e-Marketing คืออะไร และมีเครื่องมืออะไรบ้าง

e-Marketing คือ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้สองทาง ระหว่างนักการตลาดและกลุ่มเป้าหมาย โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง 

เราปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้โลกออนไลน์แทบจะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมทางการตลาดหลักของนักการตลาดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล เว็บบอร์ด และสื่อโฆษณาอื่น ๆ เหตุผลก็คือ สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง และสามารถวัดผลทางการตลาดได้แม่นยำ ทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินการ สำหรับนักการตลาด หรือเจ้าของธุรกิจที่สนใจ e-Marketing อยากรู้ว่าคืออะไร และอยากรู้ว่าจะนำวิธีไหนมาปรับใช้กับธุรกิจของเรา ต้องอ่านบทความนี้เลย

e-Marketing คืออะไร

e-Marketing คืออะไร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า e-Marketing คือ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และมีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวเชื่อม แต่นอกเหนือจากคำจำกัดความนี้ การทำการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Marketing คือการทำการตลาดที่มีลักษณะที่แตกต่างจากการทำการตลาดแบบดั้งเดิมดังต่อไปนี้ 

  • เป็นการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือสามารถเจาะเฉพาะกลุ่มที่มีความสนใจในสินค้า หรือกิจกรรมบางอย่างได้ ตัวอย่างเช่น การยิงโฆษณาหากลุ่มที่มีความสนใจในกิจกรรม Outdoor เพื่อขายเสื้อผ้ากีฬาที่ดีไซน์สวย ใส่ออกกำลังกายได้ ใส่เที่ยวได้ 
  • เป็นการสื่อสารแบบสองทาง หนึ่งในหัวใจของ e-Marketing คือการสื่อสารแบบสองทาง โดยผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพูดคุยกันได้ทันที ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้ผู้ซื้อสามารถสอบถามข้อมูล หรือให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้สะดวกและรวดเร็ว 
  • สามารถสื่อสารได้แบบตัวต่อตัว (One to One Marketing) หรือปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ จึงอาจจะกล่าวได้ว่า e-Marketing คือ การตลาดแบบ Personalize ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง 
  • วัดผลได้แม่นยำและรวดเร็ว ในขณะที่การตลาดแบบดั้งเดิม เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหากว่าเราซื้อโฆษณาบนรถประจำทาง จะมีคนเห็นกี่คน และในจำนวนคนเหล่านั้นซื้อสินค้าเราเท่าไร แต่หากว่าเราโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เราสามารถติดตามได้ว่ามีคนเห็นโฆษณาของเราเท่าไร และเปลี่ยนเป็นยอดซื้อสินค้าเท่าไร ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่า เราจะหยุดหรือไปต่อกับแคมเปญโฆษณานี้นั่นเอง 
  • เปิดขายและทำกิจกรรมได้ 24 ชม. สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วโลก 

เครื่องมือของ e-Marketing มีอะไรบ้าง

เครื่องมือของ e-Marketing มีอะไรบ้าง

สำหรับการทำ e-Marketing มีเครื่องมือที่ใช้อยู่จำนวนมาก ซึ่ง e-Marketing ที่ใช้ในธุรกิจ สามารถแบ่งออกได้เป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ดังต่อไปนี้ 

  • เว็บไซต์

ถ้าพูดถึง e-Marketing เครื่องมือแรกที่ทุกคนคงนึกถึงคือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์ของเจ้าของแบรนด์ และเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งสามารถแยกย่อยไปตามประเภทต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว เว็บไซต์ข้อมูล เว็บไซต์ธุรกิจ เว็บไซต์การศึกษา เว็บบอร์ด นอกจากนี้การทำ SEO (Search Engine Optimization) ก็เป็นการทำ e-Marketing ที่ช่วยให้ลูกค้าของเราหาแบรนด์ของเราเจอได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

  • โซเชียลมีเดีย 

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการทำตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วคนไทย 1 คน ใช้โซเชียลมีเดียราว 7.6 แพลตฟอร์ม ซึ่งแพลตฟอร์มที่แม้จะแผ่วลงมาบ้างแต่ยังครองอันดับ 1 อยู่ก็คือ facebook ส่วนแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงก็คือ TikTok นั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่าง youtube, instagram, twitter, pinterest และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้ตามกลุ่มเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของเรา 

  • Email Marketing

แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าการทำ Email Marketing ค่อนข้างยุ่งยาก หรือว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่หลายแบรนด์ก็ยังพบว่าการทำ Email Marketing ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอยู่ เพราะเป็นเครื่องมือที่สามารถทำการตลาดแบบเจาะจงได้ โดยแยกการส่งตามกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจและความชอบที่แตกต่างกัน ทำให้ลูกค้าได้รับข่าวสารหรือโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการ ที่สำคัญราคาถูก และสามารถวัดผลทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

  • Influencer 

การใช้ Influencer เป็นการตลาดที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน โดยให้ Influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นผู้รีวิวสินค้าและบริการจากแบรนด์ เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกทางหนึ่ง ที่สำคัญแบรนด์ยังสามารถเลือก Influencer ที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้อีกด้วย 

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเครื่องมือของ e-Marketing ที่ใช้กันอีกมากมาย ข้างต้นจึงเป็นตัวอย่างของเครื่องมือยอดนิยมที่เรานำมาฝากกัน 

ประโยชน์ของการทำ e-Marketing คืออะไร

ปัจจุบันการทำ e-Marketing แทบจะเรียกได้ว่าคือ การทำการตลาดกระแสหลัก หลายแบรนด์ได้ปรับเปลี่ยนการใช้งบการตลาดในการตลาดแบบดั้งเดิมมาเป็นแบบ e-Marketing มากขึ้น โดยข้อดีหรือประโยชน์ของ e-Marketing มีดังต่อไปนี้

  • ช่วยเพิ่มยอดขาย และสามารถกระจายสินค้าไปยังกลุ่มที่มีความสนใจ แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เช่น ต่างประเทศ 
  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สามารถเลือกแคมเปญหรือเครื่องมือที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพได้ ไม่ต้องหว่านแหอีกต่อไป 
  • สื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง ช่วยให้ทราบความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ง่ายกว่า
  • สามารถแยกกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน สามารถวางแผนทางการตลาดเฉพาะกลุ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายได้ง่าย

e-Marketing คือคำตอบของนักการตลาดในโลกในยุคปัจจุบัน ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ผ่านการวัดผลและปรับใช้เครื่องมือทางการตลาดที่มีหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