DuckDuckGo คืออะไร แพลตฟอร์มค้นหาใหม่ที่ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัว

หลังจากการบังคับใช้กฎหมาย PDPA หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้เกิดการตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงสร้างความเปลี่ยนแปลงจนนักการตลาดต้องปรับเปลี่ยนวิธีนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามาใช้เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มอย่าง DuckDuckGo ซึ่งเป็นระบบ Search Engine ที่กำลังตีคู่ Google มาติด ๆ 

DuckDuckGo เป็นแพลตฟอร์ม Search Engine ใหม่ล่าสุดที่มีจุดเด่นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน รวมถึงไม่มีการเก็บประวัติการค้นหาข้อมูล โดยหลังจากเปิดตัวเพียงไม่นาน DuckDuckGo ก็ทุบสถิติจำนวนผู้เข้าใช้ จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกิน 100 ล้านคนต่อวันได้สำเร็จ

ด้วยความนิยมอย่างล้นหลาม วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มนี้ให้มากขึ้น ไปรู้กันหน่อยว่า Duckduckgo คืออะไร และมีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างไร แล้วทำไมถึงมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 100 ล้านคนต่อวัน เรามีคำตอบไว้ให้แล้วในบทความนี้

Duckduckgo คืออะไร

 

ทำความรู้จัก DuckDuckGo 

DuckDuckGo คือหนึ่งในระบบ Search Engine ที่ก่อตั้งโดย Gabriel Weinberg โดยเริ่มเปิดให้ใช้บริการแพลตฟอร์มครั้งแรกในปี 2008 ซึ่งหากดูผิวเผินแล้ว แพลตฟอร์มนี้อาจไม่ได้แตกต่างจากแพลตฟอร์ม Search Engine ตัวอื่น ๆ มากนัก แต่สิ่งที่ทำให้มีความโดดเด่นกว่า Search Engine ตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะ Google ก็คือจุดเด่นในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ทั้งข้อมูลส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลที่พวกเขาทำการค้นหาในแพลตฟอร์มนี้ด้วย 

 

จุดกำเนิดของ DuckDuckGo แพลตฟอร์มที่ทะยานสู่ความนิยมอย่างต่อเนื่อง

DuckDuckGo เป็นแพลตฟอร์ม Search Engine ของบริษัท Duck Duck Go, Inc ที่ตั้งอยู่ ณ รัฐเพนซิลเวอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพนักงานทั้งหมด 124 คนทั่วโลก จากข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม ปี 2022

จริง ๆ แล้ว ที่มาของการสร้าง Search Engine ที่มีจุดเด่นเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนตัว มาจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง Gabriel Weinberg เพราะเขาก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเจอปัญหาค้นข้อมูลในระบบ Search Engine แต่กลับโดนเก็บข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำการยิงโฆษณา ทำให้เขาไม่สามารถหาข้อมูลจริง ๆ ได้สักที ด้วยเหตุนี้ เขาจึงอยากสร้าง DuckDuckGo ขึ้นมาเพื่อให้เป็น Search Engine ที่ไม่มีระบบติดตามข้อมูล ช่วยรักษาทั้งข้อมูลส่วนตัวที่ปลอดภัยและทำให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วที่สุด

Search Engine ที่มีโลโก้เป็นรูปเป็ดใส่โบว์ไทด์สีเขียวนี้ จึงไม่มีการติดตั้งระบบ Track ข้อมูล ไม่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าด้วยคุกกี้ (Cookies) ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องกลัวว่าข้อมูลส่วนตัวจะหลุดรอดไปที่อื่น และที่สำคัญยังทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอการถูกยิงโฆษณาประเภท Re-targeting ที่แพลตฟอร์มส่วนตัว โดยทุกคนสามารถเริ่มใช้งาน DuckDuckGo ผ่านเว็บเบราวเซอร์ต่าง ๆ ทั้ง Chrome, Safari, Firefox ด้วยการพิมพ์ชื่อ duckduckgo.com ในช่องค้นหา จากนั้นก็เริ่มสืบค้นข้อมูลที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ วีดิโอ ข่าวสาร หรือแม้แต่โปรแกรมนำทางที่สร้างขึ้นโดย Apple Maps

 

ความสำเร็จของ DuckDuckGo

DuckDuckGo ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีหลังการเปิดตัวและประสบความสำเร็จสูงสุดจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ที่มีผู้ใช้งานค้นหาถึง 15 ล้านครั้งต่อวัน และเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกันก็สามารถสร้างสถิติการค้นหาไปถึง 20 ล้านครั้งต่อวัน และในที่สุดยอดการค้นหาก็มีมากกว่า 100 ล้านครั้งในหนึ่งวัน ถือเป็นตัวเลขผู้ใช้งานสูงสุดตลอดกาลที่ DuckDuckGo ทำได้ นับตั้งแต่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2008 โดยเป็นรองแค่ Google เท่านั้น

ตัวเลขที่ทะยานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้อาจมีที่มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากกระแสแบน WhatsApp หลังจากที่แอปพลิเคชันนี้ออกนโยบายให้ผู้ใช้งานต้องแชร์ข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการรณรงค์เรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวที่ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น ทำให้ DuckDuckGo ที่เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลมาตั้งแต่แรก ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

DuckDuckGo สร้างรายได้แม้ไม่ได้ขายข้อมูลลูกค้า

เมื่อ Google ยึดครองการตลาดในพื้นที่ออนไลน์ DuckDuckGo จึงหาลู่ทางสร้างรายได้ใหม่ด้วยการใช้ตลาดออฟไลน์โปรโมทแพลตฟอร์มตัวเองแทนที่ สำหรับการทำการตลาดในแบบออฟไลน์ที่ DuckDuckGo เน้นเป็นหลัก คือการใช้ข้อความหยอกเย้า Google ผ่านป้าย Billboard ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคลิฟอร์เนีย โดยข้อความที่ใช้ในการทำโฆษณาจะเป็นการเน้นย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยที่ DuckDuckGo สามารถมอบให้ผู้ใช้ในขณะที่ Google ไม่สามารถทำได้ สิ่งนี้จึงเป็นวิธีการโปรโมตที่สร้างความขบขันให้กับผู้พบเห็น รวมถึงทำให้ DuckDuckGo ได้รับความสนใจและถูกใช้งานเพิ่มมากขึ้น

และแม้จะไม่ได้มีการขายข้อมูลลูกค้าเป็นรายได้หลัก แต่ DuckDuckGo ก็มีวิธีสร้างรายได้เป็นของตนเองเช่นกัน โดยวิธีการสร้างรายได้รูปแบบแรกก็คือการเปิดให้ลงโฆษณาบน Search Engine ของตนเอง โดย DuckDuckGo เน้นย้ำว่าโฆษณาที่ถูกลงในแพลตฟอร์ของพวกเขาจะไม่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไป Re-targeting ต่อโดยเด็ดขาด

ส่วนวิธีการสร้างรายได้อีกทางหนึ่งก็คือการที่ DuckDuckGo เน้นทำ Affiliate โปรแกรมร่วมกับแพลตฟอร์ม E-marketplace ชื่อดังอย่าง Amazon และ E-bay โดยเมื่อลูกค้าเข้า DuckDuckGo เพื่อเซิร์จข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าจาก Amazon และ E-bay เมื่อไร แพลตฟอร์ม DuckDuckGo ก็จะได้รับเงินส่วนแบ่งค่า Conversion ในฐานะสื่อกลาง

Bing คือ

 

DuckDuckGo มีข้อดีสำหรับผู้ใช้งานอย่างไร?

DuckDuckGo มีข้อดีหลายอย่างที่อาจไม่พบในระบบ Search Engine อื่น ๆ เราขอสรุปมาเป็นข้อ ๆ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ดังนี้

1.ปกป้องข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้งาน : DuckDuckGo ไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการค้นหาของผู้ใช้งาน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าไม่ว่าหน่วยงานใด ก็ไม่สามารถนำเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไปใช้ประโยชน์ได้

2.มีทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถปรึกษาได้โดยตรง : DuckDuckGo เป็นแพลตฟอร์ม Search Engine ที่พร้อมรับฟีดแบคและปรับปรุงผลงานของตนเองให้ดีขึ้นเสมอ ดังนั้น หากผู้ใช้งานท่านใดมีปัญหาแล้วอยากได้วิธีแก้ไข หรือแม้แต่มีข้อเสนอแนะ ก็สามารถติดต่อทีมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้โดยตรง โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ชุมชนและส่งรายงานไปได้เลย

3.วิธีทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ : DuckDuckGo ยังเป็นระบบ Search Engine ที่พร้อมเปิดข้อมูลการทำงานให้ผู้ใช้งานได้รู้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่ว่าจะเป็นประวัติและเส้นทางการทำงานของทีมงาน นโยบายการดำเนินงาน รวมถึงวิสัยทัศน์ หากอยากรู้เมื่อไร ผู้ใช้งานก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดที่แพลตฟอร์มของ DuckDuckGo ได้ทันที

DuckDuckGo ก็มีข้อเสียเช่นกัน

แม้จะมีข้อดีหลายประการดังที่ได้กล่าวไป แต่เนื่องจาก DuckDuckGo ไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลหรือประวัติการสืบค้นที่เกี่ยวข้องกับความสนใจเฉพาะของผู้ใช้งานเอาไว้ ดังนั้น เมื่อบุคคลเข้าใช้งานครั้งต่อไป ระบบอัลกอริทึ่มจะไม่มีการแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหรือตอบโจทย์ความสนใจส่วนตัวของผู้ใช้งานมากขนาดนั้น ในขณะที่ Google จะทำการบันทึกประวัติการสืบค้นของผู้ใช้งานไว้ทั้งหมด จึงทำให้สามารถปรับแต่งผลลัพธ์การสืบค้นได้ตรงความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคนได้มากกว่า จึงอาจเป็นข้อเสียที่ทำให้ DuckDuckGo ตอบโจทย์การใช้งานได้น้อยกว่าระบบ Search Engine อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับข้อดีเรื่องความเป็นส่วนตัว DuckDuckGo ก็ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มอบสิทธิประโยชน์และเคารพสิทธิส่วนบุคคลมากที่สุดเมื่อเทียบกับระบบ Search Engine อื่น ๆ

 

สรุป

DuckDuckGo คือ Search Engine ทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพราะนอกจากจะไม่เก็บข้อมูลการเข้าใช้งานใด ๆ แล้ว ยังมีระบบการเข้ารหัสในเว็บไซต์ที่รัดกุม พร้อมกันนั้นยังช่วยบล็อกโฆษณาและสแปมที่จะโผล่มาทุกครั้งเมื่อเข้าไปเซิร์จข้อมูลในเครื่องมือค้นหา แล้วหากผู้ใช้งานท่านใดที่อยากลองเปลี่ยนมาใช้ Search Engine ตัวนี้ก็สามารถลองใช้งาน DuckDuckGo ได้ทันที เพราะแพลตฟอร์มนี้มีการรองรับการใช้งานในไทย ใครที่สนใจก็สามารถเซิร์จผ่าน Safari หรือ Chrome ได้เลย

หากผู้ประกอบการท่านใด อยากลองนำความรู้เรื่อง DuckDuckGo ไปปรับใช้ให้เข้ากับแผนธุรกิจของตนเอง สามารถติดต่อ Primal Digital Agency บริษัทรับทำการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์กว่า 150 คนพร้อมให้ความช่วยเหลือ หากต้องการทำแผนธุรกิจของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น สามารถกรอกรายละเอียดเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้เลยวันนี้!