Affiliate Marketing คืออะไร? เทคนิคทำธุรกิจแบบใหม่ที่ควรรู้

ด้วยกระแสของตลาด E-commerce ที่มาแรงขึ้นทุกวัน เพราะผู้คนหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าหรือบริการกันเป็นส่วนมาก นักการตลาดจึงคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มยอดขายในหลากหลายวิธีมากขึ้น คนทำธุรกิจออนไลน์บางคนคงจะเคยได้ยินการทำ “Affiliate Marketing” กันมาบ้าง แต่อาจยังไม่รู้ว่า Affiliate Marketing คืออะไรกันแน่ ดังนั้น บทความนี้จะอธิบายถึงความหมาย ประโยชน์ และวิธีการนำไปปรับใช้กับแบรนด์ให้เห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

Affiliate Marketing ทำยังไง

Affiliate Marketing คืออะไร?

Affiliate Marketing หมายถึง หนึ่งในรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ที่อาศัยตัวแทนหรือนายหน้าในการโฆษณาสินค้าหรือบริการ ซึ่งตัวแทนดังกล่าวมักนิยมใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) มาช่วยโปรโมตแบรนด์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใส่ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าหรือบริการบนหน้าเว็บไซต์และแนบลิงก์เว็บไซต์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาเลือกชมสินค้าที่ตนเองสนใจได้ ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์จะมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางในการนำเสนอเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้าเอง สต็อกของเอง หรือจัดส่งสินค้าด้วยตนเองแต่อย่างใด และหากมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ ตัวแทนเหล่านั้นจะได้ส่วนแบ่งหรือที่เรียกว่า “ค่าคอมมิชชัน” จากการช่วยโฆษณาด้วย ดังนั้น ยิ่งตัวแทนสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าให้แก่แบรนด์ได้มากเท่าไร ตัวแทนก็จะยิ่งได้ค่าตอบแทนสูงเท่านั้น 

เรียกได้ว่า Affiliate Program คือกลยุทธ์ยอดนิยมที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ทางออนไลน์อันเป็นประโยชน์ต่อทั้งแบรนด์และตัวแทนช่วยขาย รวมถึงเป็นการผลักดันกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ของ Big Commerce เกี่ยวกับผลลัพธ์จากการทำ Affiliate Marketing ยังระบุว่า

  • สถิติจาก eMarketer เผยว่า อัตราการเติบโตของการทำ Affiliate Marketing เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเจ้าของแบรนด์ 81% และตัวแทนช่วยขาย  84% ได้ประโยชน์จากการทำ Affiliate Program
  • การทำ Affiliate Marketing เพิ่มขึ้น 10.1% ในสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มจะสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้นอีกเรื่อย ๆ
  • ในปี 2018 งบประมาณในการสร้าง Content Marketing มีเพิ่มขึ้นถึง 62% และหากเทียบกับการทำการตลาดแบบเดิมแล้ว การทำ Content Marketing นั้นมีแนวโน้มในการหาลูกค้าได้สูงกว่าถึงสามเท่า
  • ในปี 2017 Amazon ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยเสนอข้อตกลงในการจ่ายส่วนแบ่ง 1-10% จากสินค้าที่ขายได้บนเว็บไซต์

 

Affiliate Marketing ทำอย่างไร?

โมเดลของ Affiliate Marketing จะประกอบไปด้วยผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

  • ผู้ที่ต้องการโฆษณาสินค้าหรือบริการ (Advertiser)
  • เจ้าของสื่อ เจ้าของช่องทาง เจ้าของเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรืออินฟลูเอนเซอร์ (Publisher)
  • ผู้ซื้อสินค้า (Customer)

จะเห็นได้ว่า การทำการตลาดด้วยวิธี Affiliate Program คือการสร้างโอกาสให้แก่ทั้งผู้ประกอบการและผู้ที่เป็นตัวกลางในการโฆษณาสินค้า โดยการทำ Affiliate นั้นมีวิธีที่สามารถทำได้ไม่ยาก ดังนี้

1. เจาะกลุ่มเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย

หนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย หรือ Conversion Rate จากการทำ Affiliate Marketing คือ การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะสนใจแบรนด์ของเราและมีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคตผ่านการยิงโฆษณา ซึ่งการยิงโฆษณานั้นจะมีวิธีการจัดสรรงบประมาณ การเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง และการกำหนดระยะเวลาที่ต้องการทำโฆษณา

2. เลือกบุคคลที่กลุ่มเป้าหมายไว้วางใจเพื่อเป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้า

