เผย 5 กลยุทธ์การตลาด Social Media ได้ทั้งยอดขายและใจลูกค้า!

การตลาดบน Social Media (Social Media Marketing) คือสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องทำเพื่อสร้างการเติบโต เพราะในยุคการตลาดดิจิทัลเช่นนี้ เรียกได้ว่า Social Media กลายมาเป็นแพลตฟอร์มอันทรงพลังที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ ได้ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายของตนเองได้ง่ายขึ้น รวมถึงสร้างยอดขายให้มากกว่าเดิม โดยหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาด Social Media คือ การรู้วิธีสร้าง ดำเนินการ และวัดผลแผนการดำเนินงานโดยรวมอย่างถูกต้องแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปี ธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบอยู่เสมอ เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลกออนไลน์ล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะเทรนด์หรือกระแสสังคม ซึ่งส่งผลให้รูปแบบการทำการตลาดต้องปรับตามให้ทันไปด้วย บทความนี้จึงจะมาบอก “5 กลยุทธ์การตลาด Social Media” หรือ Social Media Plan ที่มีประสิทธิภาพเตรียมพร้อมรับปี 2023!

Social Media Marketing มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์การตลาด Social Media ฉบับปี 2023

ปัจจุบันนี้ ผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกต่างก็มีบัญชี Social Media กันอย่างน้อยคนละหนึ่งบัญชีทั้งนั้น ส่งผลให้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางสำคัญที่ทุกธุรกิจจะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงเปรียบเสมือนหัวใจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปสู่ความสำเร็จ โดยตัวอย่าง Social Media Plan ที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่

ตั้งเป้าหมายในการทำการตลาด

การมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่มั่นคงชัดเจน ถือเป็นรากฐานสำคัญที่สุดในการเริ่มวางแผนกลยุทธ์การตลาดใด ๆ เพราะหากเราไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร หรือมีเป้าหมายอย่างไรตั้งแต่แรก ก็จะไม่สามารถดำเนินการขั้นต่อไปจนถึงความสำเร็จได้เลย

ดังนั้น เป้าหมายกลยุทธ์การตลาด Social Media ของเราจึงควรสอดคล้องกับวิธีการดำเนินงานโดยรวม เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ ได้อย่างสำเร็จลุล่วง โดยปัจจัยสำคัญในการตั้งเป้าหมาย คือ ต้องมีความเฉพาะเจาะจง ทำได้จริง และสามารถวัดผลได้ในทุกขั้นตอน ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า ธุรกิจต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น 30% หากมีเป้าหมายที่แน่ชัดและสามารถวัดผลได้

ศึกษาและทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำธุรกิจแล้ว ขั้นต่อมาคือการรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของตนเองคือใคร จากนั้นก็ศึกษาและทำความเข้าใจคนกลุ่มดังกล่าว เพราะการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับลูกค้านั้นมีความสำคัญต่อการทำการตลาดผ่าน Social Media เป็นอย่างมาก โดยเราควรจะสามารถระบุความต้องการ สิ่งที่คาดหวัง ความชอบหรือไม่ชอบส่วนตัวของกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อนำมาวางแผนการตลาดให้ตรงใจกลุ่มคนเหล่านั้นมากที่สุด

ตัวอย่างแนวทางการศึกษาและทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของตนเอง สามารถทำได้ดังนี้

  • ทำความเข้าใจปัญหา (Pain Point) ที่กลุ่มเป้าหมายกำลังประสบอยู่ หรือความต้องการของพวกเขาให้ดีขึ้น
  • หมั่นตอบกลับความคิดเห็นบน Social Media อยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถไปแสดงความคิดเห็นในบล็อกอื่น ๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกันได้ เพื่อสร้างการมีปฏิสัมพันธ์
  • รวบรวมคำติชมต่าง ๆ จากรีวิวมาวิเคราะห์ว่าสินค้าหรือบริการของเรายังมีจุดไหนที่สามารถปรับปรุงหรือพัฒนาได้ ลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไรในตัวเรา
  • ทำ Social Listening หรือการเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่อยู่บน Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter หรือ YouTube เพื่อให้รู้ว่าในช่วงเวลานั้น ๆ มีใครกำลังพูดถึงสินค้าหรือบริการของแบรนด์เราอยู่บ้าง และพูดถึงว่าอย่างไร

สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับแพลตฟอร์ม

หากใครกำลังคิดว่า “ขอแค่มีคอนเทนต์มาโพสต์ไปวัน ๆ ให้ลูกค้าเห็นก็จบแล้ว” ขอบอกเลยว่านั่นเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะก่อนจะเผยแพร่คอนเทนต์ใด ๆ ลงบน Social Media เราจะต้องคิดและพิจารณาเนื้อหาเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อให้คอนเทนต์ที่ออกสู่สาธารณะมีคุณภาพและเหมาะสมมากที่สุด โดยก่อนอื่น เราควรจะต้องเรียนรู้วัตถุประสงค์ของแต่ละแพลตฟอร์มว่าควรจะทำคอนเทนต์ในลักษณะไหนดี เช่น

  • Facebook – เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่สุดในบรรดาสื่อสังคมออนไลน์ คอนเทนต์ที่เหมาะสมจึงเป็นคอนเทนต์ประเภทข่าวสารและความบันเทิง อีกทั้งเรายังสามารถสร้าง Facebook Group ไว้เป็นคอมมิวนิตีที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้ด้วย
  • Instagram – เป็นแพลตฟอร์มที่นิยมใช้ทำการตลาดมากที่สุด คอนเทนต์ที่เหมาะสมคือคอนเทนต์ที่มีภาพชัดเจน แสงสีสวยงาม องค์ประกอบน่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง หรือวิดีโอสั้น ๆ อย่าง Reels หรือ Stories ก็ตาม และที่สำคัญ แค็ปชันต้องไม่ยาวเกินไป เพราะ Instagram คือแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพ
  • LinkedIn – แพลตฟอร์มมืออาชีพสำหรับผู้ชมแบบ B2B คอนเทนต์ที่เหมาะสมจึงควรเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์แก่ผู้อ่าน มีความเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง และไม่ติดเล่นจนเกินไป

เมื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้ว เราก็สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เหมาะสมสำหรับช่องทางนั้น ๆ ได้เลย ด้วยการ

  • ใช้เทคนิคการเขียนคำโฆษณา (Copywriting) ที่ดึงดูดความสนใจ
  • พูดคุยกับผู้ชมโดยตรง ตอบโต้อย่างรวดเร็ว และมีความเป็นมิตร
  • โพสต์เนื้อหาตามกระแสสังคม ทันเหตุการณ์และน่าสนใจ อาจเป็นบล็อก โพสต์ หรือวิดีโอบ้างสลับกันไป
  • เขียนแค็ปชันในทุกสื่อที่โพสต์เสมอ แต่ไม่ควรยาวเกินไปจนน่าเบื่อ

สร้างตารางการโพสต์คอนเทนต์

อีกหนึ่งตัวอย่าง Social Media Plan ที่สำคัญคือ การสร้างตารางการโพสต์คอนเทนต์ ด้วยการใช้เครื่องมือปฏิทินเนื้อหาบน Social Media เพื่อจัดระเบียบและตั้งเวลาเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดของเราอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ปฏิทินเนื้อหายังช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันในทีม และให้ความเข้าใจในเชิงลึกมากขึ้นว่า อะไรได้ผลหรือไม่ได้ผลในแคมเปญโปรโมตแบรนด์ที่เราทำ

ใช้กลยุทธ์การขายให้น้อยที่สุด

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง การตลาดแบบเดิม ๆ ก็ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปเรื่อย ๆ หนึ่งในกรณีที่เห็นได้ชัดคือ การตลาดแบบรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค กล่าวคือ การตลาดที่ยัดเยียดการขายจนเกินไปทั้งที่ลูกค้าไม่ต้องการ เพราะการกระทำเช่นนั้นจะส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด ดังนั้น เราจึงควรเน้นที่การสร้างสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้ามากกว่าการใช้กลยุทธ์การขายแบบรัว ๆ โดยสิ่งที่เราสามารถทำได้คือ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคจริง ๆ และค่อย ๆ โน้มน้าวให้พวกเขาสนใจแบรนด์ของเรา ไม่ต้องเร่งรีบในการขาย จากนั้น ผู้บริโภคก็จะเกิดความสบายใจและไว้วางใจแบรนด์ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็จะซื้อสินค้าหรือบริการของเราเองโดยที่เราไม่ต้องยัดเยียด

 

Social Media Marketing มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?

