CDN คืออะไร? มีประโยชน์ต่อการทำ SEO อย่างไรบ้าง?

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าในปัจจุบัน โลกขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ และดูเหมือนว่าการเสพคอนเทนต์จะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการหรือแบรนด์ต่าง ๆ ต้องสร้างคอนเทนต์ออกมาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ แต่การมีคอนเทนต์จำนวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ต ก็อาจส่งผลถึงประสิทธิภาพในการรับและส่งข้อมูลเช่นกัน

คุณผู้อ่านเคยไหม? เมื่อต้องการเข้าไปใช้งานในเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง แล้วโหลดนานมาก ใจก็อยากจะรอ แต่ก็สู้กับความช้าของการโหลดข้อมูลไม่ไหว

ปัญหาเช่นนี้ อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย และคงไม่มีผู้ให้บริการคอนเทนต์คนไหนต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ Content Delivery Network หรือ CDN ตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรอการโหลดคอนเทนต์ที่นานกว่าควรจะเป็น!

Content Delivery Network (CDN) คืออะไร?

Content Delivery Network หรือ CDN คือ เครือข่ายขนาดใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกัน เพื่อให้ส่งข้อมูลไปแสดงผลที่หน้าจอของผู้ใช้งานผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งการนำข้อมูลหรือเนื้อหาต่าง ๆ ใส่ไว้บนเครือข่าย การส่งมอบเนื้อหาก็จะทำให้ความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น

Content Delivery Network สำคัญอย่างไร?

  เทคโนโลยี CDN ถูกพัฒนาขึ้นมาครั้งแรกในช่วงปลายยุค 90s ด้วยจุดประสงค์ที่มุ่งเน้นในการส่งมอบเนื้อหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และลดโอกาสในการรับส่งข้อมูลที่อาจจะหยุดชะงักหรือติดขัดด้วยปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ให้บริการคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบ SEO, SEM, วิดีโอ, แอนิเมชั่น ฯลฯ เพราะหากเกิดการติดขัดในส่วนนี้ ผู้ใช้งานก็จะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์และพัฒนามาแล้วได้ อันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ไม่ดีไปด้วย 

CDN คืออะไร

Content Delivery Network (CDN) มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

ลดค่าใช้จ่ายสำหรับ Bandwidth

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญต่อการทำเว็บไซต์อย่างมากก็คือ “Bandwidth”

Bandwidth (แบนด์วิดท์) คือการวัดจำนวนการรับส่งข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งภายใต้เครือข่ายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในเชิงเปรียบเทียบ Bandwidth เปรียบดั่งท่อน้ำ และข้อมูลต่าง ๆ (Data) เปรียบเสมือนน้ำ ซึ่งจำนวนของน้ำที่สามารถส่งผ่านท่อนั้น ๆ ได้ก็คือจำนวนสูงสุดของข้อมูลที่สามารถส่งผ่านแบนด์วิดท์ได้นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม: BANDWIDTH คืออะไร เรื่องต้องรู้ก่อนลงมือทำเว็บไซต์ของตัวเอง!

ยิ่งถ้าเว็บไซต์มีข้อมูลเยอะ ก็ยิ่งต้องเลือก Bandwidth ที่สูงขึ้น แต่ก็ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการใช้งาน CDN เพื่อรับส่งข้อมูลแทนก็คือตัวเลือกที่จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้

เพิ่ม Page Speed

การนำคอนเทนต์ไปไว้บนเครือข่ายส่งมอบเนื้อหา สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ได้ เนื่องจากตัวเซิร์ฟเวอร์หลักของเว็บไซต์ ไม่ต้องประมวลเนื้อหาที่อาจจะมีขนาดใหญ่จนใช้เวลานาน เมื่อความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์เพิ่มมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานก็ไม่ต้องรอนานกว่าที่เว็บไซต์จะแสดงผล นำมาซึ่งยอด Bounce Rate ที่น้อยลง

ส่งเสริมสุขภาพของเว็บไซต์ให้ดีขึ้น

เมื่อเว็บไซต์ของคุณมี Page Speed ที่ดี, มียอด Bounce Rate ที่เหมาะสมตามเกณฑ์ และมียอด Traffic ที่น่าประทับใจแล้ว สุขภาพของเว็บไซต์ของคุณก็จะดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมีการทำ Search Engine Optimization (SEO) และ Search Engine Marketing (SEM) โอกาสที่เครื่องมือประมวลผลของ Search Engines จะประเมินว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพและควรที่จะถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาก็มีมากขึ้นด้วย 

เสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดี

เมื่อผู้ใช้งานมีการเข้าถึงข้อมูลที่สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ประสบการณ์การใช้งานของพวกเขาก็ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้สำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่คุณนำเสนอมีผู้รับชม อันนำมาซึ่งการมีปฏิสัมพันธ์ การแสดงความเห็น การแชร์ รวมถึงผู้ใช้งานขาจรก็อาจกลายมาเป็นผู้ใช้งานขาประจำได้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งการสร้าง Brand Awareness และ Brand Loyalty ในอนาคตให้กับธุรกิจของคุณได้

ใช้ Content Delivery Network ทำอะไรได้บ้าง?

แสดงผลเนื้อหาด้วยความเร็วสูง

ด้วยจุดประสงค์หลักของ CDN ก็คือการรับส่งเนื้อหาผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นการยกระดับทั้งการนำเสนอจากผู้ให้บริการและการใช้งานของผู้ชม ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ไม่ติดขัดใด ๆ

เตรียมเนื้อหาที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

การใช้งาน CDN สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกหรือใช้งานอุปกรณ์ชนิดใด ด้วยระบบที่จะเลือกแสดงผลตามความเหมาะสมต่อการใช้งานอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือการใช้งานบนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตต่าง ๆ ก็ตาม

ทำการสตรีมมิ่ง

นอกจากประโยชน์ในการรับส่งข้อมูลแล้ว อีกหนึ่งการใช้งาน CDN ที่พลาดไม่ได้ก็คือการทำสตรีมมิ่งที่มีคุณภาพสูงได้ ลดปัญหาในด้านฐานเก็บข้อมูลที่หนักอึ้ง, การใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่มากยิ่งขึ้น โดยการทำสตรีมมิ่งผ่าน CDN จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณมีความเสถียรมากขึ้น สามารถถ่ายทอดได้ด้วยภาพและเสียงที่มีความคมชัดสูงได้

สรุป

Content Delivery Network (CDN) คือตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์มากมาย หากธุรกิจของคุณมีการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายอยู่ตลอดเวลา การใช้เครื่องมือที่สามารถรองรับกับความหลากหลายของรูปแบบคอนเทนต์ได้ ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับโลกแห่งคอนเทนต์ไปอีกขั้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี CDN นี้เช่นกัน