รู้จัก 6 เครื่องมือ AI สร้างคอนเทนต์ ช่วยประหยัดเวลาทำงาน

เป็นอย่างที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดได้ทำนายไว้ว่า ปี 2023 จะเป็นปีที่มนุษย์ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีมากขึ้น กล่าวคือ เทคโนโลยีจะไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งในการทำงานของมนุษย์อีกต่อไป เพราะจะอัปเกรดขึ้นมาเป็น “ผู้ทำงานร่วมกัน” กับมนุษย์เลย และเมื่อปลายปีที่แล้ว การเปิดตัวของ ChatGPT ก็ได้แสดงให้โลกเห็นแล้วว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) มีศักยภาพด้านการทำงานหลาย ๆ แขนงได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจาก ChatGPT แล้ว โลกของเรายังมี AI จากบริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของคนทำงานอีกมากมาย

หนึ่งในสายงานที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการมีอยู่ของ AI มากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นสาย Content Creator เพราะ AI สามารถทำได้ทั้งเขียนคอนเทนต์ สร้างรูปภาพ เสียง วิดีโอ ไปจนถึงอินโฟกราฟิกสวย ๆ ได้ ส่วนหน้าที่ของเรามีเพียงนำสิ่งที่ AI สร้างขึ้นมาปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น

ในโลกที่เต็มไปด้วยการทำคอนเทนต์การตลาด (Content Marketing) เช่นนี้ บทความนี้จึงอยากจะมาแนะนำ 6 เครื่องมือ AI สร้างคอนเทนต์ ซึ่งช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

โปรแกรมช่วยคิดคอนเทนต์

6 เครื่องมือ AI สร้างคอนเทนต์ ประหยัดเวลาทำงาน

เคยไหม นั่งทำคอนเทนต์ทุก ๆ วัน จนถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกหัวตัน คิดอะไรไม่ออก กลัวว่าจะไปซ้ำกับของเดิมที่เคยทำไปแล้ว

เพราะอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นได้กับคนทำงานสายคอนเทนต์ AI จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา หากคิดไม่ออกเมื่อไร ก็แค่เข้าไปป้อนคำสั่งให้หุ่นยนต์อัจฉริยะ จากนั้น เราก็จะได้ไอเดียใหม่ ๆ มาทำคอนเทนต์เพื่อต่อยอดให้แบรนด์ของเราดูน่าสนใจกว่าเดิม

บทความนี้จะแบ่ง AI สำหรับ Content Creator ออกเป็น 3 หมวดหมู่ตามประเภทหลัก ๆ ของคอนเทนต์ ได้แก่ AI ทำคอนเทนต์สายเขียน สายวิดีโอ และสายออกแบบ

AI ทำคอนเทนต์สายเขียน

Jasper.ai

พูดถึง AI ทำคอนเทนต์สายเขียน จะไม่พูดถึง Jasper.ai ก็คงไม่ได้ เพราะเครื่องมือนี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยจำนวนยอดผู้ใช้งานและรีวิวถล่มทลายจากทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจาก Jasper เป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี GTP-3 ทำให้ AI ตัวนี้สามารถสร้างคอนเทนต์ได้แทบทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่คอนเทนต์ SEO (Search Engine Optimisation) ที่นำไปใช้จัดอันดับบนหน้าผลการค้นหาก็ตาม

ในการสร้างคอนเทนต์บน Jasper.ai เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากจะสื่อสารด้วยได้ รวมถึงโทนน้ำเสียง รูปแบบ และเทมเพลตของคอนเทนต์ที่เราต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการงานเขียนที่เน้นคุณภาพ โดยจะมีภาษาให้เลือกถึง 29 ภาษา และมีแพลนจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

สำหรับค่าบริการ Jasper.ai จะสามารถใช้งานได้ฟรี 5 วันแรก จากนั้น จะมีการเก็บค่าใช้จ่ายซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,050 บาทต่อเดือน

