์ทั่วไปทำให้สามารถแปลงร่างตัวเองให้ใช้งานง่ายเหมือนกับแอปพลิเคชันมากขึ้น โดย Google ได้ผลิต Progressive Web Apps ขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ดังนี้

ต้องมีความน่าเชื่อถือ : Google ให้ความสำคัญกับเรื่องความน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น Progressive Web Apps จึงควรสามารถโหลดเนื้อหาได้แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม

ต้องตอบสนองได้รวดเร็ว : ความรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้งานยุคนี้ Progressive Web Apps จึงจำเป็นต้องตอบสนองผู้ใช้งานทันที และควรลดความล่าช้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนดูหรือโหลดในเว็บฯ 

จำลองแอปฯ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ : Progressive Web Apps ต้องมีหน้าตา ฟังก์ชัน และลูกเล่นคล้ายคลึงกับแอปพลิเคชันมากที่สุด รวมถึงต้องมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าด้วย 

ข้อดีของ Progressive Web App

Progressive Web App สำคัญอย่างไร? 

เมื่อ Google พัฒนาให้ Progressive Web Apps ทำงานได้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับในแอปฯ หลายคนก็คงสงสัยว่าถ้าโหลดแอปฯ มาใช้จะไม่ง่ายกว่าหรอ คำตอบก็คือไม่เป็นเช่นนั้น เพราะ Progressive Web Apps ที่พัฒนาขึ้นมา จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่า เพราะจากสถิติในการใช้งานของคนส่วนใหญ่ ผู้ใช้งานแอปฯ มีแนวโน้มดาวน์โหลดแอปฯ กันน้อยมาก เพราะมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องความจุของการจัดเก็บภายในเครื่อง ความยุ่งยากของการติดตั้ง รวมถึงความเคยชินในการใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งการมี Progressive Web Apps จะทำให้พวกเขาไม่ต้องติดตั้งแอปฯ ให้ยุ่งยาก แต่กลับสามารถใช้งานแอปฯ นั้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าการติดตั้งแอปพลิเคชัน จึงทำให้ Progressive Web Apps สำคัญอย่างมากกับการใช้งานของผู้บริโภคในขณะนี้ เพราะสามารถลดขั้นตอนจากการที่ต้องเข้า Store > ค้นหาแอปฯ > รอดาวน์โหลด > ติดตั้ง > กดรับ Permission  > เริ่มใช้งาน ทำให้ขั้นตอนเหลือเพียงแค่ เข้าเว็บไซต์ > กด Add to Home screen > เริ่มใช้งาน เพียงเท่านั้นก็เรียบร้อย 

 

จุดเด่นของ Progressive Web App

หากมองผ่าน ๆ Progressive Web Apps ก็ดูคล้ายคลึงกับ Web Application ทั่วไป แต่แท้จริงแล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันพอสมควร โดยจุดเด่นที่ทำให้ Progressive Web Apps โดดเด่นมากกว่าการใช้งานแอปพลิเคชันหรือ Web Application มีดังนี้

ดาวน์โหลดรวดเร็วตอบสนองทันใจผู้ใช้งาน

ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากหน้าเว็บฯ ไม่สามารถแสดงผลได้ทันใจผู้ใช้งานภายใน 3 วินาที ผู้ใช้งานก็จะกดออกจากหน้าเว็บฯ ทันทีและอาจไม่กลับเข้ามาอีก ทำให้เว็บไซต์สูญเสียกลุ่มเป้าหมายไปได้  Google จึงพัฒนาให้ Progressive Web Apps ที่มีความรวดเร็วเพื่อตอบสนองผู้ใช้งาน โดย Progressive Web Apps จะมีการเก็บ Cache ของเบราวเซอร์ทุกครั้งที่มีการเข้าใช้งานในเว็บฯ ทำให้เมื่อเรียกใช้งานเว็บเบราเซอร์อีกครั้ง ก็จะเป็นการเรียกข้อมูลจากที่ Cache เพื่อมาแสดงผลได้ทันที ทำให้เว็บฯ ไม่จำเป็นต้องขอข้อมูลจาก Server ทำให้การใช้งาน Progressive Web Apps มีความรวดเร็วไม่ว่าจะคลิกไปหน้าไหน รวมถึงทั้งภาพหรือวิดีโอก็สามารถตอบสนองทันใจผู้ใช้งาน