การทำ Affiliate Marketing โดยการเลือกบุคคลที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบ หรือมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มาช่วยโปรโมตแบรนด์ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นให้ความเชื่อถือและมาซื้อสินค้าตามที่อินฟลูเอนเซอร์หรือบล็อกเกอร์แนะนำ ทำให้สามารถเพิ่มยอด Conversion Rate ให้แก่ทางแบรนด์มากขึ้น โดยคุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมจะเป็นตัวแทนโฆษณา มีดังนี้

  • ต้องมีการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่ดีระหว่างกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการตอบคำถาม ความสม่ำเสมอ หรือการใส่ใจรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ
  • ผู้ประกอบการและตัวแทนมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวก มีความไว้วางใจต่อกัน สามารถร่วมงานกันได้อย่างราบรื่นเพื่อให้ธุรกิจก้าวไปได้ไกลยิ่งขึ้น
  • มีความชอบในตัวสินค้าและบริการของทางแบรนด์ กล่าวคือ การจะเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าที่ดีและเป็นธรรมชาติได้นั้น บุคคลที่เป็นตัวแทนต้องมีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ด้วย

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการทำ Affiliate คือ การตกลงค่าส่วนแบ่งระหว่างผู้ประกอบการกับตัวแทนโฆษณาจะต้องเป็นเรตที่ยอมรับจากทั้งสองฝ่าย อีกทั้งบุคคลที่เป็นตัวแทนต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนจากทางแบรนด์ เพื่อให้เกิดความไว้ใจและความจริงใจต่อกันในการทำงานร่วมกันให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด

3. สนับสนุนคอนเทนต์ที่มีประโยชน์

นอกจาก Affiliate Marketing หมายถึงการเพิ่มยอดขายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากคอนเทนต์ของแบรนด์อีกด้วย เพราะถ้าหากแบรนด์สร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้แล้วนั้น ก็จะสามารถคงอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว ดังนั้น การเขียนคอนเทนต์ขายสินค้า เราควรจะมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้อ่านด้วยการไม่ยัดเยียดนำเสนอสินค้าและบริการของตัวเองจนเกินไป และที่สำคัญ หากผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีบนเว็บไซต์ของเราแล้ว ก็จะเกิดการบอกต่อและทำให้มีโอกาสเพิ่มจำนวนคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ (Traffic) ของเราอีกด้วย

นอกจากนี้ อย่าลืมว่าการทำ SEO ก็สำคัญเช่นกัน กล่าวคือ ในการเขียนคอนเทนต์ต้องเลือกคีย์เวิร์ดสำคัญในการโปรโมตสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของตลาด เพราะการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ บนหน้าค้นหาหน้าแรกของ Google เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะมีคนกดเข้ามาที่เว็บฯ ของเรามากยิ่งขึ้น และมีโอกาสที่จะทำให้ Conversion rate เพิ่มสูงขึ้นด้วย

4. ทำ Backlink

Backlink คือ การที่เว็บไซต์อื่นลิงก์กลับมาหาเว็บไซต์ของเรา โดยเมื่อลูกค้ากดเข้าไปที่ลิงก์เหล่านั้น จะสามารถเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บฯ ของเราได้ ซึ่ง Google Bot จะมองว่าเว็บไซต์ที่มี Backlink นั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะการทำ Backlink เปรียบเสมือนการที่มีคนพูดถึงหรือแนะนำแบรนด์ของเราบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และเชื่อได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ Google จะจัดอันดับให้เว็บไซต์เหล่านั้นอยู่บนลำดับแรก ๆ ของหน้าการค้นหา

5. มอบข้อเสนอที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้า

อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญของการทำ Affiliate คือการมอบข้อเสนอหรือโปรโมรชันต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้า เช่น โปรโมชันส่วนลดพิเศษ การมอบของขวัญให้เมื่อซื้อครบราคาที่กำหนด การมอบโค้ดส่วนลดหรือรับเงินคืนในช่วงเวลาที่กำหนด โดยการทำเช่นนี้จะสามารถช่วยเพิ่มยอดคลิกให้สูงขึ้น อันเป็นโอกาสที่ดีที่แบรนด์จะเพิ่มยอดขายได้

 

สรุป

ดังนั้น Affiliate Marketing คือการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการ และเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ ทั้งตัวแทนที่ช่วยโฆษณาและตัวผู้ประกอบการเอง ซึ่งการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์เช่นนี้จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แล้วยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าหมาย เพราะมีอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มาช่วยโปรโมตให้ แต่สิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้ามก็คือ การทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพและใช้เทคนิค SEO ในการพัฒนาเว็บไซต์และแบรนด์ของตนเองให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