ขั้นตอนเช็ก AI Search Traffic ด้วย GA4 มือใหม่ทำเองได้
Key Takeaways:
การเช็ก AI Search Traffic ผ่าน GA4 ช่วยให้แบรนด์เข้าใจว่าคอนเทนต์ใดถูก AI เลือกนำไปอ้างอิง หรือสร้าง Conversion ได้จริงบ้าง พร้อมต่อยอดในการวางกลยุทธ์ AI SEO ให้สอดคล้องกับ Zero-Click Search, Answer Engine และพฤติกรรมการค้นหาเชิงสนทนา ด้วยการใช้เครื่องมืออย่าง Regex Filtering, Custom Channel Group และ Event Tracking เพื่อวัดประสิทธิภาพแบบเฉพาะทาง ทำให้แบรนด์สามารถพัฒนาคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ AI Query มากขึ้น และสร้าง E-E-A-T ที่แข็งแรง ส่งผลโดยตรงต่ออันดับ มองเห็นง่ายขึ้น และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ชัดเจนกว่าเดิม
พฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลของผู้คนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Answer Engine การค้นหาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการแสดงผลลิงก์เว็บไซต์ แต่เป็นการให้คำตอบที่สรุปใจความสำคัญ ผ่าน AI เช่น Google AI Overviews (SGE), ChatGPT, Gemini, Bing Copilot และ Perplexity ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้การทำ SEO แบบดั้งเดิมที่เน้นเพียงการใช้ Keyword หรือ Backlink อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
ความท้าทายใหม่ของคนทำ SEO และเจ้าของเว็บไซต์คือ การเช็ก Traffic จาก AI Search ว่ามาจาก AI แพลตฟอร์มใด เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ นำไปสู่การปรับกลยุทธ์ SEO ให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Table of Contents
ทำความรู้จักเครื่องมือหลัก GA4 คืออะไร ?
เครื่องมือสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทในกระบวนการนี้คือ Google Analytics 4 (GA4) แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์มาตรฐานสากล ที่ช่วยให้สามารถติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งาน แหล่งที่มา (Source) และการกระทำบนเว็บไซต์ (Event/Conversion) ได้อย่างละเอียด สามารถวัดผล AI Search Traffic ได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง เพื่อรองรับการทำ SEO ในยุค AI Disruption
ความสำคัญของการเช็ก AI Search Traffic ด้วย GA4
เมื่อ Search Engine พัฒนาสู่การเป็น Answer Engine ระบบ AI จะทำหน้าที่คัดกรองและเลือกเนื้อหาที่มีคุณภาพที่สุด เพื่อนำมาประมวลผลเป็นคำตอบ การที่เว็บไซต์ถูกนำไปอ้างอิง (Citation) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อถือพอที่ AI จะนำไปใช้ตอบคำถาม
นอกจากนี้ คุณอาจได้ผู้ใช้กลุ่มใหม่ที่ไม่เคยค้นหาแบรนด์ผ่าน Google โดยตรง แต่เจอผ่าน ChatGPT, Gemini หรือ Perplexity และอาจกลายเป็นลูกค้าได้ในอนาคต ซึ่งการวัด AI Search Traffic ด้วย GA4 จะช่วยให้คุณเห็นภาพผลลัพธ์เหล่านี้อย่างชัดเจน
- เห็นภาพว่า AI ตัวไหนส่งคนมาที่เว็บไซต์บ้าง
- รู้ว่าหน้าไหนบนเว็บกำลังถูก AI หยิบไปใช้ตอบบ่อย
- เอาข้อมูลไปต่อยอด ปรับคอนเทนต์ เสริม Schema และวางกลยุทธ์ AI SEO ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
วิธีเช็ก AI Search Traffic ด้วย Google Analytics 4 (GA4)
การเช็ก Traffic จาก AI สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่
- AI Assistant Referral : การคลิกจาก AI โดยตรง GA4 จะโชว์เป็น Referral จากแพลตฟอร์มนั้น ๆ
- AI Overview Traffic : การคลิกจากหน้าสรุปผลของ Google (ต้องใช้งานร่วมกับ Google Search Console)
- AI Influence Traffic : ผู้ใช้เห็นเว็บไซต์ในคำตอบของ AI แล้วไปเสิร์ชชื่อแบรนด์ต่อ เป็น Traffic แบบ Indirect
ก่อนเริ่มเช็ก AI Search Traffic ด้วย GA4 แนะนำให้ติดตั้ง GA4 ไว้ในเว็บไซต์และเก็บข้อมูลสักระยะก่อน รวมทั้งมีการเชื่อม Google Search Console (GSC) กับเว็บไซต์ให้เรียบร้อย เพื่อเพิ่มโอกาสการเก็บข้อมูลได้ครบถ้วนและเป็นประโยชน์สูงสุดในระยะยาว
การตรวจสอบผ่าน Traffic Acquisition
วิธีนี้เหมาะสำหรับการตรวจสอบ Traffic ที่มาจาก Direct Referral ของ AI แพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้เห็นว่า AI แต่ละแพลตฟอร์มส่ง Sessions เข้ามาเท่าไร ผู้ใช้จาก AI มี Engagement Rate สูงหรือต่ำ และมี Conversion ที่เกิดขึ้นจาก AI Traffic หรือไม่ โดยในการตรวจสอบมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่ระบบ GA4 ไปที่เมนู Reports > Acquisition > Traffic acquisition
- เปลี่ยนค่า Dimension หลักจาก Session default channel group เป็น Session source / medium
- ในช่องค้นหา ให้พิมพ์ชื่อ Domain ของเครื่องมือ AI ที่ต้องการตรวจสอบ เช่น chatgpt.com, perplexity.ai หรือ gemini.google.com
- ตรวจสอบ Metrics ที่สำคัญ เช่น Sessions, Engagement Rate และ Conversions
การใช้ Regular Expression (Regex) เพื่อแยก AI Traffic แบบอัตโนมัติ
ใช้ชุดคำสั่ง Regular Expression (Regex) ในการกรองข้อมูลเพียงครั้งเดียว แต่เช็ก AI Traffic ผ่าน GA4 ได้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม โดยรายงานจะโชว์เฉพาะ Traffic ที่มาจาก AI Tools แบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับคนที่อยากดูเทรนด์ต่อเดือนหรือต่อไตรมาส
- เลือก Add filter ใน Traffic Acquisition Report
- เลือกเงื่อนไขเป็น Session Source
- เลือก Matches Regex แล้ววางชุดโค้ด Regex ลงไป
ชุดโค้ด Regex อัปเดตปี 2025
.*chatgpt\.com.*|.*chat\.openai\.com.*|.*perplexity\.ai.*|.*gemini\.google\.com.*|.*bard\.google\.com.*|.*claude\.ai.*|.*copilot\.microsoft\.com.*|.*openai\.com.*|.*writesonic\.com.*|.*copy\.ai.*
การสร้าง Custom Channel Group AI Traffic
การสร้าง Channel Group ใหม่ จะช่วยให้ GA4 แยกหมวดหมู่ Traffic จาก AI ออกมาอย่างถาวร ทำให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบกับ Organic Search หรือ Social Media ในระยะยาว ช่วยให้วิเคราะห์ Conversion Path ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ไปที่ Admin (ส่วนผู้ดูแลระบบ) > Data display > Channel groups
- เลือก Create new channel group และตั้งชื่อว่า AI Traffic
- กำหนดเงื่อนไข (Condition) โดยเลือก Source ให้ตรงกับ Regex (Matches Regex) และวางชุดโค้ดจากข้อที่ 2 ลงไป จากนั้นกดบันทึกค่า
การวัดผล Indirect Traffic หรือ AI Influence
ในกรณีที่ผู้ใช้งานเห็นข้อมูลจาก AI แล้วนำชื่อแบรนด์ไปค้นหาต่อเอง หรือเป็น Traffic ที่มาจาก Google AI Overviews (ซึ่งปัจจุบัน Google มักรวมยอดไว้ใน Organic Search) จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ร่วมกับ Google Search Console (GSC) ทำได้ตามขั้นตอนเหล่านี้
- เข้าสู่ Google Search Console
- ไปที่เมนู Search results > Search Appearance
- กรองข้อมูลหา AI Overview (ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์ก่อนเสมอ)
- ตรวจสอบว่า URL ใดมีการแสดงผล (Impressions) ใน AI Overview สูง
- นำ URL มาเทียบกับยอดเข้าชมใน GA4 หากพบว่ายอด Organic หรือ Direct Traffic เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ติด AI Overview สันนิษฐานได้ว่าเป็นผลมาจาก AI Influence
Metrics สำคัญใน GA4 ที่ควรโฟกัสเมื่อ เช็ก Traffic จาก AI Search
การดูเพียงยอดผู้เข้าชม (Sessions) อาจไม่เพียงพอสำหรับการวัดผลทางธุรกิจ หากอยากให้การทำ SEO ของคุณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรพิจารณาตัวชี้วัดเหล่านี้ประกอบด้วย
- Sessions / Engaged Sessions : บ่งบอกถึงปริมาณความสนใจของผู้ใช้งานจากแหล่ง AI
- Engagement Time : หากผู้ใช้งานใช้เวลาบนหน้านั้นนาน แสดงว่าเนื้อหาตอบโจทย์สิ่งที่ AI แนะนำมา
- Conversions : ตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพื่อดูว่า Traffic จาก AI สร้างยอดขายหรือการลงทะเบียนได้จริงหรือไม่
- Landing Pages : ระบุว่าหน้าเว็บไซต์ใดเป็น “แหล่งข้อมูลหลัก” ที่ AI มักดึงข้อมูลไปใช้
สรุปความสำคัญ การ เช็ก Traffic จาก AI Search คือสัญญาณใหม่ที่คนทำ SEO ห้ามมองข้าม
โลกของการค้นหากำลังหมุนไปสู่ยุคที่ AI เป็นคนเลือกคำตอบแทนผู้ใช้ การที่เว็บไซต์ของคุณถูกดึงไปใช้อ้างอิงใน ChatGPT, Gemini, Perplexity หรือ AI Overview ของ Google จึงเป็นสัญญาณสำคัญว่าเนื้อหาในเว็บไซต์กำลังถูก AI มองเห็น และแบรนด์ของคุณมีโอกาสกลายเป็นแหล่งความรู้ในสายตาผู้ใช้รุ่นใหม่ นำไปสู่การสร้างยอดขายและลูกค้าได้ในอนาคต
ดังนั้น การวัด AI Search Traffic ด้วย GA4 อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณรู้ว่า AI แพลตฟอร์มไหนส่งคนมาที่เว็บไซต์มากที่สุด ทั้งยังช่วยให้มองเห็นหน้าเพจที่ AI ชื่นชอบ และนำไปต่อยอดคอนเทนต์ใหม่ ๆ รวมทั้งวัดผลได้จริงว่าการลงทุนใน AI SEO ช่วยสร้าง Traffic และ Conversion ได้มากน้อยแค่ไหน
หากคุณต้องการอัปเกรดกลยุทธ์การทำ SEO ให้พร้อมสำหรับยุค AI อย่างแท้จริง การวิเคราะห์ AI Search Traffic โดยใช้ GA4 นับเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการปรับโครงสร้างคอนเทนต์ เว็บไซต์ และสัญญาณต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของ AI Search Engine ที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิมหลายเท่า
ที่ Primal เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำ AI SEO และ AI Search ที่ช่วยออกแบบกลยุทธ์แบบ End-to-End ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ ไปจนถึงการวัดผลแบบครบวงจร เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมองเห็นง่าย ติดอันดับไว และถูกเลือกไปอ้างอิงโดย Answer Engine ชั้นนำ สนใจยกระดับการเติบโตของเว็บไซต์อย่างยั่งยืน ติดต่อ Primal เพื่อรับคำปรึกษาและรับแผนการตลาดฟรีได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- 4 Methods to Track and Measure AI Traffic in Google Analytics 4. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 จาก https://surferseo.com/blog/track-chatgpt-ai-traffic-in-google-analytics/
- How to Track AI Traffic in GA4 & Looker Studio (Full Guide for 2025). สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.databloo.com/blog/how-to-track-ai-traffic/
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเช็ก AI Traffic จาก GA4 (FAQ)
Q : AI Search Traffic คืออะไร และต่างจาก Organic Traffic แบบเดิมอย่างไร ?
A : AI Search Traffic คือผู้เข้าชมที่มาจากการคลิกผ่านคำตอบหรือ Citation ของ AI เช่น ChatGPT, Gemini หรือ Perplexity ซึ่งต่างจาก Organic Traffic ที่มาจาก Google หรือ Bing โดยตรง จุดต่างสำคัญคือ AI Traffic เกิดจากคำตอบที่ AI เลือกอ้างอิง ไม่ใช่อันดับหน้าแรกตาม Search Result แบบเดิม
Q : จะนำข้อมูลจาก AI Traffic ไปต่อยอด AI SEO อย่างไรได้บ้าง ?
A : ข้อมูล AI Traffic ช่วยบอกได้ว่า AI เลือกใช้หน้าไหนของเว็บไซต์คุณเป็นคำตอบมากที่สุด ทำให้สามารถนำไปต่อยอด SEO ได้ตรงจุด โดยเริ่มจากการอัปเดตเนื้อหาในหน้าที่มี Traffic สูงให้สดใหม่ขึ้น เพิ่มข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างจริง รวมถึงเสริม FAQ และ Key Takeaway เพื่อให้ทั้งผู้ใช้และ AI เข้าใจง่ายและดึงไปตอบได้ดีขึ้น
จากนั้นเพิ่ม Schema Markup ที่เหมาะสม เช่น FAQ Page, Article, Product หรือ Organization เพื่อช่วยให้โครงสร้างข้อมูลชัดเจน ง่ายต่อการอ่านข้อมูลของ AI และเพิ่มโอกาสปรากฏใน Rich Snippets และ AI Overview แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนพัฒนาคอนเทนต์ร่วมกับทีมอย่างเป็นระบบ
Q : ทำอย่างไรให้คอนเทนต์มีโอกาสถูกเลือกโดย AI Bots มากขึ้น ?
A : โฟกัสที่คุณภาพคอนเทนต์ตาม E-E-A-T เช่น ความถูกต้อง ความเชี่ยวชาญ แหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ พร้อมใช้ Schema Markup ที่เหมาะสม (Article, FAQ, Product) เพื่อให้ AI เข้าใจโครงสร้างข้อมูลได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความแม่นยำในการดึงเนื้อหาไปตอบคำถาม
Q : AI Traffic สามารถใช้เป็น KPI ของ AI SEO ได้หรือไม่ ?
A : ได้ แต่ควรใช้ร่วมกับ Metric อื่น เช่น Engagement, Conversion Rate และ Citation Rate เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำ AI SEO ชัดเจน เพราะ AI Traffic เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถบ่งบอกประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้
Join the discussion - 0 Comment