เทียบให้เห็นกันชัด ๆ จ้างทำ SEO หรือทำด้วยตัวเองดีกว่ากัน

ปัจจุบัน ทุกธุรกิจผันตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์กันหมด ส่งผลให้การแข่งขันในวงการการตลาดสูงมาก เพราะใคร ๆ ก็อยากให้เว็บไซต์ของตนเองขึ้นเป็นอันดับแรกบนหน้าการค้นหาทั้งนั้น แต่กว่าจะไปถึงจุดดังกล่าวได้ ก็ต้องมีการทำ SEO (Search Engine Optimisation) หรือการปรับแต่งให้เว็บไซต์มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนดเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้คีย์เวิร์ด การทำ Backlink ความเร็วในการโหลดหน้าเพจ UX/UI และอื่น ๆ อีกมากมาย

เมื่อเป็นเช่นนั้น บริษัทรับจ้างทำ SEO จึงได้ถือกำเนิดขึ้นหลายแห่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บริการด้านการตลาดแก่ธุรกิจต่าง ๆ แต่จะเลือกเองก็มีรายชื่อบริษัทเยอะแยะไปหมดจนเลือกไม่ถูกว่าจะจ้างที่ไหนดี รวมถึงเกิดคำถามมากมาย เช่น ถ้าจ้างไปแล้วจะคุ้มหรือไม่ ทำเองจะดีกว่าหรือเปล่า บทความนี้จะมาชี้ชัด ๆ ให้เห็นถึงคำตอบของข้อสงสัยข้างต้น ว่าสรุปแล้ว จ้างทำ SEO กับทำเอง อะไรดีกว่ากันแน่

แต่ก่อนจะไปอธิบายถึงส่วนนั้น มาทำความเข้าใจเรื่อง SEO กันก่อนดีกว่า !

ปรับความเข้าใจพื้นฐานก่อนจ้างทำ SEO

SEO (Search Engine Optimisation) คือ วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ ปรับปรุงเนื้อหาบทความ และการทำ Backlink เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากพอที่จะถูก Google เลือกไปแสดงผลเป็นอันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของการค้นหา โดยแนวทางการทำ SEO สามารถแบ่งออกได้คร่าว ๆ 3 ด้าน ได้แก่

• ด้านเนื้อหา เช่น การนำคีย์เวิร์ดมาใช้ในการเขียนบทความ เพื่อให้ Google รู้ว่าเว็บไซต์นี้เป็นเว็บฯ เกี่ยวกับอะไร และนำไปสู่การจัดอันดับบนหน้าการค้นหา
• ด้านโครงสร้างและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น การทำ Internal Link หรือการทำ HTTPS เป็นต้น
• ด้านความน่าเชื่อถือ เช่น การได้รับการอ้างอิงจากเว็บไซต์ภายนอกมายังเว็บไซต์ของเรา หรือที่เรียกว่า Backlink

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะจ้างบริษัทรับทำ SEO หรือทำด้วยตนเอง 3 ด้านนี้ก็ถือเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ โดยจะต้องทำควบคู่กันไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่เว็บไซต์ อันจะนำมาซึ่งอันดับที่ดีบนหน้าการค้นหา และนำไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์

จ้างทำ SEO กับทำ SEO เอง แบบไหนดีกว่ากัน

ในการทำ SEO นั้น ต่อให้จะจ้างทำหรือทำเองก็ล้วนมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาเหมือน ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในการทำ ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายกับงบประมาณที่มี ซึ่งสามารถเปรียบเทียบข้อแตกต่างของทั้งสองฝั่งได้ดังนี้

ความพร้อมในการทำ SEO

ความพร้อม ในที่นี้หมายถึงทั้งในแง่บุคลากรของบริษัทในการดำเนินงาน และแง่ของประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายในทีม ซึ่งปัจจัยข้อนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทรับจ้างทำ SEO นั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องของบุคลากรที่มีความพร้อมในการทำงานมากกว่า โดยเฉพาะประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่จะช่วยให้งานมีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถลดระยะเวลาการทำงานได้มากกว่าทำเองอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บางคนอาจคิดว่า แค่จ้างทีมงาน In-House ที่มีความเชี่ยวชาญมาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะ ๆ เพื่อจ้างบริษัทรับทำ SEO แต่จริง ๆ แล้ว บริษัทรับจ้างทำ SEO โดยเฉพาะจะมีประสบการณ์มากกว่า เจอปัญหามาหลากหลายรูปแบบกว่า ดังนั้น จึงมีความสามารถและระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมมากกว่าการทำด้วยตนเอง หรือจ้างพนักงานที่เราไม่รู้เลยว่าเขามีความเชี่ยวชาญมากแค่ไหน

ระยะเวลา

การทำ SEO ประกอบไปด้วยกระบวนการหลายอย่าง ตั้งแต่การวางแผนปรับโครงสร้างเว็บไซต์ ไปจนถึงการเขียนบทความ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งในข้อนี้ การทำ SEO ด้วยตัวเองอาจได้เปรียบกว่าตรงที่ทีมงานสามารถโฟกัสไปที่การทำ SEO โดยเฉพาะ ทำให้ระยะเวลาเห็นผลอาจสั้นกว่าการจ้างทำ SEO เพราะบริษัทหรือเอเจนซีที่รับจ้างนั้นต้องทำงานให้ลูกค้าหลายเจ้า ซึ่งอาจทำให้ล่าช้ากว่าได้ในบางที

กระนั้น จำนวนงานก็ไม่สามารถบ่งบอกระยะเวลาในการทำได้ทั้งหมดอยู่ดี เพราะการทำ SEO จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ถึงแม้ว่าการทำเองจะมีเวลาดำเนินการแบบโฟกัสมากกว่า แต่อาจต้องลองผิดลองถูกบ่อยครั้งกว่าจะไปสู่ความสำเร็จ ต่างจากบริษัทรับจ้างทำ SEO ที่มีประสบการณ์มากมาย และสามารถทำงานได้แบบมืออาชีพ ซึ่งความเชี่ยวชาญในส่วนนี้อาจช่วยลดระยะเวลาในการทำงานได้เช่นกัน

ดังนั้น ในเรื่องของระยะเวลาจึงไม่อาจตัดสินได้ 100% ว่าใครได้เปรียบกว่า เพราะมีปัจจัยแฝงอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย แม้การทำเองอาจใช้เวลาน้อยกว่า แต่คุณภาพของผลลัพธ์อาจจะยังสู้บริษัทที่มีความชำนาญในด้าน SEO โดยเฉพาะไม่ได้ บางครั้ง การยอมเสียเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าก็ย่อมคุ้มค่ากว่างานที่ทำได้เร็วแต่ไม่รับประกันผลที่ได้

ค่าใช้จ่าย

หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำการตลาดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม คือ ค่าใช้จ่าย โดยหากลงทุนทำเอง ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับการจ้างพนักงาน หรือทีมงานเพื่อทำ SEO อันประกอบไปด้วยนักเขียน (Content Writer) นักพัฒนาเว็บไซต์ (Developer) นักออกแบบ (Graphic Designer) ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยตรง (SEO Specialist) ตลอดจนนักวางแผนทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing Planner)

จะเห็นได้ว่า ในการทำ SEO นั้นจำเป็นต้องอาศัยพนักงานจำนวนมาก หากพนักงานหนึ่งคนมีเงินเดือนอยู่ที่ 25,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการทำต่อเดือนก็มากกว่าหนึ่งแสนบาทแล้ว ทั้งนี้ เงินเดือนของแต่ละตำแหน่งย่อมไม่เท่ากัน อย่างนักพัฒนาเว็บไซต์ หากเลือกคนที่มีประสบการณ์มาก็อาจจะต้องจ่ายมากกว่า 50,000 ต่อเดือน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการทำเองอาจมากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อเดือนขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ถ้าทำเอง ค่าใช้จ่ายจะอยู่ในรูปแบบ Fixed Cost หรือต้นทุนคงที่ กล่าวคือ ต้นทุนมีแค่เงินเดือนพนักงาน ซึ่งข้อดีของต้นทุนลักษณะนี้ คือมีความมั่นคง จ่ายเงินเท่าเดิม และไม่ต้องกังวลเรื่องงบบานปลาย

ในขณะเดียวกัน หากจ้างทำ SEO ค่าใช้จ่ายจะเป็นสัญญาจ้างราย 3 เดือนหรือ 6 เดือน ไปจนถึง 1 ปี โดยอัตราค่าจ้างจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท และต้นทุนจะเป็นแบบ Variable Cost หรือต้นทุนแปรผัน อาจฟังดูเหมือนน่ากลัวเพราะควบคุมต้นทุนไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว ผู้ว่าจ้างสามารถกำหนดความแปรผันได้เอง กล่าวคือ ผู้ว่าจ้างสามารถกำหนดงบประมาณในการจ้างได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเพิ่มหรือลดค่าใช้จ่ายลง อีกทั้งยังไม่มีพันธะผูกพันเหมือนกับการจ้างพนักงานประจำด้วย ดังนั้น การจ้างทำ SEO จึงมีแนวโน้มว่าจะคุ้มค่ากว่าทำเอง ตัวอย่างเช่น ภายในระยะเวลา 3 เดือน หากจ้างทำ SEO ก็อาจจ่ายเงินแค่ราว ๆ หนึ่งแสน แต่ถ้าทำเองจะต้องจ่ายมากกว่านั้นอย่างแน่นอน บางทีอาจเลยไปถึง 3-4 แสนเลยทีเดียว ในขณะที่สัญญาจ้างกับบริษัท 1 ปี จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 ล้าน แต่ถ้าทำเอง ค่าใช้จ่ายอาจทะลุไปถึง 1.5 ล้าน

อย่างไรก็ดี ค่าจ้างทำ SEO นั้นไม่มีตายตัว ขึ้นอยู่กับบริษัทและขนาดของงาน

สรุป

ไม่ว่าจะจ้างทำ SEO หรือทำเอง ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน หลัก ๆ คือปัจจัยเรื่องความพร้อม ระยะเวลา ตลอดจนค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละธุรกิจว่าให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ สิ่งที่จะได้รับจากการจ้างทำ SEO คืองานที่มีคุณภาพ การันตีผลลัพธ์ได้จริง คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปอย่างแน่นอน 

สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับจ้างทำ SEO อยู่ Primal Digital Agency เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการตลาดแบบครบวงจร และมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 150 คน ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นบนหน้าแรกของ Google เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ รวมถึงสร้างผลกำไรให้แก่ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและแผนการตลาดฟรีได้เลย