AI Marketing คืออะไร? รู้จักเทคนิคที่ช่วยต่อยอดการทำการตลาด

จากบทความที่แล้ว เราได้พูดถึงเรื่อง Digital Transformation อันเป็นกลยุทธ์ที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการตลาดไป ดังนั้น บทความนี้เราจึงจะมาเจาะลึกถึง “AI Marketing” หรือการนำ AI เข้ามาช่วยทำธุรกิจนั่นเอง

สำหรับหลาย ๆ คน การนำ AI เข้ามาช่วยทำการตลาดอาจยังดูเป็นเรื่องไกลตัว เพราะกับบางเรื่อง สังคมก็ยังมีแนวคิดที่ว่า AI ไม่สามารถทำงานแทนคนได้ 100% และถึงแม้จะไม่ต้องใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เราก็สามารถโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ หรือแค่จัดแคมเปญดี ๆ อย่างสม่ำเสมอก็สามารถเพิ่มยอดขายได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ AI ยังเป็นการลงทุนมหาศาล ถึงอย่างไรก็ฟังดูไม่น่าคุ้ม?

แต่! จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะอย่างที่รู้กันว่าโลกปัจจุบันนี้ เราได้เข้าสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การจะทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบตามไปด้วยเพื่อให้รองรับกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป และบางทีการใช้แค่บุคลากรที่เป็นมนุษย์อาจไม่เพียงพอ โดยบทความนี้จะมาชี้ให้เห็นถึงแง่มุมต่าง ๆ ในการใช้ AI Marketing ว่าสามารถช่วยธุรกิจของเราได้อย่างไรกันแน่ และที่สำคัญ เรื่องนี้อาจใกล้ตัวเรากว่าที่หลายคนคิด!

การนำ AI มาใช้กับธุรกิจ

AI Marketing คืออะไร?

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเป็นดิจิทัลเช่นนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าชีวิตของตัวเองมีเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การปรับตัวในภาคธุรกิจจึงเริ่มต้นขึ้น เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนไป พฤติกรรมของผู้บริโภคย่อมเปลี่ยนไปด้วย และหนึ่งในเครื่องมือที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็คือ “AI (Artificial Intelligence)” หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ตัวช่วยที่อยู่เบื้องหลังของการเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ

AI Marketing คือ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการทำการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าสมองมนุษย์จะประมวลผลได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพราะผู้คนเริ่มคุ้นชินกับเทคโนโลยีมากขึ้น ประกอบกับต้นทุนการผลิตเทคโนโลยีที่ค่อย ๆ ลดลง และที่สำคัญ การนำ AI มาใช้นั้นก็สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลแผนการตลาดและเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ตัวอย่างการใช้ AI Marketing เข้ามาช่วยในการทำการตลาด ได้แก่ แบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟูดชื่อดังอย่าง Subway ที่จับมือกับ IBM Watson โดยใช้ระบบ AI ที่ชื่อ WeEATHERfx Footfall with Watson และตั้งค่าให้ระบบปรับแต่งการซื้อโฆษณาออนไลน์ตามข้อมูลสภาพอากาศ ข้อมูลยอดขาย และลูกค้าที่เข้าร้านในแต่ละเวลา เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ มีคนเข้าร้านเพิ่มถึง 31% และลดค่าโฆษณาได้ถึง 53% ถือเป็นการเพิ่มทั้งรายได้และลดค่าใช้จ่ายไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว

 

ประโยชน์ของ AI Marketing คืออะไร?

ด้วยอัตราการใช้งานที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมูลค่าตลาดที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เห็นได้ชัดว่า AI Marketing คือตัวช่วยทำการตลาดที่กำลังมาแรงจริง ๆ อีกทั้งยังดูเหมือนว่า ที่หลายคนมักพูดกันว่า “AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์” ก็ดูจะใกล้ความจริงเข้ามาทุกที ทว่าหากมองตามความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีอีกหลายงานที่ AI ไม่สามารถเข้ามาทำแทนมนุษย์ได้ แต่ในขณะเดียวกัน งานบางอย่างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI อาจจะเหมาะสมกว่า เพราะมนุษย์จะได้มีเวลาไปโฟกัสที่งานส่วนอื่น ๆ แทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น 

ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า AI ไม่ได้กำลังจะมาแทนที่บุคลากรที่เป็นมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเป็น “ส่วนเสริม” ต่างหาก เพราะหลัก ๆ แล้ว สิ่งที่ AI ทำคือ การเข้ามาดูแลในส่วนงานที่เน้นไปทางการคำนวณและงานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นงานที่มนุษย์ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยง โดย AI Marketing มีประโยชน์ในการช่วยเราทำการตลาด ดังนี้

