NFT Art ขายที่ไหน รู้จัก 3 แพลตฟอร์มซื้อ-ขายงานศิลปะดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลอย่างปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของชีวิตเรา หลายสิ่งหลายอย่างล้วนถูกแปลงให้ไปอยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่วงการศิลปะก็ตาม ซึ่งหลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘NFT Art’ หรือผลงานศิลปะออนไลน์ที่สามารถซื้อ-ขายกันผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่า NFT Art ขายที่ไหน หรือขายยังไง วันนี้เราจะพาไปดู 3 แพลตฟอร์มยอดนิยมที่จำหน่ายผลงานศิลปะเหล่านี้กัน

NFT Art ขายที่ไหน เว็บไซต์ยอดนิยมมีอะไรบ้าง

1. OpenSea

OpenSea เป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงมากทั้งในไทยและต่างประเทศ เพราะเป็น NFT Art Marketplace ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกได้สร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลของตนเองลงบนแพลตฟอร์มได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งยังมีการกระจายอำนาจแบบ Peer-to-Peer ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมระหว่างกันโดยตรงแบบไม่ต้องพึ่งตัวกลาง และด้วยสินค้าที่มีมากกว่า 4 ล้านรายการบนเว็บไซต์ ทำให้ OpenSea ถือเป็นตลาดซื้อ-ขายสินค้าดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยทีเดียว 

จุดเด่นของ OpenSea

  • มี NFT หลากหลายหมวดหมู่ให้เลือกสรร ไม่ใช่แค่งานศิลปะที่ทุกคนเข้าใจว่าต้องเป็นภาพวาดเท่านั้น แต่ยังมีของสะสม ภาพถ่าย ฯลฯ หรือแม้กระทั่งมีมยอดฮิตบนโลกโซเชียลก็ถูกนำมาขายด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า OpenSea เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมประเภทของ NFT ไว้อย่างครบครัน
  • ค่าธรรมเนียมต่ำและคุ้มค่า โดยทางเว็บไซต์จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขายแต่ละครั้งอยู่ที่ 2.5% เท่านั้น และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์มแต่อย่างใด นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไม OpenSea ถึงได้รับความนิยมมาก
  • ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เนื่องจากตัวเว็บไซต์นั้นทำงานผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้ธุรกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มนั้นยากที่จะย้อนกลับ แก้ไขดัดแปลง หรือทำลายทิ้ง ผู้ใช้งานจึงสามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน

 

2. Nifty Gateway

Nifty Gateway ถือเป็นอีกหนึ่ง NFT Art Marketplace ชั้นนำของโลก ซึ่งจะเปิดให้เฉพาะผู้ซื้อและผู้ขาย NFT ที่ได้รับเชิญเท่านั้น ทำให้สินค้าในเว็บไซต์นี้ล้วนเป็นผลงานจากศิลปินที่มีชื่อเสียงและมีความเป็นเอกลักษณ์สูง และยิ่งเพิ่มความน่าตื่นเต้นของการซื้อ-ขายด้วยการตลาดแบบไม่เหมือนใคร คือการปล่อยสินค้าคอลเลกชันใหม่ลงเว็บฯ ทุก ๆ 3 สัปดาห์ ดังนั้น ใครที่รอซื้อผลงานจากแพลตฟอร์มนี้ ถ้าไม่อยากพลาดผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จะต้องเช็กเวลาให้ดีด้วยนะ!

จุดเด่นของ Nify Gateway

  • เป็นตลาดที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ สินค้าของ Nifty Gateway นั้นมีน้อยเมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น แต่ก็เป็นผลงานที่ใคร ๆ ต่างรอคอยวันเปิดขาย เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมผลงานหายากจากเหล่าศิลปินที่โด่งดังนั่นเอง
  • สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการซื้อขาย NFT ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง

 

3. SuperRare

SuperRare แพลตฟอร์มที่รวบรวมงานศิลปะดิจิทัลมูลค่าราว 90 ล้านดอลลาร์ (3.1 พันล้านบาท) ถึงแม้ว่าขณะนี้ ตัวเว็บไซต์ยังถือเป็นน้องใหม่ของวงการ NFT Art Marketplace และยังมีผลงานจากศิลปินจำนวนไม่มากนัก แต่ SuperRare ก็ตีตื้นขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายชั้นนำได้อย่างง่ายดาย เพราะเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกส่งโพรไฟล์งานศิลปะของตนเองเข้ามาให้เว็บไซต์พิจารณาสม่ำเสมอ และยังมีนโยบายว่าศิลปินควรได้รับการสนับสนุนอย่างถึงที่สุด จึงมีส่วนแบ่งกำไรให้แก่ศิลปินในอัตราที่สูงมากทีเดียว

จุดเด่นของ SuperRare

  • ศิลปินจะได้รับกำไรมากถึง 85%  หรือหากผู้ซื้อนำผลงานนั้นไปขายต่อ เจ้าของผลงานเดิมจะได้รับส่วนแบ่งกำไร 10% ด้วย ซึ่งหาได้ยากในวงการ NFT ดังนั้น หากใครต้องการสนับสนุนศิลปิน การซื้อ-ขายผ่าน SuperRare ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
  • เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของนักสะสม การทำรายได้บน SuperRare ไม่ได้มาจากแค่การเป็นเจ้าของผลงานและนำผลงานนั้นไปขายต่อเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่ทางแพลตฟอร์มยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถรับบทเป็น ‘Curator’ เพื่อ curate ผลงานศิลปะที่ตนเองสนใจ โดยจะได้รับส่วนแบ่งถึง 15% หากผลงานนั้นขายได้อีกด้วย

 

หากถามว่าจะซื้อ-ขาย NFT Art เว็บไหนดี คำตอบขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังมองหาผลงานศิลปะแบบใด เพราะแต่ละเว็บไซต์มีเอกลักษณ์ของชิ้นงานที่แตกต่างกัน บางคนอาจต้องการเลือกสรรสินค้าที่มีหมวดหมู่หลากหลาย บางคนอาจต้องการงานศิลปะหายากจากศิลปินชื่อดัง หรือบางคนอาจอยากมีส่วนร่วมทำกำไรในผลงานต่าง ๆ ฉะนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า NFT Art เว็บไหนดี ก็คืออยู่ที่เราต้องการและให้ความสำคัญกับอะไรนั่นเอง