11 ข้อผิดพลาดของการทำ GEO Content ที่ควรหลีกเลี่ยง

Key Takeaways

การทำ GEO Content ต้องมุ่งตอบ Intent ผู้ใช้แบบเจาะลึก มีโครงสร้างที่ชัดเจน และเขียนอย่างสมดุลระหว่าง AI-Friendly และ Human-Friendly โดยควรหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดสำคัญ เช่น ไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่กำหนดวัตถุประสงค์ ไม่มี Keyword Research ยัดคีย์เวิร์ดมากเกินไป ขาดหัวข้อย่อย ไม่มี Schema ไม่อัปเดตเนื้อหา นอกจากนี้ ยังควรติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสให้ AI Search เลือกบทความไปใช้จริงด้วย

การทำ GEO Content หรือ Generative Engine Optimization ไม่ใช่แค่การเขียนบทความให้ติดอันดับบน Search Engine อีกต่อไป แต่คือการสร้างคำตอบที่ AI Search Engine อย่าง ChatGPT, Perplexity, Google Gemini หรือ Copilot เลือกหยิบข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณไปตอบโดยตรง โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านต่อที่เว็บไซต์เหมือนเช่นเคย

ดังนั้นความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยสามารถทำให้คอนเทนต์ทั้งชิ้นไม่ถูกเลือกไปอ้างอิง และเสียโอกาสการมองเห็นบน AI Search ได้ทันที และนี่คือ 11 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมเหตุผลและตัวอย่างการปรับแก้ให้ชัดเจน

ไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง

การมีข้อมูล Insight เพื่อให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คอนเทนต์ถูกอ้างอิงบน AI แต่หากว่าเขียนคอนเทนต์โดยไม่เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายอยากรู้อะไรจริง ๆ อาจจะทำให้คอนเทนต์กว้างเกินไป แต่ไม่ตอบปัญหาของผู้ใช้ที่กำลังค้นหาจริง ๆ

อย่าลืมว่าวิธีทำ GEO Content คือ การสร้างเนื้อหาแบบ Intent-Driven แต่หากคอนเทนต์นั้นไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง AI Search ก็จะไม่เลือกเนื้อหาดังกล่าวมาใช้

Must Do

• ศึกษา Intent ของคำถามในแพลตฟอร์มอย่าง Perplexity, People Also Ask, Reddit
• ตั้งคำถามแบบเจาะจงก่อนเริ่มเขียน
• ใช้โครงสร้างแบบ Q&A เพื่อให้ AI เข้าใจง่ายและดึงข้อมูลไปใช้ได้ทันที
• เก็บ Feedback จากคำถามซ้ำ ๆ ของลูกค้าหรือคอมเมนต์บนโซเชียลเพื่อหา Pain Point ที่แท้จริง

ไม่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการสร้างคอนเทนต์

การเขียน GEO Content ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการอะไรกันแน่ เช่น ต้องการเป็นคำตอบเชิงข้อมูล (Informational), ต้องการเปรียบเทียบสินค้า (Comparison) หรือให้ AI ใช้ในขั้นตัดสินใจ (Conversion)

การไม่มีวัตถุประสงค์ในการเขียนที่ชัดเจน จะทำให้ AI ไม่รู้ว่าบทความนี้ต้องการสื่อสารอะไรกันแน่

Must Do

• กำหนดเป้าหมายของบทความ เช่น “ต้องการให้ AI ดึงคำตอบส่วนไหนไปใช้ ?”
• วางโครงสร้างบทความให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น ข้อมูลลึก VS คำตอบสั้น
• เลือกโทนการเขียนให้เหมาะกับช่วงของผู้ใช้ เช่น TOFU อธิบายภาพรวม, BOFU อธิบายวิธีเลือก

ไม่ทำ Keyword Research ที่สอดคล้องกับคำถามจริงของผู้ใช้

การทำ GEO Content ไม่ได้โฟกัสแค่คีย์เวิร์ดอีกต่อไป แต่ต้องดูให้ลึกว่าผู้ใช้ถามอย่างไร โดยคำถามแบบ Who/What/How ที่ผู้ใช้จริงถามบน AI Search สำคัญมาก เพราะ AI Engine ชอบข้อมูลที่ตรงประเด็นและตอบได้อย่างถูกต้อง

Must Do

• ค้นคำถามจากแหล่งที่ถูกถามจริง เช่น Perplexity Related Questions, AnswerThePublic
• โฟกัส Long-tail ที่เป็นภาษาที่ใช้ทั่วไป ไม่ใช่ศัพท์เฉพาะ
• วิเคราะห์คำถามคู่แข่งที่ AI อ้างอิง
• นำคำถามมาสร้างเป็นหัวข้อ H2 หรือ Q&A Block

ยัดเยียดคีย์เวิร์ดจนไม่เป็นธรรมชาติ

การทำ GEO ไม่ใช่การยัดคีย์เวิร์ดไปมากจนเกินพอดี แต่คือการเขียนคำตอบที่ดีที่สุด มีความลึกของข้อมูล เพื่อให้ AI นำไปใช้อ้างอิง ดังนั้น จึงควรเขียนเนื้อหาที่กระชับ และมีคุณภาพสูง จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า

Must Do

• เขียนแบบอธิบายให้เข้าใจง่าย และมีข้อมูลเชิงลึกในระดับผู้เชี่ยวชาญ
• ลดการพูดซ้ำโดยไม่จำเป็น
• ใช้คำเชื่อม เช่น ดังนั้น, เพราะว่า, ในทางปฏิบัติ เพื่อให้อ่านลื่นไหล
• นำคีย์เวิร์ดเข้าไปวางในจุดสำคัญ เช่น H2, บทสรุป, ส่วนของการตอบคำถามต่าง ๆ

การจัดโครงสร้างเนื้อหาไม่เหมาะสม อ่านยาก และไม่มีหัวข้อย่อย

โครงสร้างบทความที่ไม่เป็นระบบ ไม่มีการแบ่งหัวข้อย่อย หรือไม่มีจุดสังเกตว่ากำลังตอบคำถามอะไร ทำให้ AI ดึงเนื้อหาไปอ้างอิงยาก นอกจากนี้ คนอ่านก็จะรู้สึกว่าเนื้อหาแน่น อ่านไม่รู้เรื่องตามไปด้วย

ดังนั้น GEO Content จะต้องเป็นคอนเทนต์แบบ Modular Content โดยมีการแบ่งเนื้อหาเป็นส่วน ๆ และมีหัวข้อที่ชัดเจน

Must Do

• ใช้หัวข้อย่อย (H2-H4) ที่บ่งบอกคำถามหรือประเด็นโดยตรง
• แยกเนื้อหาเป็นส่วนสั้น ๆ ช่วยให้อ่านง่ายยิ่งขึ้น
• ทำ Summary หรือ Key Takeaways ในแต่ละส่วน
• ใช้ Bullet และ Q&A Block เพื่อให้ AI ประมวลผลได้เร็ว

ขาดการทำ SEO เบื้องต้น เช่น Schema และข้อมูลโครงสร้าง

แม้ว่า GEO จะเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมการค้นที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้ แต่ SEO Technical ก็ยังจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะ Schema ที่ช่วยให้ Google Gemini, Copilot หรือ Perplexity เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น เช่น FAQ Schema, HowTo Schema หรือ Article Schema

หากไม่มี Schema เลย AI จะต้องตีความเนื้อหาทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การจัดหมวดผิด หรือไม่เลือกเนื้อหาในเว็บไซต์ไปอ้างอิงเลย

Must Do

• เพิ่ม FAQ Schema เพื่อให้ AI เลือกคำตอบง่ายขึ้น
• ใช้ How To Schema ในเนื้อหาที่เป็นขั้นตอน
• ใส่ Breadcrumb, Article Schema ให้ครบถ้วน
• ตรวจสอบด้วย Rich Results Test หลังเผยแพร่

ไม่อัปเดตหรือปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัย

ทั้ง AI และ Search Engine ชอบข้อมูลที่สดใหม่ โดยเฉพาะหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การตลาด เศรษฐกิจ หรือกฎหมาย ดังนั้น หากว่าเนื้อหาไม่ได้อัปเดต หรือเก่าเกินไป อาจจะไม่ได้รับเลือกมาอ้างอิง เพราะไม่สะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน

Must Do

• อัปเดตบทความอย่างสม่ำเสมอ
• เพิ่มข้อมูลใหม่ เช่น เทรนด์ปีล่าสุดหรือสถิติรายปี
• ปรับคำตอบใน Q&A ให้ทันเหตุการณ์
• เพิ่ม Internal link ไปบทความใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาเน้นเฉพาะ AI โดยไม่สนใจผู้อ่านจริง

แม้ว่าเราอยากจะให้ AI นำบทความของเราไปอ้างอิง แต่ก็ไม่ควรจะเขียนคอนเทนต์ที่เขียนเพื่อ AI เท่านั้น เพราะการเขียนเนื้อหาแบบท่องจำ คนอ่านก็จะรู้สึกว่าไม่ได้ประโยชน์อะไร และสุดท้าย AI ก็ไม่นำไปอ้างอิงเช่นเดียวกัน ดังนั้น GEO Content ที่ดี จะต้องบาลานซ์ระหว่าง AI-Friendly และ Human-friendly ให้สมดุลกัน

Must Dos

• ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ แต่ตอบตรงประเด็น
• ใส่ตัวอย่างจริง หรือ Case study เพื่อเพิ่มความเข้าใจ
• อธิบายคำยากให้เรียบง่าย
• สรุป Insight ที่ช่วยให้ผู้อ่านนำไปใช้ได้จริง

ไม่ทำ Internal Linking ภายในเว็บไซต์

Internal Link เป็นหนึ่งในสัญญาณที่สำคัญมากสำหรับ AI Search เพราะช่วยให้ระบบเข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหาแต่ละหน้า และยังเพิ่ม Authority ของทั้งเว็บไซต์ การไม่ใส่ Internal link เชื่อมโยงกัน เป็นอีกหนึ่งข้อผิดพลาดของการทำ GEO Content

Must Do

• ใส่ Internal Link ไปยังบทความที่ลึกกว่า หรือเกี่ยวข้องโดยตรง
• ใช้ Anchor Text ที่สื่อความหมาย เช่น วิธีทำ Geo Content
• วาง Internal Link ในรูปแบบ Q&A หรือ Key Insights
• สร้าง Content Cluster ให้ชัดเจน เช่น Pillar และ Sub Topic

ไม่วิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์คอนเทนต์

การทำ GEO ไม่ใช่เขียนแล้วจบ แต่ต้องดูว่า AI เลือกคอนเทนต์เราไปตอบหรือไม่ ? ตอบคำถามไหนบ้าง ? หรือบทความไหนถูกมองข้าม ? การไม่วิเคราะห์ผลลัพธ์จะทำให้พลาดโอกาสปรับปรุงตามความต้องการของ AI Search และไม่รู้ว่าควรพัฒนาคอนเทนต์ไปทิศทางใด

Must Do

• เช็กว่า AI อ้างอิงบทความคุณบ่อยแค่ไหน
• ดู Query ใหม่ ๆ จาก Search Console
• เช็กเวลาอ่าน หน้าหลักที่ผู้ใช้เข้า
• ปรับเนื้อหาให้ตอบคำถามที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาด

ไม่ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม (Platform-specific)

AI แต่ละตัวเลือกเนื้อหามาอ้างอิงไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น Perplexity ให้ความสำคัญกับ Citation, ChatGPT ชอบโครงสร้างที่ชัดเจน, ส่วน Gemini อ่าน Schema และต้องมี Data Structure ที่ดี

Must Do

• ปรับรูปแบบการสรุปตามแต่ละแพลตฟอร์ม
• ใส่ Citation ให้เข้ากับ Perplexity
• ใส่ FAQ Schema ให้ถูกใจ Gemini
• ใช้ Reasoning Prompt ให้ ChatGPT

การสร้าง GEO Content ที่มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจในกลไก AI Search, ความเชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์เชิงลึก และโครงสร้างข้อมูลที่แม่นยำ หากคุณต้องการให้แบรนด์ถูกเลือก โดยระบบค้นหาอัจฉริยะอย่าง ChatGPT, Perplexity หรือ Google Gemini ติดต่อมาที่ Primal เราพร้อมช่วยคุณวางกลยุทธ์แบบครบวงจร

เรามีบริการรับทำ AI SEO ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ ตั้งแต่การวิเคราะห์คำถามจริงของผู้ใช้ (Intent Mapping), การวาง Content Architecture แบบ GEO-friendly ไปจนถึงการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับ AI Search Engine ทุกรูปแบบ

มองหาบริการรับทำ AI Search ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของ Primal เลย

ข้อมูลอ้างอิง

1. 10 GEO (Generative Engine Optimization) Mistakes That Are Killing Your AI Visibility. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับวิธีทำ GEO Content (FAQ)

GEO Content ต่างจาก SEO ปกติอย่างไร ?

A : GEO Content เน้นการสร้างคำตอบที่ AI Search สามารถนำไปใช้ได้ทันที ไม่ใช่แค่ทำอันดับบน Google แบบเดิม จึงต้องมี Intent ที่ชัดเจน โครงสร้างแบบ Q&A และข้อมูลที่ลึกกว่า SEO ปกติ

GEO Content ต้องยาวแค่ไหนถึงจะเหมาะสม ?

A : ไม่จำเป็นต้องยาวมาก แต่ต้องตอบโจทย์และตรงประเด็น โดยระบุคำถามให้ชัดเจน แยกหัวข้อย่อย และให้ข้อมูลที่ลึกพอสำหรับ AI ในการสกัดคำตอบ

ต้องใช้เครื่องมืออะไรในการวิเคราะห์คำถามผู้ใช้เพื่อทำ GEO ?

A : สามารถใช้ Perplexity Related Questions, People Also Ask, AnswerThePublic, Reddit หรือ Search Console เพื่อหา Intent และคำถามจริงของผู้ใช้

Schema มีผลต่อ GEO มากแค่ไหน ?

A : Schema ช่วยให้ AI Search เข้าใจบริบทของบทความได้ง่ายขึ้น เช่น FAQ Schema หรือ HowTo Schema จึงเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาถูกเลือกไปตอบในผลลัพธ์ AI

GEO ใช้ได้กับทุกธุรกิจหรือไม่ ?

A : ใช้ได้กับทุกธุรกิจที่ต้องการให้ AI Search หยิบคอนเทนต์ไปตอบ ทั้ง B2C, B2B, อีคอมเมิร์ซ, การตลาด และสายเทคนิค เพราะทุกอุตสาหกรรมมีคำถามเฉพาะที่ผู้ใช้ค้นหา