รู้จัก Anchor Text เทคนิคสำคัญของ SEO พร้อมเข้าใจวิธีการใช้!

หนึ่งในเทคนิคการทำ SEO ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีก็คือ การทำ “Anchor Text” เพราะเทคนิคนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งอัลกอรึทึมของ Google และผู้ใช้งานเข้าใจบริบทของการสร้างลิงก์ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งสิทธิบัตรดั้งเดิมของ Google ก็ได้ระบุเอาไว้ด้วยว่า Anchor Text มีส่วนในการจัดอันดับเว็บไซต์ ดังนั้น หากมีการใช้ Anchor Text แบบผิด ๆ ก็อาจทำให้ผลของการทำ SEO เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น อันดับการค้นหาเว็บไซต์ของเราใน Google ก็จะร่วงตามไปด้วย บทความนี้จึงจะเป็นคู่มือพื้นฐานที่ช่วยให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นว่า Anchor Text คืออะไร ควรใช้แบบไหน และจำเป็นต้องจำกัดการใช้ Anchor Text ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือไม่

Anchor Text ทำยังไง

Anchor Text คืออะไร?

ก่อนอื่น ต้องอธิบายก่อนว่า คำว่า Anchor คืออะไร Anchor คือ สมอเรือ แต่หากยึดตามความหมายทาง SEO แล้วล่ะก็ Anchor Text จะหมายถึงข้อความที่เป็นลิงก์ซึ่งใช้เชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์ หรือเรียกอีกอย่างว่า Anchor Text Link คือการเปรียบเทียบระหว่างลิงก์ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์อื่น กับสมอเรือที่ใช้เชื่อมกับเรือนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็น Anchor Text ในรูปแบบของตัวอักษรมีความแตกต่างจากตัวอักษรทั่วไป โดยอาจเป็นตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้น สีเปลี่ยนไป ขีดเส้นใต้ ทำตัวเอียง ฯลฯ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีคีย์เวิร์ดคำว่า “ดิจิทัลเอเจนซี” เราก็จะทำการใส่ลิงก์เข้าในในตัวอักษรเพื่อเชื่อมไปยังหน้าเว็บฯ ของดิจิทัลเอเจนซีหนึ่ง ๆ เช่น หากเชื่อมไปที่ Primal ก็จะเป็น ดิจิทัลเอเจนซี เป็นต้น โดยการเลือกใช้คำจะต้องเป็นคำที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาในเว็บไซต์นั้น ๆ เพราะคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการทำ Anchor คือตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มอันดับบนหน้า Google ได้เป็นอย่างดี

 

Anchor Text สำคัญอย่างไร?

ตราบใดที่ Backlink ยังเป็นสิ่งสำคัญในการทำ SEO ก็อย่าลืมนึกถึง Anchor Text ด้วยเช่นกัน เพราะเดิมทีแล้ว Anchor Text คือวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ Google เข้าใจได้ว่าเว็บไซต์ของเราเกี่ยวข้องกับอะไร ทั้งยังสามารถช่วยตรวจจับสแปมใน Backlink ได้อีกด้วย โดยหลักการทำงานของอัลกอริทึม มีดังนี้

  • เราสร้าง Backlink
  • Google Bot เข้ามาดู Backlink ที่เราสร้าง
  • Google Bot เอา Backlink ไปใส่ไว้ใน Database ของเว็บไซต์ที่เราลิงก์ไป หรือที่เรียกว่า Link Profile
  • Google Bot จะวิเคราะห์ Link Profile ด้วยการเอามาเปรียบเทียบกับคีย์เวิร์ดที่อยู่บนหน้าเว็บฯ ของเรา ว่าเป็นสแปมหรือไม่
  • ประเมินและจัดอันดับเว็บไซต์ของเราตามความเหมาะสม

ดังนั้น ถ้าไม่อยากถูก Google มองว่าเป็นสแปม เราจึงต้องเข้าใจหลักการใช้ Anchor Text ที่ถูกต้อง หรือก็คือการเรียนรู้ว่าต้องสร้างลิงก์อย่างไรให้แนบเนียนและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ดังที่จะอธิบายต่อไปนี้

 

รูปแบบของ Anchor Text คืออะไรบ้าง?

