JavaScript SEO ทำไมถึงสำคัญต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google

แชร์บทความนี้

การทำเว็บไซต์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ออกแบบให้ใช้งานง่ายควบคู่ไปกับความสวยงามที่ส่งเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังต้องมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีต่อ SEO ด้วย ซึ่ง JavaScript เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ตั้งแต่การใช้ทำ Dynamic Content ไปจนถึง Interactive Features ซึ่งการปรับปรุงภาษา JavaScript อย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

JavaScript SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาได้

JavaScript SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Google สามารถ Crawl และ Index ได้ง่าย

JavaScript SEO คืออะไร ?

JavaScript SEO คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ Search Engine อย่าง Google สามารถ Crawl และ Index เนื้อหาได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยเฉพาะในเว็บไซต์ที่ใช้ JavaScript ในการโหลดหรือแสดงผลข้อมูลสำคัญ หาก JavaScript ทำงานไม่สมบูรณ์ อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถจัดอันดับได้ดีเท่าที่ควร

การเข้าใจและปรับปรุง JavaScript SEO จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคที่ Developer ต้องเข้าใจเท่านั้น แต่ยังเป็นความรู้พื้นฐานที่นักการตลาดควรเข้าใจ เพราะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถดึงดูดทั้งผู้ใช้งานและ Search Engine ได้พร้อมกัน ทั้งยังเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บน Google อย่างยั่งยืน

กระบวนการประมวลผล JavaScript ของ Google

Google มีกระบวนการประมวลผลบน JavaScript ทั้งหมด 3 ขั้นตอนได้แก่

Crawling

การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ โดยการสแกนลิงก์บนหน้าเว็บ รวมถึงโครงสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ CSS, HTML และ JavaScript Rendering

สิ่งที่ควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการซ่อนเนื้อหาสำคัญใน JavaScript
  • ใช้ Internal Link เพื่อให้ Googlebot สามารถไต่ไปตามโครงสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายและไวยิ่งขึ้น
  • ตรวจสอบไฟล์ robot.txt เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้บล็อก JavaScript ที่สำคัญในการแสดงผลเนื้อหา

Rendering

หลังจากที่ Googlebot ดำเนินการ Crawl แล้ว ระบบจะประมวลผล หรือ Rendering เพื่อให้เห็นเนื้อหาทั้งหมดได้เหมือนกับที่ทางผู้ใช้งานเห็น

สิ่งที่ควรระวัง

  • การแสดงผลล่าช้า ในกรณีที่เว็บไซต์โหลด JavaScript นาน อาจจะทำให้ไม่สามารถแสดงผลได้ในทันที
  • ควรใช้ SSR หรือ Dynamic Rendering เพื่อให้ Googlebot สามารถเข้าถึง HTML โดยที่ไม่ต้องรอโหลด JavaScript

Index

ขั้นตอนสุดท้าย Google จะนำข้อมูลไปเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อใช้ในการแสดงผลค้นหา (Search Result) โดยจะแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นเมื่อเนื้อหาของเว็บไซต์ตรงกับคำที่ค้นหา (Keyword) หรือ Intent

สิ่งที่ควรระวังในขั้นตอนนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้ JavaScript ในการโหลด Meta Tags, Canonical Tags, Title Tags และ Structured Data
  • แนะนำให้ใช้ Pre-rendering หรือ Hybrid Rendering หากโค้ดมีความซับซ้อนหรือต้องโหลดนาน

ปัญหาที่พบบ่อยในการทำ JavaScript SEO

ในการทำ JavaScript SEO พบปัญหาสำคัญที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ ที่นักการตลาดต้องระวังคือ

  • การเรนเดอร์เนื้อหาที่ไม่สามารถโหลดเนื้อหาได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทันที ส่งผลให้ไม่สามารถจัดอันดับได้
  • การ Crawl และ Index เนื้อหาที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากการโหลดเนื้อหาช้า หรือมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบางส่วนบนหน้า Page
  • ปัญหาเกี่ยวกับ URL และการ Navigation เนื่องจาก Navigation มีความซับซ้อน หรือไม่มี Internal Link ทำให้การ Crawl ของ Googlebot ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

 JavaScript SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาได้

การปรับปรุง JavaScript SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

JavaScript SEO ไม่ใช่เรื่องยากเกินการทำความเข้าใจ เพียงแต่ต้องเข้าใจหลักการและนำเทคนิคต่าง ๆ มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และให้ Google ตรวจสอบและเก็บข้อมูลได้อย่างเหมาะสม

เลือกใช้ JavaScript Framework ที่เหมาะสม

แนะนำให้เลือก JavaScript Framework อย่าง Next.js, Nuxt.js, Gatsby.js หรือ Angular Universal เพื่อให้ Googlebot สามารถ Crawl, Render และ Index ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Page Speed และลดปัญหา Core Web Vital ได้

เรนเดอร์แบบ Server-Side Rendering (SSR) และ Dynamic Rendering

เป็นการเรนเดอร์เนื้อหาที่เซิร์ฟเวอร์ จากนั้นจะส่งไปที่เบราว์เซอร์เป็น HTML ไม่ต้องรอให้ JavaScript แสดงผล ทำให้โหลดได้เร็วขึ้น และเพิ่มโอกาสการติด SEO

ตรวจสอบการ Crawl และ Index อย่างสม่ำเสมอ

ใช้ Google Search Console ในการตรวจสอบว่าเนื้อหาถูก Index และใช้ Screaming Frog SEO Spider หรือ Chrome DevTools เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาแสดงผลอย่างถูกต้อง

ใช้ลิงก์ที่สามารถติดตามได้

หลีกเลี่ยงการใช้ลิงก์ที่มีฟังก์ชันซับซ้อนหรือไม่สามารถติดตามได้ เพื่อให้สามารถ Crawl เนื้อหาได้อย่างราบรื่น และสามารถจัดอันดับเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว

เพิ่มประสิทธิภาพ Core Web Vital

ลดปัญหาเว็บไซต์โหลดช้า และเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวม โดย Core Web Vitals จะประกอบไปด้วย 3 เมตริกหลัก ๆ คือ Largest Contentful Paint (LCP) การแสดงผลเนื้อหาหลัก, First Input Delay (FID) การวัดเวลาที่ตอบสนองหลังคลิก และ Cumulative Layout Shift (CLS) การวัดความเสถียรของหน้าเว็บไซต์

ลดปัญหา URL ที่ซ้ำซ้อน

การมีเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันในเว็บไซต์ จะทำให้ Google ปิดกันการมองเห็น ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำ Canonical Tag ไปจนถึงการลบหน้าเพจที่ไม่สำคัญออกไป

การปรับปรุง JavaScript SEO เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สำคัญในการทำให้เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกของ Google ซึ่งเป็นหนึ่งในเช็กลิสต์ของบริการรับทำ SEO จาก Primal โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติมติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อขอคำแนะนำและรับแผนการตลาดออนไลน์สำหรับแบรนด์ของคุณได้เลย

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Understand the JavaScript SEO basics. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567
    https://developers.google.com/search/docs/crawling-indexing/javascript/javascript-seo-basics
แชร์บทความนี้