Rytr.me

Rytr.me เป็นเครื่องมือ AI สร้างคอนเทนต์ประเภทเขียนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ Jasper หากใครกำลังประสบปัญหาคิดงานไม่ออก เริ่มต้นไม่ถูก AI ตัวนี้คือคำตอบเลย เพราะเพียงแค่เราป้อนคำสั่งลงไป Rytr.me ก็สามารถสร้างสรรค์ไอเดียคอนเทนต์ใหม่ ๆ ให้เราได้มากกว่า 10 หัวข้อภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยจะมีโทนน้ำเสียงในการเขียนให้เราเลือกใช้ให้เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือลักษณะของคอนเทนต์ที่ทำ เช่น โน้มน้าว (Convincing) ยืนกราน (Asserting) ทางการ (Formal) และอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 20 โทน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจเช็กความถูกต้องในการสะกดคำด้วย ช่วยให้เราเขียนคอนเทนต์ได้ถูกต้อง ดูเป็นมืออาชีพ

นอกจากนี้ ความพิเศษของ Rytr.me คือ สามารถสร้างเนื้อหาได้มากกว่า 40 ภาษา และหนึ่งในนั้นคือภาษาไทย ! ทำให้ Rytr.me เป็นหนึ่งใน AI ทำคอนเทนต์ที่นักเขียนนิยมใช้มากที่สุด

เราสามารถใช้ Rytr.me ได้ฟรี แต่จะจำกัดตัวอักษรแค่ไม่เกิน 10,000 อักษรต่อเดือนเท่านั้น ถ้าอยากได้ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ เพิ่มก็ต้องสมัครแบบเสียค่าบริการ โดยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 313 บาทต่อเดือน

AI ทำคอนเทนต์สายวิดีโอ

Filma

มาถึงส่วนของเครื่องมือ AI สายคอนเทนต์วิดีโอกันบ้าง บอกเลยว่า Filma เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับดีไซน์เนอร์ที่ต้องการปรับแต่งหรือตัดต่อวิดีโอลงบนโซเชียลมีเดียมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นก็สามารถใช้งานได้ เพราะจุดเด่นของแอปฯ คือใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องมีทักษะการตัดต่อเลย เพราะ  Filma จะมีซอฟต์แวร์ Face Tracking และ Motion Tracking รวมถึงฟีเจอร์การปรับเพลงให้เข้ากับจังหวะของวิดีโอ และการปรับแต่งแสงสี ทำให้วิดีโอของเราดูน่าสนใจมากขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้ การใช้งาน Filma ยังสะดวกมาก ๆ เพราะสามารถใช้ได้ทั้งบนบราวเซอร์และมือถือ แต่ตอนนี้ยังมีแค่บนระบบ iOS เท่านั้น โดยทางเว็บไซต์ระบุว่ากำลังจะเปิดให้ใช้งานผ่านระบบ Android เร็ว ๆ นี้ 

ในส่วนของการใช้งาน เราสามารถดาวน์โหลด Filma มาใช้ได้ฟรี แต่มีแพ็กเกจพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ให้เยอะขึ้น เริ่มต้นเพียง 79 บาทต่อเดือนเท่านั้น !

Animoto

อีกหนึ่งเครื่องมือ AI สร้างคอนเทนต์วิดีโอที่มีชื่อเสียง Animoto เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้เราเข้าไปสร้างวิดีโอคลิปที่มีรูปภาพ วิดีโอ และเพลงได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก ส่วนงานที่ออกมานั้นก็เรียกได้ว่ามีความสวยงามและดูเป็นมืออาชีพสุด ๆ ราวกับมนุษย์ลงมือทำเอง เรื่องวิธีการใช้งานก็หมดห่วง เพราะ Animoto ใช้ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องมีทักษะอย่างผู้เชี่ยวชาญเลย โดยบนเว็บไซต์จะมีเทมเพลตสวย ๆ แทร็กเพลงเพราะ ๆ และเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้เราสามารถปรับแต่งวิดีโอได้ตามใจชอบ รับรองว่าการตัดต่อวิดีโอจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าคลิปนั้นจะเป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับอะไร Animoto ก็เอาอยู่หมด !

เช่นเดียวกับ AI ตัวอื่น ๆ คือ Animoto สามารถใช้งานได้ฟรี ทว่าความพิเศษคือ เป็นแพ็กเกจฟรีที่ฟีเจอร์ครบครันมาก ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มเลย หากเราต้องการใช้แค่ขั้นพื้นฐาน แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์พิเศษเพิ่ม จะมีค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 555 บาทต่อเดือน

AI สร้างโลโก้

AI ทำคอนเทนต์สายออกแบบ

Pebblely

AI สำหรับ Content Creator สายออกแบบตัวแรกที่แนะนำ ได้แก่ Pebblely หุ่นยนต์อัจฉริยะที่มีความสามารถในการสร้างรูปภาพสวย ๆ รวมถึงฉากหลังที่เข้ากับสินค้าของเรา เพื่อนำไปโพสต์โปรโมตแบรนด์บนโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้ภาพสวย ๆ โดยไม่ต้องไปเสียเงินจ้างดีไซน์เนอร์แพง ๆ บอกเลยว่า Pebblely ตอบโจทย์มาก โดยบนเว็บไซต์จะมีหมวดหมู่เทมเพลตพื้นหลังให้เราเลือกใช้ เช่น Basic, Studio, Outdoors, Cafe ฯลฯ และแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทสินค้า เช่น Perfume, Cosmetics, Fashion ฯลฯ 

สำหรับแพ็กเกจฟรี สามารถใช้งานได้จำกัด 49 รูปต่อเดือน และแพ็กเกจแบบพรีเมียม เริ่มต้นที่ประมาณ 660 บาทต่อเดือน

Vectorizer.AI

Vectorizer.AI เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยเราดราฟต์เวกเตอร์ หรือเปลี่ยนรูปภาพให้เป็นเวกเตอร์ เพียงแค่เราอัปโหลดภาพที่ต้องการแปลงลงไป ไม่ว่าจะเป็นภาพโลโก้ ภาพมนุษย์ ภาพการ์ตูน หรือภาพอื่น ๆ AI ตัวนี้ก็สามารถแปลงให้ได้หมด ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเวลาลูกค้าส่งภาพโลโก้มาเป็นไฟล์สกุล JPG หรือ PNG แล้วภาพแตก เพราะ Vectorizer จะช่วยเปลี่ยนให้เป็นภาพเวกเตอร์ที่คมชัดให้ ประหยัดเวลาทำเองไปได้เยอะ

จุดยืนของ Vectorizer คือการทำให้เว็บไซต์และฟีเจอร์ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด แม้ผู้ใช้งานไม่มีทักษะด้านการออกแบบเลยก็สามารถใช้ได้ เพราะหน้าที่ของเรามีเพียงแค่อัปโหลดรูปที่ต้องการใช้ ส่วนที่เหลือ AI จะจัดการให้เอง

ขณะนี้ เราสามารถใช้ Vectorizer.AI ได้ฟรีเพราะเป็นช่วงที่เปิดให้ทดลองใช้ และจะมีการเก็บค่าบริการในอนาคต ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดในส่วนนั้น

 

สรุป

หากใครได้เคยลองใช้ AI ทำคอนเทนต์มาก่อนแล้ว ก็คงจะรู้สึกทึ่งในศักยภาพของหุ่นยนต์อัจฉริยะ บางทีอาจเกิดความคิดที่ว่า AI เหล่านี้ “ขี้โกง” สุด ๆ เพราะในขณะที่เราฝึกฝนทักษะมาเป็นปี จู่ ๆ ปัญญาประดิษฐ์พวกนี้ก็ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วแย่งงานเราไปแบบหน้าตาเฉย ! แต่สำหรับคนที่กังวลว่าในอนาคตตนเองจะตกงานหรือไม่ เพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความสามารถของ AI ยังคงพัฒนาต่อไปให้ล้ำกว่านี้ได้อีก จนวันหนึ่งอาจจะแทนที่มนุษย์ได้จริง ๆ ก็ได้ ต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า ความจริงแล้ว AI นั้นถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นบ่อยในกระบวนการทำงานเท่านั้น เช่น คิดคอนเทนต์ไม่ทัน หรืออยากได้ไอเดียใหม่ ๆ มาทำการตลาดบ้าง ไม่ใช่การมาแทนที่มนุษย์ในทุก ๆ เรื่อง แนะนำว่าเราไม่ควรพึ่งพา AI แบบ 100% แต่ให้ AI เป็นตัวช่วยจุดประกายแนวคิดการทำคอนเทนต์ แล้วนำมาต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพ มากกว่าจะคัดลอกมาทั้งหมดโดยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมและเป้าหมายของแบรนด์

ดังนั้น AI จะแทนที่เราได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับมันอย่างไร

สำหรับผู้ประกอบการคนใดที่ยังไม่มีไอเดียทำการตลาด และไม่สันทัดด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เอาเสียเลย ที่ Primal Digital Agency เรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และช่วยวางแผนธุรกิจที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ กรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเราได้เลยวันนี้