Native Advertising โฆษณาที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่มากที่สุด!

ในยุคที่ผู้บริโภคมีอำนาจเข้าถึงสื่อและอินเทอร์เน็ต การทำโฆษณาสินค้าหรือบริการแบบขายตรงอาจไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย ๆ อีกต่อไป เพราะลูกค้ามีแนวโน้มจะเชื่อคำโฆษณาจากการใช้จริง หรือคำบอกเล่าแบบปากต่อปากจากผู้บริโภคด้วยกันเองมากกว่า สิ่งนี้เองจึงทำให้การทำโฆษณา Hard Sale เริ่มหมดความนิยม และเกิดการสร้างสรรค์โฆษณาแนวทางใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การทำโฆษณาในรูปแบบ Native Advertising

ยิ่งในยุคที่ผู้บริโภครู้ทันและหลีกเลี่ยงได้ การทำโฆษณายิ่งต้องอาศัยไอเดียที่เฉียบคมมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ การทำ Native Advertising จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากนักการตลาดจะใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปได้อย่างเต็มที่แล้ว โฆษณารูปแบบนี้ยังไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของเกินไปด้วย

Native Advertising คืออะไร และทำไมถึงทำให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคและได้รับยอดการมีส่วนร่วมมากกว่าการทำโฆษณารูปแบบอื่น ๆ เรารวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ Native Advertising ไว้แล้วที่บทความนี้!

native advertising คือ


Native Advertising คือ
อะไร? รูปแบบโฆษณาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า

ก่อนหน้านี้ การทำโฆษณาออนไลน์มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Banner Ads, Display Ads หรือแม้แต่โฆษณาบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ชอบถูกยัดเยียดโฆษณาหรือขายตรง นักการตลาดดิจิทัลจึงได้เริ่มหยิบโฆษณารูปแบบ Native Advertising มาใช้มากยิ่งขึ้น

Native Advertising คือการโฆษณารูปแบบหนึ่ง ที่เป็นลักษณะของคอนเทนต์ให้ประโยชน์ ตอบข้อสงสัย หรือนำเสนอเรื่องที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ โดยจะไม่เน้นการขายแบบตรงไปตรงมา แต่เน้นการขายสินค้าอย่างแนบเนียนมากกว่า โดยวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อ่าน หรือทำให้รู้สึกว่าถูกบังคับดูโฆษณาอยู่ ทั้งนี้เพราะไม่มีใครชอบถูกบังคับให้ดูในสิ่งที่ไม่ได้สนใจ หรือถึงแม้จะสนใจก็คงไม่มีใครชอบการถูกยัดเยียดอยู่ดี นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Native Advertising เป็นที่นิยมขึ้นอย่างมาก

โดยทั่วไป Native Advertising มีลักษณะที่สังเกตง่าย ๆ คือ จะมีรูปแบบการนำเสนอเนียนไปกับแพลตฟอร์ม เช่น ถ้าแพลตฟอร์มนั้นนำเสนอบทความเป็นส่วนใหญ่ Native Advertising ที่ลงไปก็จะอยู่ในรูปแบบบทความด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เนื้อหาที่ทำต้องเป็นประเภทเดียวกับที่ช่องทางนั้นนำเสนออยู่เป็นปกติด้วย และที่สำคัญ เนื้อหาของ Native Advertising ควรจะให้ประโยชน์และเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ดี ผู้ทำ Native Advertising สามารถเป็นได้ทั้งตัวแบรนด์เอง ตัวเจ้าของแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่ร่วมมือกันทำก็ได้เช่นกัน

 

Native Advertising สำคัญอย่างไรสำหรับการตลาดออนไลน์ในยุคนี้

อย่างที่กล่าวไปว่าตอนนี้ผู้บริโภคเบื่อการทำโฆษณาขายของแบบ Hard Sell และมีแนวโน้มให้ความสนใจกับเนื้อหาที่มีประโยชน์มากกว่า ด้วยเหตุนี้ Native Advertising จึงได้รับผลตอบรับดีกว่าโฆษณาประเภทอื่น ๆ ยิ่งหากทำได้แนบเนียน และไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกยัดเยียดเกินไป ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับยอดการมีส่วนร่วมและยอดแชร์สูงเพิ่มขึ้นไปอีก

โดย Native Advertising เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ หรือธุรกิจยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เนื่องจากหากแบรนด์ทำ Native Advertising ลงทางแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและเหมาะสมกับแบรนด์ ก็จะช่วยสร้าง Traffic กลับมายังเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี ทำให้นอกจากแบรนด์จะเป็นที่รู้จักและเพิ่มความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้าได้มากขึ้น ยังอาจส่งผลให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับการทำ SEO ดีขึ้นไปด้วยพร้อมกัน

นอกจากนี้ Native Advertising ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์ได้ เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่ที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า ลูกค้าจึงสัมผัสประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ได้มากกว่า พร้อมกันนั้น Native Advertising ยังใส่ความ Creative ได้เต็มที่ ใส่รูปภาพสวย ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาได้ จึงช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าหรือบริการได้ดีมากกว่าเดิม

 

Native Advertising มีรูปแบบใดบ้าง?

