AR Marketing คืออะไร? การตลาดที่นำเทคโนโลยี AR มาใช้งาน

ในช่วง 2-3 ปีมานี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่การซื้อสินค้าออนไลน์ก็มีข้อจำกัดที่ผู้บริโภคไม่สามารถไปดูสินค้าที่หน้าร้านได้ ฝั่งผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ ก็ต้องคิดค้นหาวิธีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด เพื่อทำให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ เทคโนโลยี AR จึงถูกนำมาใช้งานมากยิ่งขึ้น แล้วเทคโนโลยี AR ที่ว่านี้จะสามารถนำไปต่อยอดกับการทำธุรกิจออนไลน์ได้อย่างไรบ้าง? ต้องไปหาคำตอบกัน 

Augmented reality (AR) คืออะไร?

AR หรือ Augmented Reality คือเทคโนโลยีที่นำเอา Virtual Reality (โลกเสมือนจริง) มาใช้ โดยหลักการการทำงานของ AR คือการใช้เซนเซอร์ตรวจจับภาพหรือเสียงต่าง ๆ แล้ว Software จะทำการประมวลผลแล้วสร้างภาพ 3 มิติ ออกมาบนหน้าจอสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตของผู้ใช้งาน

AR Marketing คืออะไร?

AR Marketing คือการนำเทคโนโลยี AR มาใช้งานกับการทำการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะในรูปแบบของฟีเจอร์เสริมในแอปพลิเคชัน Online Shopping ของแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพเสมือนจริงของสินค้าได้, การทำโฆษณา 3 มิติ หรือแม้แต่การสร้างกิจกรรมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าร่วมสนุก ฯลฯ

AR กับการทำ Online Marketing 

Product Visualisation

Product Visualisation คือการแสดงสินค้าเสมือนจริงบนหน้าจอสมาร์ตโฟนหรือบนแท็บเล็ตของผู้ใช้งาน ซึ่งประโยชน์ของ AR ในข้อนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถทดแทนการที่ลูกค้าจะต้องเดินทางเข้าไปที่ร้าน เพื่อดูและเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน

Augmented Commerce

การใช้งานเทคโนโลยี AR สามารถช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้นได้ ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งบนออนไลน์และออฟไลน์ โดยอาจจะให้ลูกค้าร่วมสนุก ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ฯลฯ ซึ่งสามารถช่วยดึงดูดความสนใจและเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ 

Interactive Ads

Interactive Ads นับว่าเป็นการเปลี่ยนรูปแบบโฆษณาจาก 2 มิติทั่วไปมาเป็นการทำโฆษณาในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นได้ และมีหลากหลายโฆษณาที่กลายเป็นไวรัลจนมีคนแชร์มากมาย

AR Marketing ใช้ยังไง ให้ปัง

ธุรกิจไหนใช้งาน AR Marketing แล้วปังบ้าง?

ในปัจจุบัน มีหลากหลายธุรกิจที่หยิบเทคโนโลยี AR มาปรับใช้กับกลยุทธ์และแคมเปญทางการตลาดของตัวเอง โดยผลสำรวจของ Interactions Consumer Experience Marketing มีการรายงานว่า ประเภทของธุรกิจที่มีการนำเทคโนโลยี AR มาใช้งานมากที่สุดคือ ธุรกิจค้าขายเฟอร์นิเจอร์ โดยอยู่ที่ 60% ตามมาด้วยุธุรกิจขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อยู่ที่ 55% และสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ที่ 39%

เฟอร์นิเจอร์

การใช้งาน Augmented Reality เป็นที่นิยมมาก ๆ สำหรับธุรกิจประเภทนี้ เพราะลูกค้าสามารถเห็นสินค้าผ่านการแสดงผลจำลอง 3 มิติ ในสถานที่ที่พวกเขาจะนำไปจัดวางได้จริง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งสามารถช่วยอำนวยความสะดวกสบายและทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปดูสินค้าจริงที่ร้าน

เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ลูกค้าจะมีความละเอียดอ่อนในการเลือกสรรเป็นอย่างมาก โดยการใช้งานเทคโนโลยี AR ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน โดยมีการนำมาปรับใช้เพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองเสื้อผ้าได้ผ่านการแสดงผลแบบ 3 มิติบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ว่าเสื้อผ้าตัวนั้น ๆ เหมาะสมกับพวกเขาไหม อีกทั้งยังเป็นการลดกระบวนการหลังการขายอื่น ๆ ที่อาจจะตามมาได้ หากลูกค้าไม่พึงพอใจในสินค้า เช่น การคืนสินค้า หรือ การเปลี่ยนสินค้า เป็นต้น

เครื่องสำอาง

เฉกเช่นเดียวกับเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สำหรับธุรกิจประเภทเครื่องสำอาง ก็มีการนำเทคโนโลยี AR มาใช้เช่นกัน ส่วนหนึ่งมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้การทดลองผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีความยากขึ้นอย่างมาก ทั้งในด้านมาตราการการสร้างความปลอดภัย ที่แบรนด์อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับอุปกรณ์ในการทดลองที่ใช้ได้ครั้งเดียว การทำความสะอาดที่มีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงความสบายใจของกลุ่มลูกค้าที่จะทดลองเครื่องสำอาง ซึ่งการใช้ Augmented Reality ก็สามารถช่วยลดความยากลำบากในส่วนนี้ไปได้ เพราะสามารถช่วยให้ลูกค้าได้ทดลองผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ บนใบหน้าตัวเองได้ โดยไม่ต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์นั้นจริง ๆ

สรุป

ในปัจจุบัน เทคโนโลยี Augmented Reality เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงลูกค้าเองก็ยังสามารถทดลองและทำการซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ได้ แม้ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปดูสินค้าจริงที่หน้าร้าน โดยจากผลสำรวจของ ISACA ยังพบว่า 64% ของลูกค้า รู้สึกว่าเทคโนโลยี AR มีประโยชน์และสามารถช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคุณจึงไม่ควรที่จะมองข้ามการนำ Augmented Reality มาปรับใช้ในธุรกิจ เพื่อสร้างอัตราการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต