Real-Time Marketing การตลาดแบบโหนกระแสที่ช่วยสร้างการรับรู้

เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ส่งผลให้หลายสิ่งหลายอย่างต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่ “การตลาด” เองก็ตาม เพราะการตลาดคือสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องแข่งขันกัน ใครคิดก่อน ลงมือทำก่อน ธุรกิจนั้นก็มีโอกาสได้สร้างการรับรู้แบรนด์ (Awareness) ในตลาดก่อน ดังนั้น จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์ที่เรียกว่า Real-Time Marketingหรือบางครั้งก็รู้จักกันในชื่อ Real-Time Content การทำการตลาดผ่านการโหนกระแสที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเรียกได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากในยุคที่ความเร็วคือเรื่องของการแข่งขันเช่นนี้ บทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับกลยุทธ์ดังกล่าวว่าทำอย่างไร และแบรนด์จะได้ประโยชน์อย่างไรจากการทำ Real-Time Marketing

กลยุทธ์ Real-Time Marketing คืออะไร

Real-Time Marketing คืออะไร?

หลายคนน่าจะเคยเห็นโพสต์ในโซเชียลมีเดียจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ทำคอนเทนต์เกาะกระแสสังคมในขณะนั้นกันมาบ้าง ซึ่งโพสต์เหล่านั้นจะเน้นความตลกและความสร้างสรรค์ในการนำมาโยงเข้ากับการโปรโมตแบรนด์ของตนเองอย่างมีชั้นเชิง ทำให้มีผู้สนใจและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก การตลาดในลักษณะนี้เองที่เรียกว่าเป็น Real-Time Marketing!

Real-Time Marketing หรือ Real-Time Content คือ การตลาดที่ใช้ประโยชน์จากกระแสสังคมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของบุคคล เทรนด์ยอดฮิตในโซเชียลมีเดีย คอนเทนต์ที่กำลังมาแรง วันสำคัญในปฏิทิน หรืออะไรก็ตามที่เป็นที่พูดถึงในช่วงเวลานั้น ๆ โดยนักการตลาดจะนำสิ่งที่เป็นกระแสเหล่านั้นมาดัดแปลงให้เข้ากับแบรนด์ของตนเอง เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายแบบ Real Time

การทำ Real-Time Marketing นั้นแตกต่างจากการทำการตลาดแบบเดิมตรงที่ต้องผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์หลายขั้นตอน และต้องอาศัยความรวดเร็วเป็นสำคัญ ทั้งยังต้องมีความกระชับ เข้าใจง่าย และจะยิ่งเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้ดียิ่งขึ้นไปอีกหากคอนเทนต์มีความตลกขบขัน อันจะส่งผลให้มีคนสนใจในตัวแบรนด์เยอะขึ้น  โดยช่องทางหลักในการทำ Real-Time Content หรือ Real-Time Marketing ได้แก่ Facebook และ Twitter เนื่องจากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแชร์ต่อได้ง่าย

 

ข้อดีของ Real-Time Marketing คืออะไร?

  • ช่วยเพิ่มตัวเลขในช่องทางออนไลน์ของแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด เช่น ยอดการเข้าถึง (Reach) หรือยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) เป็นต้น เนื่องจากการทำคอนเทนต์แบบโหนกระแสที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ และช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
  • ดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ได้ กล่าวคือ การหยิบยกสิ่งที่กำลังเป็นกระแสมาทำคอนเทนต์ ถือเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้บริโภคที่มีความต้องการสินค้าหรือบริการของเราแต่ยังไม่เคยอุดหนุนมาก่อน ให้กลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ หรือแม้กระทั่งผู้บริโภคที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์ของเรามาก่อนเลย ก็จะมีโอกาสรับรู้ถึงชื่อแบรนด์ สิ่งที่แบรนด์ทำ และกลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ในที่สุดเช่นกัน
  • ได้รู้ถึงข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของความต้องการจากกระแสนั้น ๆ เนื่องจากกระแสเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความต้องการอะไรบางอย่างของสังคมในระยะเวลาหนึ่ง ๆ จึงส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ โดยหากเราสามารถจับจุดความต้องการที่ว่าได้ เราก็จะรู้กลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการดังกล่าวได้อีก จนอาจเป็นแบรนด์เราเองที่สามารถสร้างกระแสสังคมให้ขึ้นมาบูมอีกรอบ
  • ทำให้เกิดการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อแบรนด์ เพราะการที่ผู้ใช้งานแชร์โพสต์ต่อกันเองนั้น ดูน่าเชื่อถือกว่าการที่เราซื้อพื้นที่โฆษณา (Ads) หรือบูสต์โพสต์ อีกทั้งถ้าหากเราสามารถผูกกระแสให้เข้ากับแบรนด์ได้อย่างเชื่อมโยงกัน ผู้คนก็จะเข้าใจแก่นหลักของแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

ข้อควรระวังในการทำ Real-Time Marketing คืออะไร?

