ทำ SEO จำเป็นไหมและทำไมต้องทำ SEO? มาหาคำตอบกัน

จากผลสำรวจของ Hubspot พบว่าอัตราการทำ SEO ในแวดวงการตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2021 เติบโตสูงขึ้นถึง 69% เพิ่มขึ้นจากเดิม 5% ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว โดยจากผลสำรวจเดียวกันยังพบอีกว่า 75% ของนักการตลาดรู้สึกว่าการทำ SEO ช่วยให้เป้าหมายทางธุรกิจสำเร็จได้ง่ายขึ้นด้วย!

วันนี้ เราจึงอยากจะมาตอบคำถามที่หลายคนอาจสงสัย ว่าการทำ SEO นั้นคุ้มไหมและทำไมต้องทำ SEO ถ้าอยากให้ธุรกิจโตในยุคนี้!

 

SEO คืออะไร?

SEO หรือ Search Engine Optimisation คือกระบวนการที่จัดทำขึ้น เพื่อดันให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกในระบบ Search Engine โดยกระบวนการทุกอย่างจะเป็นแบบออร์แกนิก (Organic) กล่าวคือจะไม่มีการจ่ายเงินซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลบน Google แต่อย่างใด ยิ่งตำแหน่งแสดงผลในเว็บฯ สูงเท่าไร ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น ทำให้มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายและช่วยให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวได้มากขึ้นด้วย

>> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO คืออะไร

ทำ seo คุ้มไหม ทำไมต้องทำ seo

ทำ SEO คุ้มไหม ทำไมต้องทำ SEO

สำหรับคำถามที่ว่า การทำ SEO คุ้มไหม และจำเป็นต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหน? 

ขอยืนยันว่า “คุ้ม” เพราะการทำ SEO เป็นการลงทุนที่เห็นผลในระยะยาว และจำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดย SEO จะช่วยต่อยอดธุรกิจคุณให้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้

1. SEO เพิ่มโอกาสลูกค้าเข้าถึงเว็บไซต์ นำไปสู่ยอดขาย

ปัจจุบันนี้ ประชาชนจากทั่วโลกใช้ Google เป็นช่องทางหลักในการค้นหาทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหา สั่งซื้อสินค้า ตรวจสอบคุณภาพ หรือแม้แต่การเช็กรีวิว ดังนั้น การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีที่สุดใน Google จึงถือเป็นการเปิดช่องทางให้กับธุรกิจได้เติบโต เพราะเมื่อลูกค้าเซิร์ชคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่สนใจ แล้วเจอเว็บไซต์ของคุณก่อนคู่แข่ง ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น นำไปสู่โอกาสปิดการขายและการเติบโตทั้งด้านรายได้ในระยะยาว 

2. SEO ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าที่แท้จริง

การทำ SEO จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจริง ๆ ได้ดีขึ้น! โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจท้องถิ่น (Local Business) เพราะจากข้อมูลเชิงสถิติจะพบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริโภคจะเซิร์ชหาข้อมูลสินค้าหรือบริการที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่

ดังนั้น การที่ผู้ใช้เซิร์ชคีย์เวิร์ดแล้วเจอเว็บไซต์ของเราผ่านการทำ SEO จึงสามารถบอกได้ว่า ผู้ใช้เหล่านี้สนใจสินค้าและบริการของเรา ถือเป็นวิธีกรองกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นลูกค้าจริง ๆ ของแบรนด์ได้ดีขึ้น  

3. SEO สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เว็บฯ ติดหน้าแรกใน Google เป็นวิธีสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าได้ดีมากวิธีหนึ่ง โดยผู้บริโภคปัจจุบัน มีพฤติกรรมที่มักหาข้อมูลทุกอย่างก่อนเลือกซื้ออยู่แล้ว ดังนั้น หากธุรกิจสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ มอบข้อมูลสินค้าที่ตอบคำถามลูกค้าอย่างครอบคลุม และดันเว็บฯ ให้ติดหน้าแรกได้ ก็จะช่วยเพิ่มความเชื่อใจ ทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าจากธุรกิจของเรามากขึ้นตามไปด้วย

4. SEO ไม่มีค่าใช้จ่าย

การทำ SEO เป็นกระบวนการออร์แกนิก คือจะไม่มีการซื้อหรือจ่ายเงินโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลบน Google เพียงแค่อาศัยการปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ดังนั้น ธุรกิจจึงไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว เพียงแค่หมั่นปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาออนไลน์ หรือการตลาดช่องทางอื่น ๆ ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากได้

5. ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอื่นได้

SEO ยังเป็นกระบวนการตลาดที่เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตไปยังต่างประเทศ เนื่องจาก Google เป็นช่องทางที่มีคนค้นหาข้อมูลกันทั่วโลก ดังนั้น หากเราปรับปรุงเว็บไซต์ และวางแผนใช้คีย์เวิร์ดที่รองรับภาษาต่าง ๆ ก็จะเพิ่มโอกาสการเจอลูกค้าตัวจริงในประเทศอื่น ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น

 

ทำ SEO อย่างไรได้บ้าง?

เมื่อ SEO เป็นวิธีการตลาดที่คุ้มค่า เราจะสามารถหาวิธีทำ SEO อย่างไรได้บ้าง?

1. จ้างทำ SEO

ข้อดี : การจ้างบริษัทรับทำ SEO ที่มีความเชี่ยวชาญมีข้อดีคือ คุณจะได้งานที่ผ่านการวิเคราะห์ จัดทำและตรวจสอบมาแล้วอย่างดีจากผู้รู้เฉพาะด้าน ทำให้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทส่วนมากมักมีบริการเสริมในด้านอื่น ๆ ทำให้ทั้งประหยัดเวลาและช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกได้ดีขึ้น  

ข้อเสีย: การจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเหมาะกับธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีงบประมาณทางการตลาดออนไลน์มากในระดับหนึ่ง

2. สร้างทีมทำ SEO เป็นของตนเอง

ข้อดี : การสร้างทีม SEO เป็นของตนเองจะช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายและการวางแผนได้ นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดกลยุทธ์ได้อย่างอิสระด้วย

ข้อเสีย : การสร้างทีม SEO เป็นของตนเองอาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าทุกอย่างจะเริ่มลงตัว นอกจากนี้ หากธุรกิจไม่มีประสบการณ์โดยตรงก็จำเป็นต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และผลงานน่าเชื่อถือมาเทรนทีมของตนเองก่อน ซึ่งก็อาจทำให้ต้องใช้เวลาและงบประมาณที่สูงขึ้นอีกด้วย

3. ทำ SEO ด้วยตนเอง!

ข้อดี : ถ้าหากคุณเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ได้มีงบประมาณเหลือเฟือในการจ้างทำ การทำ SEO ด้วยตนเองถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง โดยคุณสามารถเรียนรู้จากคอร์สออนไลน์ หรือใช้เครื่องมือ SEO ที่เปิดทดลองให้ใช้ฟรีทางอินเทอร์เน็ตได้

ข้อเสีย : การทำ SEO ด้วยตนเองอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะแสดงผลลัพธ์! เพราะด้วยกระบวนการทำ SEO เองก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือนเป็นพื้นฐาน บวกกับระยะเวลาการเรียนรู้จึงอาจต้องใช้เวลาที่นานกว่านั้นไปอีก นอกจากนี้ หากระหว่างการทำงานเกิดปัญหาในเว็บไซต์ การคลำหาวิธีแก้เองก็อาจต้องใช้เวลาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ในการทำ SEO ล่าช้าตามไปด้วย

 

สรุป

การทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ต้องอาศัยการวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ การจ้างทำ SEO ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณการันตีผลลัพธ์การที่เว็บไซต์จะติดอันดับได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมานั่งวางแผนหรือแก้ไขอะไรด้วยตนเองอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO ที่มีความเชี่ยวชาญ Primal Digital Agency ของเรายินดีให้คำแนะนำ เรามีทีม SEO Specialist ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญโดยตรง พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพมากกว่า 20+ รางวัล พิสูจน์ผลลัพธ์เว็บไซต์ติดอันดับด้วยการปรึกษาเราเลยตอนนี้!