Search Everywhere Optimisation เมื่อการเสิร์ชไม่ได้เกิดแค่บน Google อีกต่อไป

แชร์บทความนี้

Search Everywhere หมายถึงการทำให้เนื้อหาของคุณถูกพบเจอได้ทุกที่ที่คนไปเสิร์ชหาข้อมูล ไม่ใช่แค่บน Google

สัปดาห์ก่อนผมลองถาม ChatGPT เรื่องกลยุทธ์การตลาด และหา Insight ของอุตสาหกรรมบน LinkedIn ถาม Siri และเลื่อนดูวิดีโอสอนบน TikTok 

นั่นคือ 4 Search Engines ในการทำงานเดียว ซึ่งไม่มี Google อยู่ในนั้นเลย

ซึ่งลูกค้าของธุรกิจคุณก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ดังนั้น Search Everywhere หรือการถูกพบได้ในทุกแพลตฟอร์มจึงสำคัญมาก

Table of Contents

ทำไมเรื่องนี้ถึงสร้างความแตกต่างอย่างมาก

SEO แบบเดิมเน้นการติดแรงก์บน Google เพราะมันเคยเป็นที่ๆ เดียวที่คนไปค้นหาในเรื่องที่อยากรู้

แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

ที่ๆ คนไปเสิร์ชหาข้อมูลตอนนี้:

  • Google สำหรับการวิจัยแบบครอบคลุม
  • ChatGPT สำหรับการหาคำอธิบายแบบเร็วๆ
  • LinkedIn สำหรับการหา Insight แบบมืออาชีพ
  • TikTok สำหรับการหาวิดีโอสอน
  • YouTube สำหรับการหา Tutorial แบบละเอียด
  • Reddit สำหรับการหาความเห็นแบบตรงไปตรงมา
  • Voice Assistants สำหรับการหาคำตอบทันที
  • Industry Forums สำหรับการหาหัวข้อที่ผู้เชี่ยวชาญคุยกัน

แต่ละแพลตฟอร์มมีผู้ใช้ที่แตกต่างกัน มองหาสิ่งที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราควรต้องถูกค้นพบได้ในทุกที่ที่ลูกค้าเป้าหมายของเราไปเสิร์ชหาข้อมูล

เปรียบเทียบ Search Everywhere กับ SEO แบบเดิม

SEO แบบเดิม What You Do Now
เน้นแค่ Google ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายเลือกใช้
ตั้งเป้าจาก Keyword จับคู่ Intent ข้ามช่องทาง
เน้น Website Traffic การรับรู้แบรนด์ทุกที่
กลยุทธ์สำหรับแพลตฟอร์มเดียว สร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญหลายช่องทาง
เน้น Ranking การมองเห็นข้ามแพลตฟอร์ม

เป้าหมายเปลี่ยนไป แทนที่จะเน้นการติดอันดับ #1 บน Google เราต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในทุกที่ที่คนไปหาข้อมูลเรื่องหัวข้อเรา

องค์ประกอบหลัก

องค์ประกอบที่ 1: รากฐาน Traditional Search

เราจำเป็นต้องมี Google Presence ที่แข็งแกร่ง เพราะ Traffic ของเว็บไซต์ส่วนใหญ่ยังมาจากการค้นหาแบบเดิม

สิ่งที่ต้องทำต่อไป:

  • Technical SEO พื้นฐาน
  • สร้างเนื้อหาคุณภาพ
  • Local Search สำหรับธุรกิจ
  • การออกแบบที่เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ
  • การโหลดหน้าเว็บที่รวดเร็ว

นี่คือรากฐานที่สำคัญเพื่อการไปต่อในสเต็ปถัดไป 

องค์ประกอบที่ 2: การถูกมองเห็นบน AI Platform

AI Engines อย่าง ChatGPT และ Perplexity ต้องการแนวทางเนื้อหาที่แตกต่าง

สิ่งที่ได้ผลกับ AI:

