TikTok Stories ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามได้!

ในช่วงที่เกิดโรคระบาด หลายคนต้องกักตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปทำงานหรือเที่ยวที่ไหน บางคนก็ต้องเวิร์กฟรอมโฮมวนไปจนเบื่อ แต่หนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน และสามารถคลายเหงาลงไปได้บ้างก็คือการเล่นTikTok ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ยึดครองใจผู้ใช้โซเชียลมีเดียในขณะนี้กันเลยทีเดียว และที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่นักการตลาดก็เริ่มนำธุรกิจของตนเองเข้าสู่แพลตฟอร์มนี้เช่นเดียวกัน โดยผลสำรวจจาก App Annie ได้มีการเปรียบเทียบการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2564 กับเดือนมกราคม 2565 ว่า

  • ประเทศไทยมียอดดาวน์โหลด TikTok เพิ่มสูงขึ้น 44%
  • ระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันแต่ละครั้งของผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้น 47%
  • การใช้เวลาบนแพลตฟอร์มของผู้ใช้งานสูงขึ้นถึง 71%

ด้วยเหตุนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา TikTok จึงได้มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สนุกกับลูกเล่นที่หลากหลายมากขึ้น โดยใช้ชื่อว่าTikTok Stories มีลักษณะคล้ายกับ Instagram Stories ที่เราคุ้นเคยกันดี แต่จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับฟีเจอร์นี้กัน!

TikTok Story คืออะไร

TikTok Stories คืออะไร?

หลังจากที่ TikTok ได้ประกาศว่าทางแพลตฟอร์มกำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่อย่าง TikTok Stories ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถโพสต์คลิปวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ก็เป็นที่น่าจับตามองของคนทั่วโลกว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่าฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการโซเชียลมีเดีย เพราะมันถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2556 บนแอปพลิเคชันแชตยอดฮิตในสหรัฐอเมริกาอย่าง Snapchat ก่อนที่อีกหลาย ๆ แพลตฟอร์มจะทำตามมา โดยอันที่คนไทยเรานิยมเล่นกันมากก็คือ Instagram Stories และนอกจากนี้ ยังมี YouTube Shorts รวมถึง Twitter Fleets ที่เปิดตัวมาได้ครู่เดียวก็ต้องยกเลิกไปเพราะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร มาจนถึงใหม่ล่าสุด ก็คือ TikTok Stories นั่นเอง

ความแตกต่างของ TikTok Stories ที่ไม่เหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็คือ ผู้ใช้งานสามารถกดไลก์และแสดงความคิดเห็นต่อสตอรีนั้น ๆ ได้แบบสาธารณะ ซึ่งโดยปกติแล้ว การแสดงความคิดเห็นสตอรีจะเป็นแบบ Direct Message (DM) อีกทั้งยังสามารถดูได้อีกด้วยว่าใครกำลังดูสตอรีของเราอยู่บ้าง

 

วิธีโพสต์ TikTok Stories

  • เข้าแอปฯ TikTok แล้วกดปุ่ม “+” ตรงกลางด้านล่างของหน้าจอ

วิธีโพสต์ TikTok Stories 1

  • เลื่อนไปยังตัวเลือก “Story”

วิธีโพสต์ TikTok Stories 2

  • สามารถเลือกถ่ายเป็นรูปภาพหรือวิดีโอก็ได้ โดยก่อนถ่าย เราสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ โดยกดที่ “Effects” หรือจะเป็นฟิลเตอร์ต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนโทนสีของรูปภาพที่ “Filters” ด้านขวาบน หรือหากใครหน้าสดอยู่ จะแต่งหน้าผ่าน TikTok Stories ก็ทำได้โดยการกดตัวเลือก “Beautify”
  • หากไม่ต้องการถ่ายใหม่ ก็สามารถอัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอจากที่มีอยู่แล้วในเครื่องก็ได้เช่นกัน โดยการกดปุ่ม “Upload”
  • สามารถใส่เสียงเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของคลิปได้ที่ “Add Sound” ตรงกลางด้านบนสุด
  • เมื่อได้รูปหรือคลิปที่ต้องการแล้ว เราสามารถใส่ข้อความหรือสติกเกอร์ได้ตามใจชอบที่แถบเครื่องมือด้านขวา

วิธีโพสต์ TikTok Stories 3

  • เสร็จแล้วเลือก “Next” เพื่อมายังหน้าที่ให้เขียนแคปชัน พร้อมทั้งตั้งค่าการมองเห็น การปิดหรือเปิดคอมเมนต์ การใส่โลเคชันและการแท็กผู้ใช้งานอื่น ๆ

วิธีโพสต์ TikTok Stories 4

  • หากต้องการให้คลิปเป็นไวรัล อย่าลืมใส่แฮชแทก (Hashtag) ที่เกี่ยวข้องลงไปในแคปชันด้วยล่ะ!
  • เพียงเท่านี้ TikTok Stories ที่เราโพสต์ก็จะออกสู่สายตาผู้ติดตามของเราแล้วผ่านหน้าฟีด “Following”

 

จะใช้ TikTok Stories โปรโมตแบรนด์อย่างไรได้บ้าง?

แน่นอนว่า TikTok Stories เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้แพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง Instagram ในการเพิ่มยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกับลูกค้าเก่า ๆ ที่ติดตามเราอยู่แล้ว มากกว่าการทำการตลาดแบบหว่านแหโดยการโฟกัสแต่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ผ่านการทำวิดีโอไวรัลเพียงอย่างเดียว โดยจุดเด่นของ TikTok Stories คือจะแสดงให้เห็นเฉพาะผู้ใช้งานที่กำลังติดตามเราอยู่เท่านั้น และจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง

หากสงสัยว่า แล้วแบบนี้จะช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามได้อย่างไรล่ะ? ขอบอกเลยว่าได้แน่นอน เพราะถ้าหากเราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้ แม้คนที่เห็นจะมีแค่ผู้ติดตามของเรา แต่พวกเขาเหล่านั้นก็สามารถแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ดูได้ ซึ่งถ้า TikTok Stories นั้นสามารถดึงดูดใจผู้ชม ก็จะมีคนมาติดตามเราเพิ่มขึ้นอีก เพราะการที่ฟีเจอร์นี้จะหายไป 24 ชั่วโมง และมีผู้ติดตามเท่านั้นที่จะเห็น ถือเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานต้องกดติดตามเราเพื่อที่จะได้ไม่พลาดคอนเทนต์ของเราไป อีกทั้งยังเป็นการสร้างการจดจำอยู่เป็นระยะให้แก่ผู้ติดตามเก่าของเรา ไม่ให้พวกเขาลืมเราอีกด้วย ยิ่งเราโพสต์บ่อย ๆ ก็จะยิ่งมีคนเห็นแอ็กเคานต์ของเราเพิ่มขึ้น แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นการสร้างความรำคาญแต่ผู้ติดตามจนเกินไป

ส่วนในเรื่องของประเภทคอนเทนต์ใน TikTok Stories นั้น ก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังการทำงาน, การถาม-ตอบ, การแจกโคดโปรโมชัน, การประกาศเรื่องต่าง ๆ, กิจกรรมประจำวัน และเคล็ดลับที่มีประโยชน์แก่ผู้ชม เป็นต้น

 

สรุป

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าฟีเจอร์ใหม่ของ TikTok อย่าง TikTok Stories ไม่ใช่แค่เพียงสิ่งใหม่ในวงการโซเชียลมีเดีย แต่มีความเกี่ยวเนื่องกับการทำการตลาดด้วย เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอปพลิเคชันนี้กำลังมาแรงแซงทุกแพลตฟอร์มจริง ๆ และเมื่อมีจำนวนผู้ใช้งานแอปฯ เยอะ ก็มีโอกาสสูงที่จะมีคนเห็นคอนเทนต์ของเราเยอะขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของเราด้วยว่าต้องการโฟกัสคนกลุ่มใด และคนกลุ่มนั้นมักใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มใด แม้มีกลยุทธ์การตลาดที่ดีแค่ไหนแต่ถ้าโปรโมตผิดแพลตฟอร์ม ผลลัพธ์ก็อาจไม่มีประสิทธิภาพได้