Exact Match Anchor Text

Exact Match Anchor Text เป็นการสร้าง Anchor โดยใช้คีย์เวิร์ดมาทำเป็นลิงก์แบบตรงตัว โดย Anchor ประเภทนี้จัดว่าเป็นวิธีที่นิยมทำกันมากที่สุด เพราะถือเป็น Anchor Text ที่มีพลังสูงสุดในการช่วยดันอันดับ SEO ของเว็บไซต์ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้เว็บไซต์อันดับร่วงได้ง่าย ๆ ด้วยหากใช้เยอะเกินความจำเป็น

ตัวอย่าง คีย์เวิร์ด “การทำ SEO” Anchor Text Link คือ การทำ SEO

Branded Anchor Text

Anchor Text Link ประเภทนี้ถือว่ามีพลังความแรงสูงเป็นอันดับสองรองจาก Exact Match Anchor เลยทีเดียว โดยวิธีทำจะเป็นการใส่ชื่อแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ชื่อร้าน ชื่อบล็อก ฯลฯ เนื่องจาก Google ชอบให้เราสร้างแบรนด์

ตัวอย่าง Primal หรือ เอเจนซีทำดิจิทัลมาร์เก็ตติงชั้นนำของไทย

Generic Anchor Text

Generic Anchor Text เป็น Text ในเชิง “เรียกแขก” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Call-to-Action (CTA) นั่นเอง เช่นคำว่า

  • “คลิก”
  • “ที่นี่”
  • “Click Here”
  • “Enter” เป็นต้น

Naked Link Anchor Text

Naked Link Anchor Text คือการนำ URL ของเว็บไซต์มาใช้แทรกในเนื้อหาได้เลย เช่น

Brand and Keyword Anchor Text

Brand and Keyword Anchor Text Link คือการผสมผสานระหว่างแบรนด์กับคีย์เวิร์ด เช่น แบรนด์คือ Primal และคีย์เวิร์ดที่จะใช้คือ “เทคนิคการทำ SEO” Anchor Text ก็จะมีหน้าตาประมาณนี้

  • เทคนิคการทำ SEO by Primal
  • เทคนิคการทำ SEO โดย Primal เอเจนซีชั้นนำของไทย เป็นต้น

LSI Anchor Text

LSI ย่อมาจาก Latent Semantic Indexing หมายถึง ความหลากหลายของ Main Keyword หรืออธิบายง่าย ๆ คือ การเล่นคำโดยขยายความจาก Main Keyword โดยวิธีหา LSI Keyword นั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการดูจาก Google Related Searches, Google Suggest หรือ Google Keyword Planner ได้เลย

ตัวอย่าง Main Keyword คือ “การทำ SEO” LSI Keyword จะสามารถเขียนได้ดังนี้

  • วิธีการทำ SEO ให้เห็นผลภายใน 90 วัน
  • การทำ SEO เบื้องต้น
  • สอนทำ SEO ขั้นพื้นฐาน
  • วิธีโปรโมตเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO 
  • รับทำเว็บไซต์ให้ติด SEO เป็นต้น

Partial-Match Anchor Text

Anchor ประเภทนี้มีลักษณะคล้าย ๆ กับ LSI เพียงแต่เราเติมคำอื่น ๆ ลงไปให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น อาจไม่ต้องเป็นทางการมาก เช่น หากคีย์เวิร์ดคือ “การทำ SEO” Partial-Match Anchor Text ก็อาจจะเขียนได้ว่า

  • คู่มือการทำ SEO ฉบับอัปเดต 2022
  • เทคนิค SEO สายขาว
  • เรียนรู้ SEO ด้วยตัวเอง
  • ทำ SEO อย่างไรให้มีคุณภาพ เป็นต้น

Long Anchor Text

Long Anchor Text ถือเป็นส่วนขยายของ Partial-Match Anchor Text ในรูปแบบที่ยาวขึ้นกว่าเดิม เช่น

  • การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google
  • โปรโมตเว็บฯ ให้ติดหน้าแรกของ Google ด้วยเทคนิค SEO
  • เทคนิค SEO แบบมีประสิทธิภาพฉบับมืออาชีพ เป็นต้น

Image Anchor / NO Anchor

Anchor ประเภทนี้นั้นไม่เกี่ยวข้องกับ Text แต่อย่างใด แต่เป็นแค่ Anchor เฉย ๆ ที่อยู่ในรูปแบบของ HTML หรือรูปภาพ ซึ่งโดยปกติแล้ว Google จะถือเอา “ALT Text” ที่เราใส่ในรูปภาพ เป็น Anchor Text เราจึงเรียก Anchor ประเภทนี้ว่า Image Anchor ส่วน NO Anchor ก็คือการที่เรานำรูปภาพมาทำเป็นลิงก์โดยไม่ได้ใส่ ALT Text นั่นเอง

 

เทคนิคการเขียน Anchor Text ให้มีคุณภาพ

หากต้องการให้เว็บไซต์ของตนเองมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการทำ Anchor Text เนื้อหาบนเว็บไซต์นั้น ๆ ก็จำเป็นต้องมีความเชื่อมโยงกับคีย์เวิร์ดของ Anchor ให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้อัลกอริทึมของ Google เห็น เพราะถ้าหากเนื้อหาไม่มีความเชื่อมโยงกัน Google ก็อาจมองว่าเว็บไซต์ของเราไม่มีคุณภาพได้ นอกจากนี้ บทความที่มีจำนวนลิงก์มากเกินปกติจนดูไม่ธรรมชาติ จะทำให้ส่งผลเสียต่อการขึ้นอันดับของเว็บไซต์ด้วย เพราะลิงก์เองก็คือส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพเนื้อหา โดยลิงก์ที่ส่งผลเสียต่อบทความมักเป็น

  • Anchor Text จากบทความของเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีมากเกินความจำเป็น
  • ลิงก์ที่มาจากบริษัทรับทำเว็บไซต์
  • ลิงก์จากเว็บไซต์ไดเรกทอรี หรือคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความของเรา

โดยเคล็ด (ไม่) ลับในการเขียน Anchor Text ให้เนียนจนอัลกอริทึมของ Google ประทับใจ สามารถทำได้ดังนี้

  • สร้าง Anchor Text ให้ดูหลากหลาย กล่าวคือ อย่าใช้ Anchor Link ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป พยายามจัดแบ่งสัดส่วนการใช้ของ Anchor แต่ละประเภทให้เหมาะสม
  • ใส่คีย์เวิร์ดของ Anchor Text ให้สอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเรา เพื่อดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO
  • พยายามสร้างลิงก์ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ Exact Match Anchor Text ถี่เกินไป

สรุปได้ว่า  เมื่อเนื้อหาภายในบทความดีแล้ว ประกอบกับการสร้าง Anchor Text ที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ข้างต้นนี้ โดยยึดหลักสำคัญคือ “การทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด” เราก็จะสามารถดันอันดับเว็บไซต์ขึ้นไปอยู่ด้านบนของหน้าการค้นหาได้ไม่ยากเลย

 

สรุป

ในขณะที่ Backlink ยังมีความสำคัญอยู่ Anchor Text เองก็มีความสำคัญไม่แพ้กันสำหรับ SEO เนื่องจากอัลกอริทึมของ Google ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากเป็นอันดับต้น ๆ ในการพิจารณาว่าเว็บไซต์ควรได้อันดับที่ดีหรือไม่ เพราะ Anchor Text Link คือเครื่องมือที่ช่วยให้ Google เข้าใจได้ง่ายมากว่าเว็บไซต์ของเรานั้นเกี่ยวกับอะไร อีกทั้งยังสามารถตรวจหาสแปมบนหน้าเว็บฯ ได้อีกด้วย ดังนั้น การเขียน Anchor Text ที่ถูกวิธีจะช่วยให้เราเพิ่มวิธีการและประสิทธิภาพใน SEO ให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น