  • คำตอบตรงสำหรับคำถามทั่วไป
  • ข้อมูลที่มีโครงสร้างดีพร้อมหัวข้อชัดเจน
  • ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญพร้อมข้อมูลสนับสนุน
  • เนื้อหาล่าสุดพร้อมวันที่อัปเดต
  • ข้อความและข้อเท็จจริงที่อ้างอิงได้

 

องค์ประกอบที่ 3: การถูกค้นพบบน Social Platform

คนเสิร์ชค้นหาข้อมูลบนแพลตฟอร์ม Social มากกว่าที่เราคิด

Linkedin Search สำหรับหัวข้อเรื่องความเป็นมืออาชีพและ Insight ธุรกิจ
Tiktok Search สำหรับ Tutorial และความบันเทิง
Youtube Search สำหรับคำอธิบายแบบละเอียดและ Demo ทดลอง
Reddit Search สำหรับความเห็นที่ตรงไปตรงมา และหัวข้อสนทนา

แต่ละแพลตฟอร์มให้รางวัลกับรูปแบบเนื้อหาและสไตล์ที่ต่างกัน

องค์ประกอบที่ 4: Voice และ Visual Search

Voice Assistants และ Image Search สร้างโอกาสการค้นพบใหม่

Voice Search ต้องการคำตอบในรูปแบบการสนทนา
Visual Search ต้องการรูปภาพที่มีประสิทธิภาพ พร้อมคำอธิบายที่เหมาะสม
Local Voice Search สำหรับคำถาม “ใกล้ฉัน” และข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ

กลยุทธ์เฉพาะแพลตฟอร์ม

แต่ละแพลตฟอร์มทำงานแตกต่างกัน สิ่งที่ทำให้คุณถูกพบใน LinkedIn จะไม่ได้ผลใน TikTok

กลยุทธ์ Google Search

โฟกัส: รากฐาน SEO แบบเดิม
เนื้อหา: คู่มือแบบยาวและบทความที่ครอบคลุม
รูปแบบ: หน้าที่มีโครงสร้างดี พร้อมการตั้งค่าทางเทคนิคที่เหมาะสม
ผู้ใช้: คนที่ทำการวิจัยและมองหาข้อมูลแบบละเอียด

กลยุทธ์ AI Answer Engine

โฟกัส: การถูกอ้างอิงในคำตอบจาก AI
เนื้อหา: ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญและข้อเท็จจริงที่อ้างอิงได้
รูปแบบ: คำตอบที่ชัดเจนพร้อมหลักฐานสนับสนุน
ผู้ใช้: คนที่ต้องการคำตอบแบบรวดเร็ว

กลยุทธ์ LinkedIn Search

โฟกัส: การเป็นผู้นำทางความคิดเชิงมืออาชีพ
เนื้อหา: ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้น และคำแนะนำทางธุรกิจ
รูปแบบ: โพสต์เชิงมืออาชีพและบทความแบบละเอียด
ผู้ใช้: เหล่ามืออาชีพจากธุรกิจต่างๆ และผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในองค์กร

กลยุทธ์ YouTube Search

โฟกัส: การถูกค้นพบของเนื้อหาประเภทวิดีโอ
เนื้อหา: Tutorial การศึกษาและการสาธิต
รูปแบบ: ชื่อวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ พร้อมคำอธิบาย และ Transcript
ผู้ใช้: คนที่ชอบการเรียนรู้ผ่านรูปภาพ และคำแนะนำทีละขั้นตอน

ผมพบว่าธุรกิจส่วนใหญ่พยายามใช้เนื้อหาเดียวกันทุกที่ ซึ่งนั่นคือความผิดพลาด เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีความคาดหวังจากผู้ใช้และอัลกอริทึมที่แตกต่างกัน

สร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญข้ามแพลตฟอร์ม

ความเชี่ยวชาญที่สม่ำเสมอ

ข้อความหลักของเราควรสม่ำเสมอแม้ว่ารูปแบบเนื้อหาจะเปลี่ยนไป

ตัวอย่าง: ถ้าคุณเป็นที่ปรึกษาการตลาด

ความเชี่ยวชาญเดียวกัน ต้องนำเสนอต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม

การดัดแปลงเนื้อหา

ควรเอาข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุดของคุณมาดัดแปลงสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม

ข้อมูลเชิงลึกกลยุทธ์อันหนึ่งสามารถดัดแปลงได้อีกมากมาย เช่น

  • บล็อกแบบยาวเรื่อง Google search
  • เทคนิคสั้นๆ สำหรับ LinkedIn
  • วิดีโอ Tutorial สำหรับ YouTube
  • คำตอบที่ชัดเจนสำหรับ AI engines
  • หัวข้อสนทนาสำหรับ Reddit

การเชื่อมโยงข้ามแพลตฟอร์ม

เชื่อมต่อการมีอยู่ของเราข้ามแพลตฟอร์มโดยไม่ให้ดูเป็น Spam

การเชื่อมต่ออย่างเป็นธรรมชาติ:

  • ลิงก์ระหว่างเว็บไซต์กับโปรไฟล์บน Social
  • อ้างอิงเนื้อหาอื่นในโพสต์แพลตฟอร์ม
  • สร้างซีรีส์เนื้อหาที่ครอบคลุมหลายช่องทาง
  • สร้าง Branding ที่สม่ำเสมอในทุกแพลตฟอร์ม

กลยุทธ์การดำเนินการ

ระยะที่ 1: รากฐาน (เดือนที่ 1)

ตรวจสอบสิ่งที่มีในปัจจุบัน
เรามีการมองเห็นได้ที่ไหนบ้างแล้ว? อะไรที่ได้ผล? แพลตฟอร์มไหนที่เราขาดไปเลย?

ระบุพฤติกรรมการค้นหาของผู้ชม
พวกเขาไปไหนหาข้อมูลประเภทต่างๆ? คำแนะนำมืออาชีพ vs คำตอบเร็วๆ vs ความบันเทิง?

เลือกแพลตฟอร์มที่สำคัญ
เริ่มด้วย 3-4 แพลตฟอร์มที่ผู้ชมเราใช้งานมากที่สุด อย่าพยายามอยู่ทุกที่พร้อมกัน

ระยะที่ 2: การดัดแปลงเนื้อหา (เดือนที่ 2-3)

นำเนื้อหาที่ดีที่สุดมาใช้ใหม่
เอาโพสต์บล็อกที่ทำได้ดีที่สุดมาดัดแปลงสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มสำคัญ

สร้างเนื้อหาเฉพาะแพลตฟอร์ม
เนื้อหาบางอย่างใช้ได้แค่ในแพลตฟอร์มเฉพาะ บทความ LinkedIn ต่างจากวิดีโอ TikTok

ทดสอบและวัดผล
ติดตามว่ารูปแบบเนื้อหาไหนทำได้ดีที่สุดในแต่ละแพลตฟอร์ม

ระยะที่ 3: การสร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (เดือนที่ 4-6)

สร้างการเป็นผู้นำทางความคิด
กลายเป็นที่รู้จักสำหรับความเชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละแพลตฟอร์ม

สร้างการมีส่วนร่วม
ตอบคอมเมนต์ เข้าร่วมการสนทนา สร้างบทสนทนารอบหัวข้อของเรา

ติดตามการกล่าวถึงแบรนด์
ติดตามว่าแบรนด์และเนื้อหาของเราถูกกล่าวถึงที่ไหนบ้างในแต่ละแพลตฟอร์ม

ข้อผิดพลาดที่เจอบ่อย

ข้อผิดพลาดที่ 1: เนื้อหาเหมือนกันทุกที่

ถ้าเราโพสต์เนื้อหาเหมือนกันในทุกแพลตฟอร์ม แปลว่ามันจะไม่สร้างผลลัพท์

แต่ละแพลตฟอร์มมีความคาดหวังของผู้ใช้ที่แตกต่างไป จึงต้องปรับเนื้อหาให้เหมาะสม

ข้อผิดพลาดที่ 2: กระจายตัวมากเกินไป

หากคุณกระจายเนื้อหาไปมากกว่า 10+ แพลตฟอร์ม นั่นมักส่งผลให้ประสิทธิภาพด้อยลงในทุกที่