ข้อดีของ Social Media Marketing

  • สามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก – Social Media ช่วยเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับลูกค้าเข้าหากัน ผ่านการทำคอนเทนต์ แคมเปญ และการโต้ตอบกัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เราสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเกิดความไว้วางใจในที่สุด
  • ช่วยเพิ่มยอดการเข้าชม – Social Media เป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มอัตราการเข้าชมได้เป็นอย่างดี โดยถ้าหากเราหมั่นแชร์บล็อกหรือหน้าเพจจากเว็บไซต์ลง Social Media บ่อย ๆ ก็จะได้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) มากขึ้นด้วย ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนผู้ชมให้มาเป็นลูกค้าได้ทุกเมื่อ
  • ช่วยสร้างยอดขายให้มากขึ้น – เราสามารถสร้างและปิดการขายได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์ม Social Media โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีเครื่องมือต่าง ๆ ให้เราใช้โปรโมตแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
  • ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) – หนึ่งในลักษณะเด่นของ Social Media คือการช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจดจำขึ้นได้ง่าย ซึ่งหากเรามีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร หรือมีเอกลักษณ์บางจุดที่ทำให้รู้ได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์ของเรา ก็จะทำให้ทุกครั้งที่มีคนเห็นอะไรเกี่ยวกับแบรนด์เราผ่านตาไป ก็จะจำเราได้ทันที

ข้อเสียของ Social Media Marketing

  • กลยุทธ์การตลาด Social Media เป็นการตลาดแบบผลัก – กล่าวคือ เป็นกลยุทธ์การตลาดที่จะต้องผลักตนเองเข้าไปขัดจังหวะในหน้าฟีดของผู้อ่าน ถึงแม้ว่าจะใช้ต้นทุนไม่มาก และสามารถสร้างการรับรู้ได้ แต่หากมากเกินไปก็อาจทำให้ผู้พบเห็นเกิดความรู้สึกรำคาญ อีกทั้งหากจะเอาไปใช้ในขั้นตอนปิดการขาย ก็อาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมนักในระยะยาว
  • มีคู่แข่งจำนวนมหาศาล – นับวัน Social Media ยิ่งมีจำนวนผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นหมายความว่าคู่แข่งของเราก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องแบ่งยอดการมองเห็นไปให้แบรนด์อื่น ๆ ด้วย และหากยอดดังกล่าวน้อยลง เราก็ต้องใช้ต้นทุนเพิ่มขึ้นในการซื้อพื้นที่โฆษณาให้ตนเองถูกมองเห็น
  • ไม่ควรใช้ Social Media เป็นแพลตฟอร์มหลัก – เพราะเวลาที่เราสร้างเพจบนแพลตฟอร์มหนึ่ง ๆ อาทิ Facebook โดเมนของเราก็จะเป็นโดเมนของ Facebook ไม่ใช่ของเราเอง (เช่น เพจ Facebook ของ Primal คือ https://www.facebook.com/primalagencyth/) แม้แต่แฟนเพจของเราเองก็ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ Facebook ด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากเราเผลอทำอะไรผิดกฎ ทางแพลตฟอร์มก็พร้อมแบนเราทันที เราจึงควรมีหน้าเว็บไซต์ของตนเองเป็นหลัก และใช้ Social Media เป็นช่องทางเสริมในการโปรโมตแทน

 

สรุป

การที่ธุรกิจเริ่มมีการใช้กลยุทธ์การตลาด Social Media ถือว่าเป็นผลดีต่อแบรนด์ในยุคนี้เป็นอย่างมาก เพราะ Social Media Marketing สามารถให้ประโยชน์แก่เราได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงลูกค้า การเพิ่มยอดผู้เข้าชม การสร้างยอดขาย หรือแม้แต่การรับรู้แบรนด์ โดย Social Media ก็มีหลากหลายแพลตฟอร์มให้เราเลือกใช้ ไม่จำเป็นต้องใช้แค่แพลตฟอร์มเดียว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกแพลตฟอร์มเช่นกัน ให้ดูตามความเหมาะสมว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามักอยู่ที่ใดเป็นส่วนมาก และคอนเทนต์ที่สื่อถึงความเป็นแบรนด์ของเราเหมาะแก่การลงช่องทางใด

ทั้งนี้ ดังที่ได้กล่าวไปว่า การทำการตลาดผ่าน Social Media ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยิ่งสื่อสังคมออนไลน์ได้รับความนิยมมากเท่าไร คู่แข่งของเราก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากคุณยังไม่มั่นใจว่าจะสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ ทาง Primal Digital Agency ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ยินดีให้คำแนะนำ และช่วยวางแผนกลยุทธ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เจอกับผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่เคย!