วาง Social Media Strategy เพื่อเพิ่ม Brand Awareness ใน 5 ขั้นตอน

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า Social Media ได้กลายเป็นโลกใบที่สองของคนทั่วโลก เกือบทุกกิจกรรมในชีวิตล้วนเกิดขึ้นใน Social Media ไม่เว้นแม้แต่การจับจ่ายใช้สอย หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ปัจจุบันทุกธุรกิจจึงให้ความสำคัญกับ Social Media เพื่อทำให้คนรู้จักแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น หากคุณเองก็ต้องการจะบรรลุเป้าหมายนี้ มาเรียนรู้ 5 ขั้นตอนในการวาง Social Media Strategy เพื่อเพิ่ม Brand Awareness ตามแบบฉบับของ Digital Tips ไปด้วยกัน !

Social Media

นิยามของ Social Media Strategy

Social Media Strategy หมายถึง กลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์ลงบน Social Media เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ Content Outline, Content Plan และ KPI ซึ่งสามารถอธิบายได้คร่าว ๆ ดังนี้

  • Content Outline หรือ แบบร่างคอนเทนต์ เกิดจากการ Research รูปแบบคอนเทนต์จาก Social Media ของคู่แข่ง หรือรูปแบบคอนเทนต์ที่กำลังฮิตติดเทรนด์ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในแบบที่เหมาะกับแบรนด์ของตัวเอง 
  • Content Plan คือ แผนการโพสต์คอนเทนต์ลงในแต่ละช่องทาง มักมีลักษณะคล้าย Planner หรือ Calendar ที่ระบุทั้งวันและช่วงเวลา 
  • KPI คือ การวัดประสิทธิภาพของคอนเทนต์ โดยอาจใช้จำนวนการเข้าถึง (Reach) จำนวนไลก์ คอมเมนต์ แชร์ (Engagement) หรืออัตราค่าโฆษณาต่อผลลัพธ์ (Cost Per Result: CTR) เป็นเกณฑ์ในการวัดผล

 

วาง Social Media Strategy อย่างไร ให้คนรู้จักแบรนด์

เมื่อเข้าใจความหมายของ Social Media Strategy แล้ว คำถามต่อมาก็คือ “แบรนด์ควรจะวางกลยุทธ์อย่างไร” เพราะในปัจจุบันการจะใช้ Social Media ให้ได้ผลไม่ใช่เรื่องง่าย หากแบรนด์เดินเกมพลาด เช่น ยิงโฆษณาโดยไม่ระบุกลุ่มเป้าหมาย โพสต์ภาพที่ผิดกฎชุมชน หรือใช้งบโฆษณาน้อยเกินไป ก็อาจส่งผลให้ Social Media ถูกปิดกั้นการมองเห็นได้ เพื่อตอบคำถามนี้ Digital Tips ขอแชร์ 5 ขั้นตอนการวาง Social Media Strategy ให้ได้ประสิทธิภาพ ดังนี้

เลือกโปรโมตแบรนด์ลงในช่องทางที่เหมาะสม

Social Media แต่ละแพลตฟอร์มมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน แต่มีกลุ่มเป้าหมายไม่เหมือนกัน คุณจึงควรเลือกทำคอนเทนต์ลงในช่องทางที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดปัญหาการใช้งบประมาณโฆษณาอย่างสิ้นเปลือง

Social Media Platforms

เพื่อประกอบการตัดสินใจ Sprout Social จึงรวบรวม Target Audience Demographics ของ Social Media แต่ละแพลตฟอร์ม (อัปเดต 2022) มาไว้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับธุรกิจทั่วโลก

  • Facebook มีผู้ใช้งานทั่วโลก 2.9 พันล้านคน แบ่งเป็นผู้หญิง 43% ผู้ชาย 57% และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากที่สุด มีอายุเฉลี่ย 25-34 ปี
  • Instagram มีผู้ใช้งานทั่วโลก 2 พันล้านคน แบ่งเป็นผู้หญิง 48.4% ผู้ชาย 51.8% และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากที่สุด มีอายุเฉลี่ย 25-34 ปี รองลงมาคือ 18-24 ปี
  • Tiktok มีผู้ใช้งานทั่วโลก 1 พันล้านคน แบ่งเป็นผู้หญิง 61% ผู้ชาย 39% และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากที่สุด มีอายุเฉลี่ย 10-19 ปี (ผู้ใช้งานกว่า 40% เป็น Gen Z)
  • Twitter มีผู้ใช้งานทั่วโลก 211 ล้านคน แบ่งเป็นผู้หญิง 38.4% ผู้ชาย 61.6% และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากที่สุด มีอายุเฉลี่ย 18-29 ปี 

ศึกษาการทำงานของคู่แข่ง

รวบรวมรายชื่อของแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งทางการตลาดของคุณ หรือหากคุณยังไม่มั่นใจว่ามีแบรนด์ใดบ้าง การทำ Competitor Analysis ตามขั้นตอนด้านล่างนี้ ช่วยคุณได้ !

Facebook Audience Insights - Potential Audience

  1. ลองเช็กดูว่า ผู้คนมัก Search ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการแบบเดียวกับคุณด้วย Keyword ใดบ้าง โดยใช้ Google Keyword Planner (ต้อง Log In บัญชี Google ก่อน)
  2. นำ Keyword เหล่านั้นไป Search บน Google แล้วเก็บข้อมูลว่า มีเว็บไซต์ของแบรนด์ใดปรากฏขึ้นมาในหน้าแรก ๆ บ้าง
  3. สืบค้นเพิ่มเติมว่า แบรนด์เหล่านั้นมี Social Media เป็นของตัวเองหรือไม่ ถ้ามี พวกเขามักจะโพสต์คอนเทนต์แบบใด และมักได้ Engagement จากคนกลุ่มไหน
  4. อีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้ฟีเจอร์ Facebook Audience Insights (ต้อง Log In Facebook ก่อน) เลือกหน้าต่าง Potential Audience แล้วเลื่อนดูหมวดหมู่ Top Pages ระบบจะแสดงรายชื่อ Facebook Pages ที่มี Target Audience กลุ่มเดียวกับคุณ
  5. เมื่อได้รายชื่อคู่แข่งและข้อมูลเบื้องต้นอื่น ๆ แล้ว ลองเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของคุณกับคู่แข่งเหล่านั้น เพื่อวิเคราะห์ว่า อะไรบ้างที่คุณควรปรับปรุง เพื่อให้ดีเทียบเท่าคู่แข่ง และอะไรบ้างที่เป็นจุดเด่นจนทำให้คุณอาจเอาชนะพวกเขาได้

สร้างแครักเตอร์ของแบรนด์ให้เด่นชัด

เมื่อคุณรวบรวมข้อมูลในมือได้จนถึงปริมาณที่เหมาะสม และพอมองเห็นแนวทางการทำงานชัดขึ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การสร้างแครักเตอร์เฉพาะของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ คุณอาจดีไซน์การใช้คำ ออกแบบเทมเพลตรูปภาพและวิดีโอใหม่ หรือสร้างรูปโปรไฟล์ใน Social Media ของแบรนด์ ฯลฯ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญก็คือ “ทำให้ลูกค้าจดจำคุณ” และรู้สึกว่าคุณแตกต่างกับแบรนด์อื่น ๆ ที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันให้ได้

โพสต์คอนเทนต์ลงบนทุกช่องทางอย่างสม่ำเสมอ

เป็นความจริงที่คุณภาพของคอนเทนต์คือสิ่งสำคัญ แต่ความสม่ำเสมอก็มีบทบาทไม่แพ้กัน ยิ่งมีปริมาณคอนเทนต์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้คนมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณอาจลองตั้งเวลาโพสต์เนื้อหาตามเวลายอดฮิตที่มักจะมีการรวบรวมสถิติเอาไว้ เพื่อทดลองความเป็นไปได้อื่น ๆ ด้วย

Content Plan Template Example

อย่างไรก็ดี หากคุณยังไม่เคยวางแผนเวลาโพสต์ที่แน่นอน แนะนำให้ลองสร้าง Content Plan ในแบบของตัวเอง ตามขั้นตอนดังนี้

  1. วางแผนให้แน่ชัดว่า คุณจะเลือกทำคอนเทนต์ลงบน Social Media ช่องทางไหนบ้าง
  2. แต่ละช่องทางจะมีคอนเทนต์ลักษณะใดบ้าง? เช่น ทำ Album Post และ Video สำหรับ Facebook และทำ Short Video สำหรับ Tiktok เป็นต้น
  3. ลองประมาณการจากเวลาทำงาน และจำนวนคนทำงานว่า ภายใน 1 เดือนแบรนด์ของคุณจะสามารถทำคอนเทนต์สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มได้ทั้งหมดกี่คอนเทนต์
  4. Create Planner ขึ้นมาเอง หรืออาจใช้ Template สำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น Google Calendar หรือ Content Marketing Planning Template จาก HubSpot แล้วลองวางแผนดูว่าจะโพสต์แต่ละคอนเทนต์วันไหน โดยมีข้อแนะนำว่า ไม่ควรโพสต์คอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มเดียวกันถี่เกินไป และควรจัดเวลาให้มีโพสต์ทั้งต้นเดือน กลางเดือน และปลายเดือน

วัดประสิทธิภาพเป็นประจำ เพื่อพัฒนา Social Media Strategy ให้ดียิ่งขึ้น !

แม้กระบวนการที่ผ่านมาจะสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่หากขาดการวัดประสิทธิภาพการทำงาน แบรนด์ของคุณก็จะไม่สามารถพัฒนากลยุทธ์ของตัวเองได้ ดังนั้น แนะนำให้หมั่นเก็บผลลัพธ์จากหน้า Insights ของทุกแพลตฟอร์ม และทำรายงานสรุปผลทุก ๆ สิ้นเดือน เพื่อดูว่าในแต่ละเดือน Social Media ของคุณมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นแค่ไหน มีคนมองเห็นหรือ Engage กับคอนเทนต์ของคุณมากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการยิงโฆษณา การวัดผลจากงบโฆษณาที่ใช้ จะทำให้คุณเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ว่า Social Media Strategy ของคุณประสบความสำเร็จหรือไม่ และควรปรับปรุงอย่างไร

สรุป

โดยสรุปแล้ว การวาง Social Media Strategy ให้ได้ผล คือการดำเนินการให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ มีทั้งการวางแผน จัดทำ และติดตามผลที่ดี นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นศึกษาคู่แข่งและเทรนด์คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาการวางกลยุทธ์ให้ก้าวทันโลกอยู่ตลอดเวลา นำพาให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ในที่สุด