สอนวิธีติดตั้ง Google Analytics เวอร์ชันล่าสุด ทำตามได้ไม่ยาก

Google Analytics หรือ GA เป็นตัวช่วยสุดจำเป็นที่คนทำเว็บไซต์ต้องมีติดตั้งเอาไว้ ซึ่งทาง Google ได้มีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่อยู่ตลอด อย่างเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 ที่ผ่านมา เพิ่งมีการประกาศใช้ Google Analytics 4 ที่ปรับปรุงการใช้งานให้ง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น 

ในบทความก่อนหน้านี้ เราได้รู้จักกันไปแล้วว่า Google Analytics 4 (GA4) คือเครื่องมือติดตามและวัดผลผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อให้เจ้าของเว็บนำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนตามจุดประสงค์ที่ต้องการ ทั้งยังได้ลองสร้างบัญชีกันไปเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เรามาลองดูกันว่า วิธีติดตั้ง Google Analytics ด้วยตนเองทำอย่างไร? อ่านจบแล้วทำตามได้เลย!

Google Analytics ติดตั้งอย่างไร

Google Analytics ติดตั้งอย่างไร?

สร้าง Property และ Data Stream

  • ก่อนอื่นให้ล็อกอินเข้าไปที่ analytics.google.com 
  • กรอกข้อมูลเพื่อสร้าง Property และ Data Stream ตามขั้นตอนที่เราได้อธิบายไปแล้วในบทความ “วิธีสร้างบัญชี Google Analytics วัดผลปังกว่าใน 5 ขั้นตอน
  • จากนั้นจึงนำโค้ด HTML หรือ Measurement ID ไปติดตั้งตามวิธีการที่ต้องการ 

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 1

วิธีที่ 1 : วิธีติดตั้ง GA ด้วย Google Site Tag (gtag.js)

วิธีติดตั้ง Google Analytics ด้วย Google Site Tag (gtag.js) นั้นเหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นใหม่ รวมถึงเว็บที่ใช้ Website Builder (ระบบเว็บไซต์พร้อมใช้) หรือ CMS Hosting ในการจัดการ

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 2

คัดลอก Global Site Tag ไปติดตั้งที่ Header

สำหรับใครที่สร้างเว็บไซต์เอง ให้คัดลอกโค้ดจาก Global Site Tag แล้วนำไปวางที่ <head> ของ HTML โดยโค้ดนั้นจะอยู่ในพาร์ท Data Stream > เลือก Stream ที่ต้องการ > Tagging Instructions > Add new on-page tag

คัดลอก Measurement ID แล้วติดตั้งผ่าน CMS

หากเว็บไซต์ของคุณใช้ Website Builder หรือ CMS Hosting เช่น WordPress, Wix, Hubspot หรือ Weebly ให้คุณคัดลอก Measurement ID จากนั้นนำไปติดตั้งในระบบหลังบ้านตามขั้นตอนของแต่ละ CMS (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) ในบทความนี้เราจะขอยกตัวอย่างการติดตั้งบน WordPress.com ซึ่งสามารถใช้งานได้เฉพาะแผน Premium Business และ E-commerce

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 3

  1. คัดลอก Measurement ID ของ Stream ที่ต้องการวัดผล
  2. ไปที่ WordPress > My Sites > Tools > Marketing > Traffic
  3. เลือก Google Analytics
  4. ใส่ Measurement ID ที่คัดลอกมาลงในช่อง Google Analytics Measurement ID
  5. คลิก Save Settings เท่านี้ข้อมูลต่าง ๆ ของเว็บไซต์คุณก็จะเชื่อมต่อกับ Google Analytics แล้ว

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 4

วิธีที่ 2 : วิธีติดตั้ง GA4 ผ่าน Google Tag Manager

Google Tag Manager (GTM) คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่มีไว้จัดการ Tag ต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น 

  • Tracking Code เช่น Google Analytics หรือ Facebook Pixel
  • Trigger หรือเงื่อนไขที่เอาไว้กำหนดการทำงานของ Tag 
  • Variables คือตัวกำหนดคำสั่งเพื่อให้ Trigger ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 5

วิธีติดตั้ง GA โดยใช้ Google Tag Manager มีดังนี้

  1. เพิ่มบัญชี Google Tag Manager โดยล็อกอินด้วยบัญชี Google ที่มีอยู่แล้ว กรอกข้อมูลและกดยอมรับเงื่อนไขการใช้งานให้เรียบร้อย
  2. จากแถบเมนูด้านซ้าย เลือก New Tag > Tag Configuration แล้วกดไอคอนรูปปากกา
  3. จากนั้นเลือกประเภทของ Tag เป็น Google Analytics: GA4 Configuration 
  4. กรอก Measurement ID ลงไป

    วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 6

  5. เลือก Trigger ที่ต้องการ เช่น ถ้าเลือก All Pages หมายความว่า Trigger จะทำงาน (fire) ทุกครั้งที่มีการโหลดหน้าเว็บไซต์ แต่ถ้าเลือก Consent Initialization – All Pages ก็จะมีการสอบถามความยินยอม (Consent) ของผู้ใช้งานก่อนที่ Tag จะทำงานเสมอ
  6. เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว กด Save

วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 7

วิธีตรวจสอบการทำงานของ Google Analytics หลังจากติดตั้ง Tag แล้ว

  1. มาที่หน้า Overview > กด Preview 
  2. กรอก URL เว็บไซต์ลงไปใน Tag Manager Preview Mode โดยอย่าลืมใส่ https:// ด้วย
  3. รอให้ Tag Manager เชื่อมต่อกับเว็บไซต์เพื่อเข้าสู่โหมด Debug 
  4. ตรวจสอบการทำงานของ Tag และ Trigger ให้เรียบร้อย

    วิธีติดตั้ง Google Analytics ขั้นตอนที่ 8

  5. กลับมาที่หน้า Overview > กด Submit
  6. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนแล้วกด Publish เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน Tag บนเว็บไซต์ได้เลย

เริ่มใช้ Google Analytics วัดผลเว็บไซต์และแอปพลิเคชันวันนี้เลย

Google Analytics นั้นควรติดตั้งตั้งแต่ทำเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อย ไม่เช่นนั้นอาจเสียโอกาสในการนำข้อมูลไปใช้ แม้จะอยากเรียกดูย้อนหลังก็ไม่สามารถทำได้แล้ว หากใครที่ทำเว็บไซต์ของตัวเองหรือของธุรกิจ และต้องการประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ อย่าลืมศึกษาเรื่องการวัดผลเว็บไซต์เอาไว้ จะได้นำข้อมูลทุกอย่างมาวางแผนกลยุทธ์ในขั้นตอนต่อไปให้เหมาะสมที่สุด