ฟังก์ชันการใช้งานทัดเทียมหรือดีกว่าแอปพลิเคชัน

Google พัฒนาลูกเล่นให้ Progressive Web Apps ใกล้เคียงกับแอปฯ มากที่สุด โดยหยิบเอาฟังก์ชันดี ๆ ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชันมาผสมผสานเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่มีในเว็บไซต์ ทำให้การแสดงผลลื่นไหลจนรู้สึกได้ว่า สามารถใช้งานได้ทัดเทียมหรือดีกว่าการใช้งานกับตัวแอปฯ ด้วยซ้ำ โดยฟังก์ชันที่พัฒนาจนทำให้ Progressive Web Apps ใช้งานได้ดีกว่าแอปพลิเคชันหรือ Web Application มีดังนี้

  • Progressive Web Apps สามารถใช้งานจากเว็บฯ ได้ง่ายแบบเดียวกับแอปฯ และยังดีกว่าในแง่ที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งและอัปเดตผ่าน Store ทำให้กินพื้นที่น้อยกว่า
  • แสดงผล Progressive Web Apps ได้แบบเต็มจอโดยไม่จำเป็นต้องมี Address Bar ของเบราวเซอร์
  • หน้า UI ของ Progressive Web Apps มีลูกเล่นแบบเดียวกับแอปฯ ทำให้แอปพลิเคชันมีความน่าสนใจ นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถปรับแต่งฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้เว็บฯทำงานได้แบบเดียวกันหรือดีกว่าแอปฯ อีกด้วย
  • มีระบบ Notification เหมือนในแอปพลิเคชัน ที่จะแจ้งเตือนตลอดเวลาแม้ไม่ได้เปิดเว็บฯ ทำให้สามารถอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอดแม้ไม่ได้เปิดเว็บไซต์ทิ้งไว้
  • อัปเดตข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องรอกระบวนการที่ใช้เวลานานจาก Store เหมือนแอปพลิเคชันทั่วไป 
  • สามารถโหลดตัวเว็บฯ ลง Home Screen เพื่อใช้งานได้ทันที เพียงกดที่ Icon ของเว็บไซต์ 
  • นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Progressive Web App กับ SEO ได้ด้วย โดยสามารถใช้เพื่อการ Drive Traffic ของผู้ใช้งานเข้ามาในเว็บไซต์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำ SEO 

เว็บฯ สเถียรคงที่ ใช้งานได้ดีแม้อยู่ในสถานะออฟไลน์

นอกจากฟังก์ชั่นเก็บ Cache จะทำให้หน้าเว็บฯ Progressive Web Apps ตอบสนองผู้ใช้งานได้รวดเร็วแล้ว การเก็บ Cache ของเบราเซอร์ยังทำให้เว็บฯ สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ตอีกด้วย ซึ่งการใช้งานนี้สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ Progressive Web Apps ตอนไหนเวลาไหนก็ได้ และไม่ต้องกังวลว่าต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาด้วย 

มีความปลอดภัยเชื่อถือได้

แม้ Progressive Web Apps จะพัฒนาลูกเล่นให้น่าสนใจเหมือนแอปพลิเคชันแต่ในเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน Progressive Web Apps ก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยการใช้ระบบความปลอดภัย HTTPS มาตรฐานเดียวกับเว็บไซต์ทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าระบบจะรักษาความปลอดภัยให้ข้อมูลส่วนตัวไม่เล็ดรอดออกไป จนทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้งานแน่นอน

ทำไม google ถึงชอบ Progressive Web App

Progressive Web App มีฟีเจอร์หลักอะไรบ้าง? 

ฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Progressive Web Apps จะเน้นไปที่การลดขั้นตอนความยุ่งยากบน Store ที่คนใช้แอปพลิเคชันมักจะเจออยู่บ่อย ๆ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งาน โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Progressive Web Apps ที่เราอยากแนะนำให้รู้จักมีดังนี้

  • Progressive : เพื่อให้เว็บฯ สามารถใช้งานได้สะดวกทุกเบราวเซอร์และทุกแพลตฟอร์มของอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • Responsive : เพื่อให้การแสดงผลเหมาะสมกับทุกอุปกรณ์ทั้งแท็ปแล็ตหรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ
  • Connectivity independent : สำหรับเก็บ Cache ข้อมูลเพื่อให้เว็บฯ สามารถใช้งานได้ทั้งสถานะออนไลน์และออฟไลน์
  • App like : ที่ช่วยให้หน้า Interface คล้ายกับแอปพลิเคชันทั่วไปเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและทำให้ผู้ใช้งานคุ้นชินไม่สับสน
  • Fresh : ทำให้สามารถอัปเดตเว็บไซต์ได้ทันที ทำให้ไม่จำเป็นต้องรอการอัปเดตจาก Store
  • Safe : เพื่อสร้างความปลอดภัยและน่าเชื่อถือให้ผู้ใช้งาน โดยมีการใช้ระบบความปลอดภัย HTTPS มาตรฐานเดียวกับเว็บไซต์
  • Re-Engageable : สามารภ Re-Engage กับลูกค้าทำให้สามารถได้รับการแจ้งเตือนข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอปฯ ทิ้งไว้
  • Install  : สามารถ Install ได้แม้จะเป็นรูปแบบเว็บฯ 
  • Linkable : มีคุณสมบัติเป็น Link และมี URL เป็นของตนเอง

ทำไม Google ถึงชอบ Progressive Web App?

ส่วนสาเหตุว่าทำไม Google ถึงชอบ Progressive Web App หรือให้ความสำคัญกับการพัฒนา Progressive Web App อย่างมาก ก็เนื่องมาจากในยุคนี้สมัยนี้ การใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนแอปฯ ในสมาร์ตโฟน จึงเป็นเรื่องยากสำหรับระบบ Search Engine อย่าง Google ที่จะเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้ จึงเป็นสาเหตุให้ Google พัฒนา Progressive Web App ขึ้นมาเพื่อไว้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือให้ Google สามารถรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้นภายใต้ข้อจำกัดนี้ พร้อมกันนั้น การพัฒนา Progressive Web App ยังเป็นประโยชน์กับ Google ในแง่ของการเป็นพื้นที่ที่สามารถแสดงโฆษณาได้ ดังนั้น Progressive Web App จึงเปรียบเสมือนช่องทางหนึ่งที่ Google มีไว้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดให้กับแบรนด์ต่าง ๆ

 

สรุป

จะเห็นได้ว่า Progressive Web Apps คือการหยิบสิ่งที่ดีที่สุดทั้งการใช้งานและเข้าถึงได้ง่ายในรูปแบบของเว็บไซต์ และการใช้งานที่สะดวกรวดเร็วจากแอปพลิเคชัน ผสมผสานรวมกันจนเกิดเป็น Progressive Web Apps ที่ช่วยตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้นจนสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ที่จะเข้ามาในเว็บไซต์ของเราได้

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจและอยากลองนำแนวทาง Progressive Web Apps มาปรับใช้กับธุรกิจดูบ้าง สามารถปรึกษา Primal Digital Agency ของเรา เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดกว่า 150 คน ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ รับรองว่าสามารถวางแผนการตลาดให้คุณได้แบบครบวงจร หากพร้อมแล้วสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อปรึกษาแผนการตลาดกับเราฟรีได้เลยตอนนี้!