การที่คุณโฟกัสเฉพาะ 3-4 แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องมากให้ผลที่ดีกว่ามาก

ข้อผิดพลาดที่ 3: เพิกเฉยต่อวัฒนธรรมของแพลตฟอร์มนั้นๆ

แต่ละแพลตฟอร์มมีบรรยากาศ สไตล์ และความคาดหวังของตัวเอง เช่น เนื้อหา LinkedIn ก็ย่อมต่างจากเนื้อหาบน Reddit

ใช้เวลาทำความเข้าใจวัฒนธรรมแพลตฟอร์มนั้นๆ ก่อนโพสต์จริง

ข้อผิดพลาดที่ 4: ไม่มีกลยุทธ์ข้ามแพลตฟอร์ม

การปฏิบัติต่อแต่ละแพลตฟอร์มแยกกันสิ้นเชิงทำให้พลาดโอกาสในการเป็นผู้เชี่ยวชาญ

แพลตฟอร์มของคุณควรส่งเสริมกันและกัน

วัดความสำเร็จ

เมตริกข้ามแพลตฟอร์ม

ตัวบ่งชี้การมองเห็น:

สัญญาณความเป็นผู้เชี่ยวชาญ:

  • อัตราการมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มต่างๆ
  • การอ้างอิงและการอ้างอิงจากแหล่งอื่น
  • การยอมรับในอุตสาหกรรมและโอกาสพูด
  • คุณภาพการเติบโตผู้ชมข้ามช่องทาง

การติดตามเฉพาะแพลตฟอร์ม

Traditional Search: อันดับ, Organic Traffic, Featured Snippets
AI Platforms: การอ้างอิง, การกล่าวถึงแบรนด์, ความครอบคลุมคำถาม
Social Platforms: การมีส่วนร่วม, การเข้าถึง, คุณภาพผู้ติดตาม
Voice Search: การมองเห็นในระดับท้องถิ่น, การจับ Featured Snippet

เทรนด์อนาคต

พฤติกรรมการค้นหานั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เปิดตัวเป็นประจำ

สิ่งที่ผมติดตาม:

  • AI Assistants เฉพาะอุตสาหกรรมสำหรับการค้นหาเฉพาะทาง
  • การเติบโตของ Visual Search ข้ามแพลตฟอร์ม
  • การรวม Voice Search ในแอปมากขึ้น
  • คำแนะนำ AI ส่วนตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้

การอยู่ได้ในทุกสถานการณ์: เน้นการสร้างความเชี่ยวชาญแท้จริงมากกว่าเทคนิคเฉพาะแพลตฟอร์ม เนื้อหาคุณภาพและความเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงแปลข้ามแพลตฟอร์มได้ดีกว่าแนวทางเชิงกลยุทธ์

เริ่มต้น

สัปดาห์นี้: ตรวจสอบว่าผู้ชมของเราค้นหาข้อมูลเรื่องหัวข้อของเราที่ไหน

สัปดาห์หน้า: เลือก 2-3 แพลตฟอร์มสำคัญนอกจาก Google

เดือนที่ 1: สร้างเนื้อหาที่ดัดแปลงสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มสำคัญ

เดือนที่ 2: เริ่มสร้างการมีอยู่และการมีส่วนร่วมที่สม่ำเสมอ

เดือนที่ 3: วัดสิ่งที่ได้ผลและเพิ่มการลงทุนในแนวทางที่สำเร็จ

แนะนำให้คุณเริ่มจากแพลตฟอร์มที่ลูกค้าของคุณใช้งานอยู่แล้ว และเริ่มต้นสร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญจากตรงนั่น แล้วขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นเพิ่มเติม

Search Everywhere ทำให้ทุกที่ที่คนไปเสิร์ชหาข้อมูลได้พบกับความเชี่ยวชาญของคุณ

ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ของคุณใช้เวลาไป Google ให้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มต่างๆ

เรียนรู้เทคนิคเพื่อให้เกิดการค้นเจอในทุกแพลตฟอร์มด้วยคู่มือฉบับครบจบของเรา

แชร์บทความนี้