กลยุทธ์การตลาด B2B สำหรับการตลาดดิจิทัล (ฉบับอัปเดต ’22)

ในแวดวงการทำงาน ไม่ว่าขนาดหรือรูปแบบของธุรกิจนั้น ๆ จะแตกต่างกันมากขนาดไหน แต่จุดประสงค์ในการทำธุรกิจเรียกได้ว่าคล้ายกันเสมอ เพราะทุกธุรกิจล้วนต้องการที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด ซึ่งการมาถึงของโลกดิจิทัลได้นำมาซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจทุกรูปแบบต้องปรับตัวและหันมาทำการตลาดออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น

ธุรกิจแบบ B2B หรือ Business to Business คือธุรกิจที่ทำการค้าระหว่างธุรกิจกับธุรกิจด้วยกันเอง ด้วยจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ ทั้งในส่วนของกระบวนการผลิต วัตถุดิบหรือการบริการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์กร มิใช่การซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้งานเหมือนอย่างการทำธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer)

การทำธุรกิจแบบ B2B หลายครั้งถูกมองว่าไม่ต้องอาศัยการทำการตลาดออนไลน์มากเท่าไหร่ เพราะการทำการตลาดแบบดั้งเดิมยังคงทำได้อยู่ แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะว่าโลกที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่องค์กรธุรกิจเองก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีธุรกิจเกิดใหม่มากมาย ทั้งบริษัท Start up หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้การหาข้อมูลและการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์เกือบจะหมดแล้ว 

ในบทความนี้ เราขอนำเสนอกลยุทธ์การตลาดแบบ B2B ที่ตอบสนองกับโลกดิจิทัลให้คุณได้รู้จักกัน!

กลยุทธ์การตลาด b2b Business to Business

1. ทำโฆษณาออนไลน์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ 

การทำโฆษณาออนไลน์นั้นมีอยู่แทบจะทุกที่ในโลกอินเทอร์เน็ต ดังนั้นหมายความว่า สิ่งนี้จะมีพื้นที่สำหรับธุรกิจในทุกรูปแบบ เพียงแค่คุณต้องหาให้เจอเท่านั้นเองว่าควรอยู่ที่ตรงไหน! แต่สำหรับการทำธุรกิจแบบ B2B นั้น สถานที่ที่เหมาะสมกับการทำโฆษณาแบบ PPC (Pay-Per-Click) อาจจะไม่ใช่ในเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียทั่วไป แต่คุณอาจต้องเลือกเว็บไซต์ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่านั้น อย่างเช่นเว็บฯ ข่าวสารที่มีการอัปเตดข้อมูลทางด้านธุรกิจ เพราะผู้ที่สนใจเข้ามาใช้งานเว็บไซต์เหล่านี้ คือคนที่ทำงานในแวดวงธุรกิจโดยเฉพาะ  

สำหรับข้อดีของการทำโฆษณาออนไลน์คือ สามารถช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะอาจจะไม่ได้ช่วยสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ของคุณมากนัก แต่ทั้งนี้เราอยากให้คุณลองคิดถึงการทำป้ายโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งมีจุดประสงค์ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมา (หรือในบริบทของเว็บไซต์ก็คือ ผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์นั้น ๆ) ได้เห็นชื่อและข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ซึ่งพวกเขาจะเกิดการจดจำ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขานึกถึงสินค้าหรือบริการที่อยู่ในประเภทเดียวกับคุณ ชื่อธุรกิจของคุณก็จะอยู่ในหัวพวกเขาในทันที

2. ทำบทความ SEO

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบไหน ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหาอย่าง Google หรือ Yahoo การทำบทความ SEO ก็ยังคงทำได้เสมอ เพียงแค่คุณต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้องตามสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายใช้ค้นหา รวมถึงเป็นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและสามารถบ่งบอกได้ถึงสินค้าหรือบริการของธุรกิจ แต่ในการทำ SEO นั้น ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องให้ความสำคัญ ซึ่งก็คือการทำเนื้อหาของคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ โดยคุณอาจจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเป็นสำคัญ ก็จะช่วยให้การเขียนบทความ SEO ประสบความสำเร็จได้ 

ข้อดีของการทำบทความ SEO ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มยอด Traffic ให้กับเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย ยิ่งคุณมีบทความที่มีคุณภาพมากเท่าไหร่ ผู้ใช้งานก็จะยิ่งรู้สึกว่าธุรกิจของคุณมีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ มากเท่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เคยใช้บริการกับธุรกิจของคุณเลยก็ตาม

3.ทำการตลาดอัตโนมัติ

การตลาดอัตโนมัติหรือ Marketing Automation คือการที่เราตั้งระบบเอาไว้ว่าให้นำเสนอสินค้าและบริการแบบอัตโนมัติ ซึ่งการตลาดอัตโนมัตินี้ได้รับความนิยมจากธุรกิจ B2B เป็นอย่างมาก ด้วยอัตราส่วนถึง 44% โดยมีเหตุผลสำคัญก็คือ การทำ Marketing Automation นั้นสามารถทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งใช้เงินทุนไม่สูง และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีในระยะยาวต่อธุรกิจ   

4.ใช้ Chatbot

ในปัจจุบัน การติดต่อสื่อสารมักทำผ่านโลกออนไลน์เสียเป็นส่วนใหญ่ ในแง่ของการทำธุรกิจก็เช่นกัน เนื่องจากในหลาย ๆ ครั้ง ที่ลูกค้าอยากจะสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม แต่จะให้โทรเข้ามาสอบถาม หรือแม้แต่การส่งอีเมลล์ลูกค้าก็อาจจะไม่สะดวกนัก อีกทั้งระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอเพื่อได้รับคำตอบก็อาจจะไม่ทันใจ ดังนั้นการใช้ Chatbot ที่มีการวางระบบเอาไว้อย่างดีเยี่ยมจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาในจุดนี้ได้ดีมาก

5.ทำ Content Marketing

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้คอนเทนต์มีอยู่ทุกที่ และทุกคนก็ชื่นชอบที่จะเสพคอนเทนต์ ดังนั้นการทำ Content Marketing จึงเป็นการทำการตลาดที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะการทำคอนเทนต์สามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างชื่อเสียงและมีภาพลักษณ์ที่น่าจดจำได้อย่างรวดเร็ว 

การทำการตลาดด้วย Content Marketing มีมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ข้อความสั้น ๆ บทความ คลิปวิดีโอ เพลง ภาพโฆษณา ภาพยนต์โฆษณา ฯลฯ ซึ่งคุณจำเป็นต้องเลือกทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของสินค้าหรือบริการ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณจะต้องมีการวางแผน หาข้อมูล และวางกระบวนการโปรโมทให้ครบถ้วน พร้อมลงมือทำจริงด้วยเท่านั้นเอง

สรุป

กลยุทธ์การตลาดแบบ B2B นั้นมีมากมายหลายวิธี ซึ่งคุณควรให้ความสำคัญทั้งการตลาดแบบดั้งเดิม และการตลาดแบบออนไลน์ โดยสร้างให้เกิดความสมดุลซึ่งกันและกัน แต่อย่าลืมที่จะสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์และวางแผน ว่าควรใช้กลยุทธ์แบบใดถึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงธุรกิจคู่ค้าใหม่ ๆ รวมไปถึงยังคงรักษาระดับความพึงพอใจที่ธุรกิจคู่ค่ารายเดิมมีให้ด้วย