  • ระยะเวลาของแคมเปญมีอายุที่สั้น ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นว่า Real-Time Marketing หรือ Real-Time Content คือการทำคอนเทนต์แบบเกาะกระแสสังคมที่เกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้น ซึ่งการมีโซเชียลมีเดียประกอบกับความเร็วของโลกในปัจจุบันนี้ จึงทำให้ความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของผู้คนอยู่ได้ไม่นาน จากนั้น ในระยะเวลาอันสั้นก็จะเกิดกระแสใหม่ ๆ ขึ้นมาแทนกระแสเก่าทันที
  • มีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องของลิขสิทธิ์ เนื่องจากการทำการตลาดรูปแบบนี้ต้องอาศัยความรวดเร็ว จึงอาจทำให้บางครั้ง การทำอาร์ตเวิร์ก (Artwork) หรือการสร้างคอนเทนต์ที่ต้องใช้องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ เพลง โลโก้ ฯลฯ ไม่ละเอียด รอบคอบพอ กล่าวคือ นำสิ่งที่ติดลิขสิทธิ์มาใช้ ซึ่งอาจทำให้โดนฟ้องได้
  • ไม่ควรพูดถึงประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น การล้อเลียน (Bully) เรื่องเพศ รูปลักษณ์ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ คำหยาบคาย หรืออะไรก็ตามที่ส่อไปในทางเหยียด เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะกระทบต่อสิทธิของผู้อื่น หากพลาดขึ้นมาจะส่งผลลบต่อแบรนด์ในระยะยาวเลยทีเดียว

 

เทคนิคการทำ Real-Time Marketing ให้ปัง

บางคนอาจจะมองว่าแค่ทำคอนเทนต์ตามกระแสไปแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว แต่ช้าก่อน เพราะถึงแม้จะจริงอยู่ที่ว่าการตลาดแบบ Real-Time Marketing หรือ Real-Time Content คือการนำเรื่องราวที่กำลังเป็นเทรนด์มาผนวกเข้ากับความเป็นแบรนด์อย่างสร้างสรรค์ แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพได้นั้น จำเป็นต้องมีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบเสียก่อน เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของธุรกิจ

เทคนิคสำคัญของการทำ Real-Time Marketing ที่บทความนี้นำมาอธิบายนั้น เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำคอนเทนต์ที่รวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งทุกแบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ได้เลยทันที ดังนี้

ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ประการแรกนี้ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของ Real-Time Marketing เลยทีเดียว เพราะการทำธุรกิจในยุคนี้ แบรนด์ไหนเร็วกว่า แบรนด์นั้นมักได้เปรียบเสมอ ดังนั้น เราจึงต้องมีความรวดเร็วในการสื่อสาร เพราะหากปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป แบรนด์อื่น ๆ ก็จะทำคอนเทนต์นำไปก่อนแล้ว ทำให้คอนเทนต์ของเราที่มาช้าจะดูไม่น่าสนใจอีกต่อไป แล้วยังดูเหมือนว่าเราทำตามคนอื่นอีกด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อแบรนด์มากกว่าผลดี

นอกจากนี้ เราควรมีการวางแผนสำหรับกระแสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย กล่าวคือ คาดเดาว่ากระแสที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันมีแนวโน้มจะทำให้เกิดกระแสอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันตามมาหรือไม่ ซึ่งหากเราทำได้ เราก็จะสามารถเป็นแบรนด์ที่เร็วกว่าคู่แข่ง และได้พื้นที่ทางการตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ไปแบบเต็ม ๆ

เลือกกระแสที่เข้ากับแบรนด์

อย่างไรก็ตาม ทุกกระแสสังคมที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถเข้ากับแบรนด์ของเราได้เสียหมด เป็นเหตุให้เราต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนว่ากระแสไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมที่จะเอามาสร้างคอนเทนต์ เพราะถ้าหากเราโหนกระแสที่ไม่เหมาะสม แบรนด์ของเราก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียในระยะยาว อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความเคารพต่อกระแสที่เกิดขึ้นด้วย หากเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ก็ต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับประเด็นนั้น ๆ มาก่อนอย่างถี่ถ้วน และสื่อสารออกไปให้ดีที่สุด

สร้างสรรค์คอนเทนต์ให้เหมาะสมและเชื่อมโยงกับแบรนด์

หลังจากที่เราเลือกกระแสมาทำ Real-Time Content ได้แล้ว เราต้องมีการปรับเนื้อหาของคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงกับแบรนด์ของเราอย่างสร้างสรรค์ให้ได้ เพราะส่วนนี้เองที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าผู้อ่านจะสนใจในคอนเทนต์ของเรามากน้อยแค่ไหน โดยหากเราสามารถผนวกกระแสเข้ากับความเป็นแบรนด์ได้ดี คอนเทนต์ก็จะมีความน่าดึงดูด ทำให้เกิดการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก อันนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพต่อธุรกิจได้

 

สรุป

จะเห็นได้ว่า การตลาดแบบ Real-Time Marketing นั้นมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ากลยุทธ์การตลาดรูปแบบนี้เรียกความสนใจจากผู้คนได้จริง แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อตัวแบรนด์ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญนอกจากความเร็วก็คือความสร้างสรรค์ เพราะต่อให้เราสามารถสร้างกระแสได้เร็ว แต่ถ้าคนอ่านดูแล้วไม่เข้าใจหรือไม่เก็ตมุกตลก ก็จะทำให้คอนเทนต์ของเราถูกละเลยไปได้ ดังนั้น ก่อนจะทำ Real-Time Content จึงต้องมีการวางแผนกลยุทธ์มาอย่างดีเพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด