6 ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT พร้อมฟังก์ชันที่ใหม่กว่า !

เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงปี แต่ต้องยอมรับว่า ChatGPT เป็น AI อัจฉริยะที่มาแรงที่สุดในขณะนี้จริง ๆ ด้วยความสามารถในการสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนมนุษย์ และศักยภาพในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะถามอะไรไป ChatGPT ก็ตอบได้หมด ส่งผลให้หลายคนเริ่มหันมาใช้ AI ตัวนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานของตนเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ทำงานในสายการตลาดอาจจะคุ้นเคยเป็นพิเศษ

การเติบโตของจำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าทึ่ง ซึ่งไม่ได้พบเห็นกันบ่อย ๆ เพราะเพียง 5 วันแรกของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ChatGPT มียอดผู้ใช้งานต่อเดือนทะลุ 100 ล้านคนแล้ว ทำให้บางครั้ง ตัวแพลตฟอร์มก็ไม่สามารถให้บริการคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ คนที่ใช้งานบ่อย ๆ จึงอาจพบกับหน้า “ChatGPT Is At Capacity Right Now” หรือก็คือ ยังไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ เนื่องจากมีผู้ใช้ ChatGPT จำนวนมากนั่นเอง ซึ่งกว่าจะกลับมาใช้งานได้เป็นปกติก็นานทีเดียว

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรายังมีตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT อีกหลายแพลตฟอร์มที่สุดยอดไม่แพ้กัน และที่สำคัญ บางแพลตฟอร์มก็มีฟังก์ชันที่ ChatGPT ยังทำไม่ได้ด้วย !

ChatGPT เข้าไม่ได้ ใช้อะไรดี

ทำไมเราถึงต้องมีตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT

อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่า บางเวลา ChatGPT ก็ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากมีคนแออัดอยู่บนแพลตฟอร์มมากเกินไป ดังนั้น เราจึงควรมีทางเลือก ChatGPT ไว้เผื่อด้วย ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือจากแชตบอตอย่างเร่งด่วน ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจพบว่ายังมีแชตบอตอื่น ๆ อีกมากที่เหมาะสมกว่าสำหรับการใช้งานในบางเรื่อง เมื่อพิจารณาข้อจำกัดอื่น ๆ ของ ChatGPT นอกเหนือจากการโอเวอร์โหลด เช่น

  • ข้อมูลของ ChatGPT ถูกจำกัดไว้ที่ปี 2021 ซึ่งหมายความว่าแชตบอตจะไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นเหตุการณ์หรือข่าวสารที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้
  • ศักยภาพของ ChatGPT ถูกจำกัดไว้แค่การให้ข้อมูลทั่วไปที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเท่านั้น
  • ChatGPT ไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งแตกต่างจากตัวเลือกอื่น ๆ เช่น ChatSonic เป็นต้น
  • ChatGPT ยังไม่รองรับการใช้งานในระบบภาพและเสียง
  • ChatGPT ยังมีอคติต่อบางมุมมอง

 

6 แชตบอตทางเลือก ChatGPT ที่ดีที่สุด

ChatSonic

ChatSonic เป็นแชตบอตที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท WriteSonic ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็น “ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่ทรงพลัง” โดย ChatSonic ประกอบไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาตามคำสั่งของผู้ใช้งาน ตั้งแต่แค็ปชันสั้น ๆ บนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงบทความหรือบล็อกยาว ๆ อีกทั้งยังมีความเป็นมืออาชีพด้านการสนทนาไม่แพ้ ChatGPT โดยจะมีทั้งหมด 16 โทนเสียงให้เลือก ทำให้ ChatSonic เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการใช้เป็นบริการ Customer Service สำหรับธุรกิจต่าง ๆ

นอกจากนี้ ChatSonic ยังมีฟีเจอร์ที่ ChatGPT ไม่มี นั่นก็คือ การค้นหาข้อมูล รูปภาพ และเสียงได้แบบเรียลไทม์โดยไม่มีข้อจำกัด เพราะแชตบอตนี้ได้ผสานรวมเข้ากับระบบค้นหาของ Google ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถตอบคำถามได้อย่างตรงประเด็นและทันสมัยในทุกหัวข้อที่ผู้ใช้งานต้องการทราบ แล้วยังมีการรองรับคำสั่งด้วยเสียงเหมือนกับ Siri และ Google Assistant ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์อีกด้วย

YouChat

YouChat เป็นแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล GPT-3.5 ของ OpenAI ซึ่งก็คือโมเดลรุ่นเดียวกับ ChatGPT แล้วยังทำงานร่วมกับเครื่องมือค้นหาของ You.com ได้อย่างไร้รอยต่อ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถค้นหาหน้าเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับคำที่ตนเองใช้ค้นหาบนแชตบอตตัวนี้ รวมถึงการสนทนาเชิงโต้ตอบทั่วไปได้ โดยหากใครต้องการใช้งานสองฟีเจอร์นี้เป็นหลัก YouChat ก็ถือเป็นหนึ่งในทางเลือก ChatGPT ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ AI ตัวนี้ได้รับการพัฒนาให้สามารถประมวลผลภาษาให้มีความเป็นธรรมชาติจนตอบสนองได้เหมือนมนุษย์ ทั้งยังสามารถทำงานได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม การแปลภาษา การเขียนคอนเทนต์ เขียนโคด เขียนอีเมล ฯลฯ รับรองว่าคุณภาพไม่ด้อยกว่า ChatGPT อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใช้โมเดลภาษาตัวเดียวกับ ChatGPT แชตบอตตัวนี้จึงถูกจำกัดด้วยปัจจัยเดียวกัน คือ มีฐานข้อมูลถึงแค่ปี 2021 เท่านั้น แต่จากการที่มีผู้ทดลองใช้ พบว่า ChatGPT จะปฏิเสธการตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังปี 2021 ในขณะที่ YouChat พยายามจะตอบ (แม้หลายครั้งจะให้คำตอบที่ผิดก็ตาม)

Microsoft Bing

อีกหนึ่งแชตบอตที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI ด้วยศักยภาพของ ChatGPT ที่ถูกปล่อยออกมาให้เป็นที่ประจักษ์กันแล้ว จึงสามารถมั่นใจได้เลยว่า Microsoft Bing จะเป็น AI อีกตัวที่ขึ้นแท่นสุดยอดแชตบอตที่ได้รับความนิยมสูงอย่างแน่นอน โดย OpenAI เผยว่า MS Bing จะเป็นแชตบอตรุ่นที่อัปเกรดแล้ว และเป็น Search Engine ที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดย ChatGPT เรียกว่าเป็น “Prometheus Model” ที่ได้รับการเคลมว่าเร็วกว่า และแม่นยำกว่าแชตบอตทุกตัวที่ทางบริษัทฯ เคยทำมา

ส่วนฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ MS Bing คือ โหมดแชตที่สามารถดึงการค้นหาเว็บไซต์ และกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อนำมาตอบคำถามของผู้ใช้งาน ทั้งยังสามารถช่วยวางแผนการเดินทาง การค้นหาสูตรอาหาร การขอคำแนะนำด้านต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายเช่นเดียวกับ ChatGPT

AI ที่ไม่ใช่ ChatGPT

Bloom

Bloom เป็นแบบจำลองทางภาษาแบบ Open Source ที่มีฟีเจอร์และข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร ถูกพัฒนาโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้าน AI กว่า 1,000 คน ทำให้แชตบอตนี้กลายเป็นตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT อันดับต้น ๆ 

การทำงานของ Bloom ขับเคลื่อนด้วยกราฟิกการ์ดจำนวน 384 ตัวที่มีหน่วยความจำรวม 80 GB และพารามิเตอร์จำนวน 1.76 แสนล้านตัว ซึ่งมากกว่าโมเดล GPT-3 ถึง 1 พันล้านตัว นอกจากนี้ ยังรับรองภาษาเขียนและภาษาพูดถึง 46 ภาษา และภาษาเขียนโคดอีก 13 ภาษา จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักหากใครจะเคยได้ยินชื่อของ Bloom ว่าเป็น AI ที่มีความสามารถระดับแนวหน้าของวงการแชตบอตในขณะนี้

หากพูดถึงเชิงประสิทธิภาพ ก็ยังคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ChatGPT ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย เพราะในขณะที่ Bloom สามารถประมวลผลได้ 8,000 ข้อความต่อวินาที ChatGPT สามารถประมวลผลได้ถึง 10,000 ข้อความต่อวินาทีเลยทีเดียว แต่ความแตกต่างดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด

Typewise

Typewise เป็น AI ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียน เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการทำงานด้าน Customer Service หรืองานขาย โดย Typewise จะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์แนะนำคำ รูปประโยคที่เหมาะสม ตลอดจนการตรวจสอบคำผิดและไวยากรณ์ ซึ่งรองรับภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษมากกว่า 40 ภาษาทั่วโลก แล้วยังมีแนวโน้มจะพัฒนาภาษาอื่นเข้าสู่ระบบเพิ่มอีก นอกจากนี้ เรายังสามารถตั้งค่าการตอบแบบอัตโนมัติได้เพื่อช่วยประหยัดเวลาอีกด้วย

Google Bard

แชตบอตตัวสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ Google Bard ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ ChatGPT ตั้งแต่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน โดยจุดเด่นของ Bard จะอยู่ที่การขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาอัตโนมัติชื่อว่า LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) ซึ่งเป็นโมเดลขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในขณะนี้ สามารถเลียนแบบคำพูดและการตอบสนองของมนุษย์ได้สมจริง ส่งผลให้สไตล์การเขียนของ Bard มีความเป็นธรรมชาติมาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้แชตบอตในการเขียนงานสักประเภท

ที่พิเศษสุด ๆ แบบไม่ซ้ำใคร คือ เราสามารถเชื่อมต่อ Bard กับเครื่องมือหลักต่าง ๆ ของ Google ได้ เช่น มี AI ช่วยแปลภาษาเวลาประชุมใน Google Meet มีฟีเจอร์แนะนำคำ รูปประโยค และแก้ไขคำผิดเวลาทำงานใน Google Docs ตลอดจนช่วยตอบ Gmail ได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีข่าวการเปิดตัวออกมาสักพัก ขณะนี้ Google Bard ได้เปิดให้ใช้บริการแล้วในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนทดลองใช้งานล่วงหน้าไว้เท่านั้น และมีแพลนจะเปิดให้ใช้งานเพิ่มอีก 180 ประเทศในเร็ว ๆ นี้

อ่านเพิ่มเติม : เปิดศึกแชตบอต CHATGPT VS BARD ตัวไหนดีกว่า เทียบกันชัด ๆ

 

สรุป

และทั้ง 6 แพลตฟอร์มนี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างของทางเลือก ChatGPT เท่านั้น ในโลกนี้ยังมี AI อัจฉริยะอีกมากที่รอให้เราไปค้นพบและทดลองใช้ บางที แทนที่เราจะรู้สึกกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน เราควรหาวิธีปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับหุ่นยนต์เหล่านี้ในอุตสาหกรรมของตนเองให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว งานเขียนที่ต้องพึ่งพาความรู้สึกนึกคิด ความเห็นอกเห็นใจ และความปราศจากอคติ ก็ยังคงต้องพึ่งพาศักยภาพของมนุษย์ในการตรวจทานและแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมก่อนเผยแพร่ออกสู่สาธารณะอยู่ดี

หากต้องการความช่วยเหลือด้านการทำธุรกิจ ติดต่อ Primal Digital Agency บริษัทรับทำการตลาดชั้นนำของไทย เพื่อพูดคุยและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยวันนี้