AI จะแทนที่ Google หรือไม่ ? ทำไมการค้นหาจึงยิ่งเติบโต

แชร์บทความนี้

AI จะไม่มาแทนที่ Google แต่ AI กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของ Google และเปิดโอกาสใหม่ในการค้นหาข้อมูล

Google ประมวลผลการค้นหาถึง 8.5 พันล้านครั้งต่อวัน ขณะที่ ChatGPT รับมือกับคำค้นหาได้มากกว่า 1-2 พันล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คนใช้การค้นหาผ่าน AI ในลักษณะที่แตกต่างจากการค้นหาผ่าน Google ดังนั้น ทั้งสองแพลตฟอร์มจึงยังไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงในตอนนี้

Table of Contents

ผู้คนใช้ Google VS AI อย่างไร

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ลองสำรวจพฤติกรรมการค้นหาของตัวเอง และพบว่า

การใช้งาน Google

  • ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ที่ต้องการ (“Facebook login”)
  • หาข้อมูลการซื้อสินค้า (“หาหูฟังไร้สายที่ดีที่สุด ราคาไม่เกิน 6,000 บาท”)
  • ค้นหาร้านอาหารในพื้นที่ (“ร้านอาหารไทยใกล้ฉัน”)
  • ตรวจสอบเหตุการณ์ปัจจุบัน (“พยากรณ์อากาศวันนี้”)
  • ค้นหารูปภาพสำหรับใช้ในการทำงาน

การใช้งาน ChatGPT

  • อธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนที่ผมไม่เข้าใจ
  • สรุปเนื้อหาของหัวข้อต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยหาไอเดียใหม่ ๆ สำหรับการทำงาน
  • ช่วยเขียนและแก้ไขเนื้อหา
  • ให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ

จะเห็นได้ว่า การค้นหาบนสองแพลตฟอร์ม แทบไม่มีการทับซ้อนกันเลย เพราะเครื่องมือทั้งสองมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน และตอบโจทย์ความต้องการในการค้นหาที่ต่างกันไป

ผู้คนกำลังค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน AI

ทำไม Google ยังไม่หายไปไหน

ปริมาณการค้นหา

  • การค้นหาผ่าน Google : 8.5 พันล้านครั้งต่อวัน
  • การค้นหาบนทุกแพลตฟอร์ม AI รวมกัน : ประมาณ 2-3 พันล้านครั้งต่อเดือน

ตัวเลขเหล่านี้ห่างกันมาก โดย Google รองรับการค้นหาในหนึ่งวัน มากกว่าทั้งหมดที่ AI ทำได้ในหนึ่งเดือน

ความเหนือชั้นในการค้นหาเชิงพาณิชย์

ผู้คนยังคงเข้าใช้ Google เมื่อพวกเขาต้องการซื้อของ ค้นหาร้านค้าในท้องถิ่น หรือค้นหาข้อมูลสินค้าต่าง ๆ

 การค้นหาเชิงพาณิชย์ที่ยังคงอยู่ใน Google

  • “ซื้อ iPhone 15 Pro”
  • “ร้านพิซซ่าใกล้ฉัน”
  • “เช็กราคาประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด”
  • “เวลาเปิด-ปิดห้าง”
  • “หมายเลขบริการลูกค้า Amazon”

AI ไม่สามารถช่วยให้คุณซื้อพิซซ่า หรือหาเวลาในการเปิด-ปิดร้านค้าได้ แต่ Google ทำได้

ข้อมูลเรียลไทม์

Google สามารถจัดหมวดหมู่ข้อมูลที่อัปเดตใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่ข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนา AI มักจะเก่าไปหลายเดือน ดังนั้น หากคุณต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เช่น ข่าว สภาพอากาศ ราคาหุ้น หรือคะแนนกีฬา Google ก็ยังคงชนะอย่างขาดลอย

สิ่งที่ Google กำลังทำเกี่ยวกับ AI

Google ไม่ได้ละเลย AI เพราะพวกเขากำลังนำมันมาผสมผสานกับผลการค้นหา

ภาพรวมของ AI

ตอนนี้ Google จะแสดงผลสรุปที่สร้างขึ้นโดย AI อยู่เหนือผลการค้นหาทั่วไปสำหรับหลาย ๆ คำค้น

วิธีการทำงานของ AI บน Google

  • คุณค้นหาบางสิ่ง
  • AI ของ Google จะทำการสร้างคำตอบสรุป
  • ผลการค้นหาทั่วไปจะแสดงอยู่ด้านล่างของสรุป AI
  • คุณจะได้รับทั้งคำแนะนำจาก AI และลิงก์จากการค้นหาปกติ

สิ่งนี้ช่วยให้ผู้คนยังคงอยู่ใน Google และขณะเดียวกันก็ได้รับคำตอบที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การผนวกรวมกับ Gemini

Google ได้สร้าง Gemini ผู้ช่วย AI ของตัวเองขึ้นมา และผสานรวมเข้ากับการค้นหาบน Gmail และผลิตภัณฑ์ Google อื่น ๆ

ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : Google มีประวัติการค้นหาของคุณ รวมถึงข้อมูลอีเมล ปฏิทิน และตำแหน่งที่อยู่ของคุณ Google จึงสามารถสร้างคำตอบจาก AI ที่ตรงกับความต้องการได้มากกว่าเครื่องมือ AI บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ 

สิ่งที่ AI สามารถแข่งได้

ต้องบอกว่า แพลตฟอร์ม AI ไม่ได้แข่งขันกับการค้นหาทั้งหมดของ Google แต่แข่งขันกับคำค้นเฉพาะบางประเภท

การค้นหาเพื่อการศึกษาและหาคำตอบ

“วิธีคำนวณดอกเบี้ยทบต้น”

  • Google : แสดงลิงก์ไปยังบทความที่คุณต้องอ่าน
  • ChatGPT : แสดงคำอธิบายพร้อมตัวอย่าง

สำหรับการเรียนรู้และการทำความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องนึง AI มักช่วยคุณได้มากกว่า

ความช่วยเหลือด้านความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์

“ช่วยเขียนอีเมลการตลาดให้หน่อย”

  • Google : แสดงเทมเพลตและบทความเกี่ยวกับการตลาดอีเมล
  • ChatGPT : ช่วยเขียนอีเมลจริง ๆ

AI เก่งในการทำงานที่ต้องมีการโต้ตอบและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งการค้นหาทั่วไปทำไม่ได้

การวิเคราะห์และการสังเคราะห์

“เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการทำงานทางไกล”

  • Google : แสดงบทความต่าง ๆ ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
  • AI : สร้างการวิเคราะห์ที่สมดุล โดยรวมความคิดเห็นจากหลายมุมมองไว้ด้วยกัน

หากคุณต้องการข้อมูลที่ถูกรวบรวมและสังเคราะห์มาแล้ว ไม่ใช่ข้อมูลที่แค่หามานำเสนอ AI ให้คุณค่าในแง่นี้ได้มากกว่า

อนาคตที่แท้จริงของการค้นหา

ผมคิดว่า AI จะไม่มาแทนที่ Google แต่เราจะใช้ทั้งสองเครื่องมือในวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน

สถานการณ์ที่ 1 : การอยู่ร่วมกัน

  • ใช้ Google สำหรับ : การซื้อขาย, การค้นหาเฉพาะที่, เหตุการณ์ปัจจุบัน, การค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการ
  • ใช้ AI สำหรับ : การเรียนรู้, ความช่วยเหลือด้านความคิดสร้างสรรค์, การวิเคราะห์, การอธิบาย, คำแนะนำเชิงกลยุทธ์

การใช้เครื่องมือที่แตกต่างสำหรับความต้องการที่ต่างกัน ดูเป็นอนาคตที่เป็นไปได้มากที่สุด

สถานการณ์ที่ 2 : Google รวมร่างกับ AI

 Google ได้ผสมผสาน AI เข้าไปในระบบค้นหาอย่างดี ทำให้คุณได้รับประโยชน์จากทั้งสองแนวทางในที่เดียว ซึ่งฟีเจอร์ของ AI ในการค้นหาก็เริ่มมีการพัฒนาไปในทิศทางนี้แล้ว คาดว่าจะมีฟีเจอร์ AI เพิ่มเติมบน Google Search ในอนาคต

สถานการณ์ที่ 3 : การเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัย

ผู้ใช้รุ่นใหม่อาจจะชอบการค้นหาผ่าน AI เป็นหลัก ในขณะที่ผู้ใช้รุ่นเก่าจะยังคงใช้ Google แบบดั้งเดิม ซึ่งข้อมูลนี้มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นจริง เพราะบางครั้ง Gen Z ก็ถามคำถามกับ ChatGPT แทนที่จะค้นหาผ่าน Google เหมือนที่เคยทำมาก่อน

สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจอย่างไร

อย่าทิ้งกลยุทธ์ Google

Google ยังคงเป็นแหล่งที่ขับเคลื่อนที่สำคัญในการเข้าชมเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหลาย ๆ แห่ง การทำ SEO แบบดั้งเดิมจึงยังคงสำคัญอยู่เสมอ

สิ่งที่ควรทำต่อไป

  • ปรับปรุงเว็บไซต์ตามหลักการพื้นฐานของ Technical SEO
  • สร้างคอนเทนต์เพื่อไต่อันดับใน Google
  • ทำ Local SEO สำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง
  • พัฒนาหน้าขายสินค้า สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

เพิ่มกลยุทธ์บนแพลตฟอร์ม AI

ธุรกิจต้องเริ่มคิดว่า จะไปปรากฎตัวอยู่บนแพลตฟอร์มได้อย่างไร

 สิ่งที่ต้องพิจารณา

  • คุณจะปรากฏอย่างไร เมื่อผู้คนถาม AI เกี่ยวกับอุตสาหกรรมของคุณ ?
  • คุณมีความเชี่ยวชาญในเรื่องอะไร ที่ AI สามารถนำไปใช้อ้างอิงได้ ?
  • คุณจะสร้างความน่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มการค้นหาทั้งแบบดั้งเดิมและการค้นหาผ่าน AI ได้อย่างไร ?

ให้ความสำคัญกับการมีตัวตนหลายแพลตฟอร์ม

ในอนาคตอาจเริ่มมีช่องทางการค้นหาหลายช่องทาง ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มเดียวที่โดดเด่นอีกต่อไป

แนวทางเชิงกลยุทธ์ :  ธุรกิจต้องเริ่มสร้างความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือ ที่ตอบโจทย์ทั้งการค้นหาผ่าน Google, แพลตฟอร์ม AI, การค้นหาบนโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ ที่อาจมาถึงในอนาคต

พฤติกรรมการค้นหาผ่าน AI และ Google Search

การคาดการณ์ที่ผมไม่เห็นด้วย

“Google จะหายไปเหมือน Yahoo”

  • Yahoo เสื่อมความนิยมเพราะ Google ให้ผลลัพธ์การค้นหาที่ดีกว่า ไม่ใช่เพราะการค้นหากลายเป็นเรื่องล้าสมัย
  • AI ไม่ได้ให้ผลลัพธ์การค้นหาบนเว็บที่ดีกว่า แต่ให้ฟังก์ชันที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

“ทุกคนจะเปลี่ยนไปใช้การค้นหาผ่าน AI”

  • การค้นหาผ่าน AI ต้องใช้ความพยายามมากกว่าการค้นหาผ่าน Google คุณต้องถามคำถามให้ดี และต้องประเมินคำตอบที่ได้รับมา
  • หลายคนยังคงชอบความเรียบง่ายในการพิมพ์คำค้นแล้วคลิกลิงก์

“AI จะสมบูรณ์แบบในทุกอย่าง”

  • AI ก็ทำผิดพลาดได้ เพราะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือ อีกทั้งยังไม่สามารถทำธุรกรรม หรือจองสิ่งต่าง ๆ ได้
  • Google เชื่อมต่อกับระบบที่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้จริง ไม่ใช่แค่การอธิบาย

สิ่งที่น่าจับตา

ความเร็วในการผนวก AI ของ Google

Google จะเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาในผลการค้นหามากแค่ไหน ? และมันทำงานได้ดีแค่ไหน ? หาก Google ผนวก AI เข้าไปในการค้นหาทั่วไปได้สำเร็จ แพลตฟอร์ม AI แบบแยกต่างหาก จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่หนักขึ้น

การพัฒนาแพลตฟอร์ม AI

ChatGPT, Perplexity และอื่น ๆ จะสามารถเพิ่มข้อมูลเรียลไทม์ การค้นหาท้องถิ่น และฟังก์ชันการค้าขายได้หรือไม่ ? หาก AI ทำงานได้เหมือน Google มากขึ้น การแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้น

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้

ผู้คนจะเปลี่ยนพฤติกรรมการค้นหาของพวกเขาในระยะยาวหรือไม่ ? หรือพวกเขาจะใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมกับการค้นหาผ่าน Google ? ข้อมูลในระยะแรกชี้ให้เห็นว่า AI เป็นเหมือนการเสริมมากกว่าการทดแทน แต่สิ่งนี้อาจจะเปลี่ยนไปได้

การเกิดแพลตฟอร์มใหม่

จะมีแพลตฟอร์มการค้นหาใหม่ที่รวมจุดเด่นของการค้นหาทั่วไปและ AI เข้าด้วยกันหรือไม่ ? ถ้าใช่ นี่อาจจะเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดทั้งต่อ Google และแพลตฟอร์ม AI ที่มีอยู่ปัจจุบัน

การคาดการณ์ของผม

การค้นหาผ่าน Google และ AI จะอยู่ร่วมกันในอนาคตอันใกล้

ทำไม Google ยังคงอยู่รอด

  • ฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ และพฤติกรรมการใช้งานที่สม่ำเสมอ
  • การเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์ที่เหนือกว่า
  • ความเป็นผู้นำในการค้นหาผ่านอีคอมเมิร์ซและการค้นหาแบบเฉพาะที่
  • การผนวกฟีเจอร์ AI เข้ากับการค้นหาทั่วไป

ทำไมการค้นหาผ่าน AI ถึงเติบโต

  • ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าสำหรับการอธิบายและการวิเคราะห์
  • การโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น สำหรับคำค้นที่ซับซ้อน
  • ความช่วยเหลือในการสร้างสรรค์และกลยุทธ์ที่ดีขึ้น
  • คนในบางรุ่นชอบการค้นหาที่มีการโต้ตอบ คล้ายกับการสนทนา

ผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด :

ผู้คนจะใช้ Google สำหรับการค้นหาและการซื้อสินค้า และใช้ AI สำหรับการเรียนรู้และการสร้างสรรค์ ซึ่งบางครั้งอาจมีการทับซ้อนกันบ้าง แต่ทั้งสองแพลตฟอร์มตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะสร้างการมองเห็นทั้งในแพลตฟอร์มการค้นหาทั่วไปและแพลตฟอร์ม AI 

เรียนรู้วิธีที่จะประสบความสำเร็จในทั้งการค้นหาทั่วไปและ AI ด้วยคู่มือฉบับสมบูรณ์ของเรา

แชร์บทความนี้