ช่วยให้ทำการตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

การตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย หรือที่รู้จักกันในชื่อ Personalized Marketing ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การตลาดที่กำลังมาแรงสุด ๆ เพราะเป็นการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าเป็นรายบุคคล ทำให้ลูกค้าเหล่านั้นได้รับสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากกว่าเดิม และก่อให้เกิดความประทับใจแก่แบรนด์จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่ง AI จะช่วยให้การโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ผลดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการลงโฆษณาในโซเชียลมีเดีย เดาว่าหลายคนน่าจะไม่ได้คิดถึงตรงนี้เลย เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากจนอาจมองข้ามไป แต่ความจริงแล้ว โฆษณาที่เราลงก็มี AI คอยทำงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโพสต์ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับความชอบและมีแนวโน้มว่าจะซื้อมากที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่แบรนด์ได้จริง

มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็ว

ขณะนี้ ตลาดโดยรวมของปัญญาประดิษฐ์มีมูลค่าประมาณ 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (13.7 ล้านล้านบาท) ชี้ให้เห็นว่า AI Marketing คือสิ่งที่นักการตลาดมีความต้องการสูง ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ AI ต้องมีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้คน โดยการพัฒนาที่ว่านี้รวมถึงมุมของการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ ที่ AI ต้องอัปเดตตัวเองตลอดเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย ดังนั้น ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร AI ก็จะยิ่งฉลาดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า AI มีโอกาสที่จะสร้างงานที่ดียิ่งขึ้นได้อีกในอนาคต

สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมงแบบไม่ต้องพัก

แน่นอนว่าข้อนี้คือจุดเด่นของ AI แบบที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเทียบได้อย่างแน่นอน นั่นก็คือการทำงานแบบ 24/7 โดยที่ไม่ต้องพัก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจบริการที่ต้องรองรับลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดย AI สามารถช่วยรับมือกับงานซ้ำ ๆ อย่างการตอบคำถามลูกค้า หรือที่เรียกว่าโปรแกรมแชตบอต (Chatbot) ตลอดจนช่วยตรวจสอบข้อมูลคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจนำกำลังคนไปทำหน้าที่ส่วนอื่น ๆ แทน

สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายตามประเภทของธุรกิจ

AI Marketing คือตัวช่วยที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการขาย หากยังนึกไม่ออก ให้ลองจินตนาการว่าเราจะมีพนักงานขายจำนวนมากที่พร้อมเปลี่ยนรูปแบบการขายทันทีที่เราสั่งการ หรือแม้แต่พร้อมปรับเปลี่ยนโปรโมชันต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของปัจจัยที่เราตั้งค่าไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาซื้อสินค้าให้ได้มากที่สุด หากต้องการพนักงานแบบนี้อยู่ล่ะก็ AI Marketing ก็ถือว่าตอบโจทย์มากทีเดียว

ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ไหนที่มีการใช้เทคโนโลยีล้ำ ๆ มาช่วยในการทำการตลาดนั้นมักจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เสมอ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูมีความทันสมัย อีกทั้ง AI ยังสามารถช่วยเรื่องของการออกแบบหน้าเว็บไซต์ได้อย่างสวยงามได้อีกด้วย เพียงแค่เราใส่ข้อมูลลงไป AI ก็จะนำไปวิเคราะห์และแนะนำการออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้เรา ซึ่งจะช่วยสร้าง Landing Page ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากเข้ามาเลือกชมสินค้าหรือบริการมากกว่าเดิม

ช่วยทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำ SEO (Search Engine Optimization) หรือการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการค้นหานั้นก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของ AI เช่นกัน โดย AI ของ Google จะช่วยคัดกรองเว็บไซต์ที่มีคุณภาพแล้วนำมาจัดอันดับบนหน้าแรกของผลการค้นหาตามความเหมาะสม ซึ่งในส่วนนี้ Google จะมีหลักเกณฑ์บอกอยู่ว่าควรทำคอนเทนต์อย่างไรให้ AI มองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รวมทริคการเขียนบทความ SEO ให้ติดหน้าแรกในการค้นหา

 

สรุป

ดังนั้น จากประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตลาดข้างต้น จะเห็นได้ว่า AI Marketing คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจ และนอกจากที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีด้านอื่น ๆ อีกที่ AI สามารถช่วยยกระดับการตลาดสมัยใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตต่อไปอีกในอนาคตด้วย หากใครยังคิดว่าไม่คุ้มค่า หากอ่านบทความนี้จบ ก็ขอแนะนำให้คิดใหม่อย่างถี่ถ้วนอีกสักรอบ เพราะบางทีปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้อาจช่วยพลิกผันธุรกิจให้ขึ้นไปอยู่จุดที่สูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ได้