Google Trends คืออะไร ทำธุรกิจออนไลน์ไม่ควรพลาด เครื่องมือฟรีที่จะช่วยให้คุณหาไอเดียต่อยอดธุรกิจ

Google Trends คือเครื่องมือจากทาง Google ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถค้นหาข้อมูลแนวโน้มความสนใจของคนทั่วโลกที่ทำการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆ ผ่าน Google โดยเราสืบค้นข้อมูลตามเรื่องราวที่ต้องการได้ด้วยการพิมพ์คีย์เวิร์ดหรือหัวข้อที่สนใจลงไป ระบบจะทำการแสดงข้อมูลต่างๆ ให้คุณได้ใช้สำหรับวิเคราะห์และนำไปต่อยอดต่อไปได้

เครื่องมือที่ใช้สำหรับศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล

หลายคนที่ทำการตลาดออนไลน์อาจพอจะรู้จักแล้วว่า Google Trends คืออะไร แต่มีไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า Google Trends อ่านค่าอย่างไร จริงๆ แล้ว Google Trends ถูกออกแบบมาสำหรับให้เราใช้ในการค้นหาความสนใจของคนบนโลกออนไลน์ ที่ได้มีการค้นหาข้อมูลต่างๆ บน Google ซึ่งมีคลังข้อมูลมหาศาลเก็บเอาไว้ 

โดยข้อมูลที่จะสามารถสืบค้นผ่าน Google Trends ได้นั้นคือตัวเลขสถิติต่างๆ ที่จะถูกแสดงผ่านตัวกรองซึ่งจะเป็นคำค้นหาหรือหัวข้อที่เรากรอกลงไป ตัวอย่างเช่นคุณทำธุรกิจ “อาหารคลีน” “อาหารเพื่อสุขภาพ” คุณก็สามารถนำคีย์เวิร์ดเหล่านี้เข้าไปค้นหา จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีระบบก็จะแสดงค่าข้อมูลที่สามารถอ่านได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ประเทศที่เราต้องการสืบค้น ระยะเวลาประวัติข้อมูลย้อนหลัง หมวดหมู่ความสนใจ และประเภทของการค้นหาซึ่งมีทั้งหมด 5 ประเภท

  1. ค้นหาผ่านเว็บ (Web Search)
  2. ค้นหาด้วยภาพ (Image Search)
  3. ค้นหาข่าวสาร (News Search)
  4. Google Shopping
  5. ค้นหาผ่านยูทูบ (YouTube)

นอกจากนี้ยังกำหนดแตกย่อยลงไปเป็นระดับจังหวัดเพื่อข้อมูลที่แคบลง รวมถึงดูข้อมูลหัวข้อที่เกี่ยวข้อง (Related Topics) และคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Related Queries) และสามารถเปรียบเทียบข้อมูลที่คุณต้องการวิเคราะห์ได้อีกด้วย 

ยิ่งพลิกแพลง ยิ่งมีประโยชน์

ด้วยความที่ Google Trends คือเครื่องมือฟรีที่ใครๆ ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้ แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็จะเห็นข้อมูลแบบเดียวกันกับเราหากเขาใช้คำค้นหาหรือหัวข้อเดียวกัน ดังนั้นหากคุณอยากที่จะนำข้อมูลที่ได้มาไปวิเคราะห์ต่อยอดให้กับธุรกิจของตัวเองล่ะก็ อาจจะต้องรู้จักพลิกแพลงข้อมูลเหล่านั้นไปใช้กับแคมเปญการตลาดต่างๆ อาทิ การทำ SEO, SEM ใช้สำหรับวางแผนทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ใช้วางแผนการตลาด แผนธุรกิจ ไปจนถึงหาไอเดียสินค้ากระแสหรือสินค้าที่เชื่อได้ว่ากำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าของคุณ

ตัวอย่าง: ธุรกิจ ขายอาหารสุขภาพ (อาหารคลีน)

หลังจากที่คุณใส่คำว่า “อาหารคลีน” ลงในช่อง Search Term เลื่อนลงมาคุณก็จะเห็นข้อมูลต่างๆ ทั้งปริมาณความสนใจในแต่ละช่วงเวลา จังหวัดไหนที่สนใจเรื่องนี้มากที่สุด และด้านล่างฝั่งขวาคือคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง คุณก็สามารถนำคำเหล่านี้ไปใช้เป็นคีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO หรือ SEM ได้เพราะเป็นคำที่ใกล้เคียงและมีแนวโน้มว่าคนที่สนใจในอาหารคลีน จะค้นหาด้วยคำเหล่านี้

หรือถ้าคุณกำลังมองหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อที่จะออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าลองมาดูทางฝั่งซ้ายมือคือหัวข้อที่เกี่ยวข้อง คุณอาจจะลองคลิกเข้าไปสัก 1 หัวข้อเช่น Banana Cake เมื่อเข้าไปแล้วเลื่อนลงไปด้านล่างคุณก็จะเจอกับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น เค้กกล้วยหอมคีโต, เค้กกล้วยหอมหม้อทอดไร้น้ำมัน ฯลฯ ตรงนี้คุณอาจจะนำไปทำเป็นเมนูใหม่ของทางร้าน หรือจะเก็บไว้เป็นไอเดียคอนเทนต์แจกสูตรฟรี เพื่อเพิ่ม Brand Awareness ได้ เพราะหัวข้อนี้กำลังเป็นที่สนใจนั่นเอง

นี่เป็นเพียงไอเดียคร่าวๆ ในการนำข้อมูลที่แสดงมาต่อยอดทางธุรกิจซึ่งไม่ได้มีกฎตายตัว

Google Trends ใช้อย่างไร

ก่อนจะเริ่มเข้าใช้งาน Google Trends สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือคีย์เวิร์ดที่จะใช้ค้นหา (ทำธุรกิจอะไร ขายสินค้าอะไร หรือต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอะไร) รวมถึงวัตถุประสงค์ในการค้นหาเช่น วางแผนการตลาด หาไอเดียคอนเทนต์ หาไอเดียสินค้า ฯลฯ เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มได้เลย

  1. เข้าเว็บไซต์ trends.google.com
  2. พิมพ์คำค้นหาที่ต้องการลงบนช่อง Search Term (ใส่ทีละ 1 คำ)
  3. อ่านค่าข้อมูลได้ตามต้องการ
  4. หากต้องการเปรียบเทียบคีย์เวิร์ด ให้พิมพ์คำอื่นๆ ลงในช่อง Compare

ในการทำการตลาดออนไลน์ในทุกรูปแบบนั้น “ข้อมูล” ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะในปัจจุบันเป็นยุคที่ทุกๆ อย่างถูกขับเคลื่อนผ่านข้อมูล ดังนั้นการที่เรารู้แบบเจาะลึกมากเท่าไรก็จะทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งมากขึ้นเท่านั้น แต่จะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากคุณรู้จักการนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาต่อยอด เพราะนอกจากจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่ซ้ำใครแล้ว ยังจะทำให้คุณสื่อสารไปยังลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นกว่าเดิมได้ด้วย