Native Advertising ที่แพร่หลายในแวดวงบริษัทการตลาดออนไลน์จะมีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ 6 รูปแบบ ดังนี้

1.   In Feed Ads

Native Advertising ประเภทนี้มักจะเห็นใน Feed บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn เป็นต้น

2.   Paid Search Ads

Native Advertising ในรูปแบบ Paid Search จะปรากฏเวลาเราค้นหาข้อมูลในระบบ Search Engine ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo

3.   Recommendation Content Ads

รูปแบบ Native Advertising อันนี้จะใช้วิธีการนำเสนอด้วยการแนะนำเว็บไซต์ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังเปิดดูอยู่

4.   Promoted Listings Ads

รูปแบบโฆษณา Native Advertising ประเภทนี้จะใช้วิธีการนำเสนอในรูปแบบลิสต์รายการ นำเสนอควบคู่ไปกับเนื้อหาอื่น ๆ

5.   In-Ads

รูปแบบโฆษณา Native Advertising ประเภทนี้จะสอดแทรกอยู่ในเนื้อหาของเว็บฯ เล่าเป็น Storytelling ควบคู่กับเนื้อหาอื่น ๆ อย่างแนบเนียน

6.   Custom Ads

รูปแบบโฆษณา Native Advertising ประเภทนี้จะเน้นการสร้างสรรค์เนื้อหาในแบบที่นักการตลาดคิดว่าตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่สุด จะออกแบบให้อยู่ในลักษณะใดก็ได้เพื่อสร้างความสนใจ โดยจะไม่เหมือนเนื้อหาใด ๆ บนเว็บไซต์

 

ทำอย่างไรให้ Native Advertising ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด?

สำหรับ Native Advertising หากทำออกมาได้ดี บางทีก็อาจจะเนียนจนผู้รับสารไม่รู้ว่าตนเองกำลังเสพโฆษณาอยู่ เราจึงขอรวบรวมกลยุทธ์หมัดเด็ดที่จะช่วยให้การทำ Native Advertising ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!

1.   ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง

อยากทำการตลาดให้ปัง ต้องเริ่มจากการรู้ว่าเราทำให้ใครดูก่อน! ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มทำ Native Advertising ก็ควรจะสำรวจก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คือใคร พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร มีความสนใจเรื่องอะไร มีปัญหาในส่วนไหน อะไรที่จะทำให้พวกเขาพึงพอใจมากที่สุด เพราะเมื่อเราศึกษาจนรู้ข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ก็จะสามารถนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์และวางแผนเพื่อสร้างโฆษณา Native Advertising ที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าอย่างแนบเนียนที่สุดได้

2.   เลือกช่องทางลงโฆษณาที่เหมาะสม

ช่องทางลงโฆษณาก็สำคัญเช่นกัน! โดยการจะเลือกแพลตฟอร์ม ไม่ควรดูแค่ว่าแพลตฟอร์มนั้นมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก หรือมีผู้ติดตามเยอะเท่านั้น แต่ควรดูความเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ด้วย เพื่อให้การลงโฆษณาเป็นไปอย่างสอดคล้อง กลมกลืน และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

3.   นำเสนออย่างแนบเนียน

และที่ขาดไม่ได้คือ รูปแบบการนำเสนอที่ต้องแนบเนียนที่สุด ความเป็นธรรมชาติถือเป็นหัวใจหลักของ Native Advertising เลยก็ว่าได้ ดังนั้น จึงควรคิดคอนเทนต์โดยเน้นการให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านก่อนเป็นอันดับหนึ่ง จากนั้นจึงค่อย ๆ สอดแทรกเนื้อหาสินค้าหรือบริการโดยไม่เทไปพูดเรื่องธุรกิจจนเกินไป อาจใช้ทักษะด้านภาษาหรือความคิดสร้างสรรค์มาช่วย ก็จะทำให้คอนเทนต์ดูน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

4.   ซื่อสัตย์กับผู้บริโภค

ถึงแม้ Native Advertising จะเป็นการสร้างสรรค์โฆษณาให้ดูแนบเนียนที่สุด อย่างไรก็ดี แบรนด์ก็ควรซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณกับผู้บริโภคเช่นกัน กล่าวคือ หากจำเป็นต้องชี้แจงหรือแปะป้ายลักษณะของโฆษณา ก็ควรเปิดเผยอย่างชัดเจนตามนโยบายของช่องทางลงโฆษณาที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นคำว่า “Sponsored By” “Promoted By” เป็นต้น เพราะหากลูกค้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ก็จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง

native ads


สรุป

เห็นได้เลยว่า Native Advertising คือรูปแบบโฆษณาที่ลูกค้ามักตั้งใจกดเข้าไปอ่านโดยตรง จึงทำให้อัตราคลิกและยอดการมีส่วนร่วมมีแนวโน้มจะสูงกว่าการทำโฆษณารูปแบบอื่น ๆ พร้อมกันนั้น Native Advertising ยังคิดค่าใช้จ่ายตามอัตราการคลิก จึงช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนดงบประมาณในการทำโฆษณาได้ ที่สำคัญนักการตลาดยังสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าจากพฤติกรรมการมีส่วนร่วมกับโฆษณา เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดกับกลยุทธ์การตลาดชิ้นต่อ ๆ ไปได้อีกด้วย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำ Native Advertising แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้โฆษณาดูมีศิลปะและเป็นธรรมชาติมากที่สุด สามารถปรึกษา Primal Digital Agency ของเราได้เลย เราคือบริษัทรับทำ SEO ชั้นนำและยังมีบริการรับทำคอนเทนต์แลรับยิงแอดหรือโฆษณารูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ เรายังมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางการตลาดโดยตรงกว่า 150 คน หากสนใจสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อปรึกษาเราได้เลย ตอนนี้!