Mobile First คืออะไร แนวคิดการตลาดยุคใหม่ที่สำคัญต่อ SEO

สมัยนี้ อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟน ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามาก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นปัจจัยที่ห้าเลยทีเดียว เชื่อว่ากิจกรรมแรกหลังตื่นนอนของหลาย ๆ คนก็คือการหยิบมือถือขึ้นมาเช็กว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์บ้างในขณะที่เรานอนหลับไป หรือแม้แต่ตอนกินข้าว เข้าห้องน้ำ ขึ้นรถสาธารณะ โทรศัพท์ก็เป็นสิ่งที่จะอยู่ในมือของผู้คนตลอดเวลาที่กล่าวมา

ในการเล่นมือถือ ผู้ใช้งานมักจะเข้าโซเชียลมีเดียเพื่อเสพข่าวสาร หาความเพลิดเพลิน ตลอดจนท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ ดังนั้น เว็บไซต์สมัยใหม่จึงควรออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานบนมือถือด้วย โดยสมัยก่อน เราอาจจะยึดการแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนหันมาใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่กันมากขึ้นแล้ว เราก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การแสดงผลหน้าจอดูไม่เข้ากับอุปกรณ์ เพราะขนาดหน้าจอคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์ค่อนข้างต่างกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานที่เข้ามาเกิดความรู้สึกไม่ประทับใจจนกดออกไปได้

บทความนี้จะมาพูดถึงเทร็นด์ “Mobile First” ให้มากขึ้นว่าคืออะไร และแนวคิดการตลาดแบบใหม่นี้มีความสำคัญต่อการทำ SEO อย่างไร

Mobile Web Experience

Mobile First คืออะไร

Mobile First คือ การที่โทรศัพท์มือถือเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าแทบจะทุกกิจกรรมเราต้องพึ่งพาสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต การใช้งานโซเชียลมีเดีย การคุยแชต การติดตามข่าวสาร การอ่านบทความ การดูหนัง ฟังเพลง การถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ อีกทั้งมือถือยังเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกหลายอย่าง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นยุคที่คนใช้มือถือกันมากกว่าคอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์เสียอีก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของเราได้แทบทุกอย่าง ส่งผลให้ธุรกิจสมัยใหม่ต้องหันมาให้ความสำคัญกับการทำการตลาดแบบ Mobile First กันมากขึ้น

 

การตลาดแบบ Mobile First สำคัญต่อ SEO อย่างไร

เนื่องจากในอดีต เราใช้คอมพิวเตอร์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยอย่างทุกวันนี้ ทำให้เหล่านักธุรกิจเคยชินกับการทำการตลาดที่เน้นการแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ไม่ได้ให้ความใส่ใจกับการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือมากนัก เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป คนหันมาท่องเว็บฯ บนมือถือกันมากขึ้น สิ่งที่เคยแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับบนหน้าจอมือถือ ด้วยขนาดหน้าจอ รวมไปถึงรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน และปัญหาที่ตามมา คือ เว็บไซต์ไม่ได้มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน เช่น หน้าจอไม่สมส่วน ตัวอักษรตกบรรทัดอย่างไม่สมเหตุสมผล ขนาดฟอนต์ใหญ่เกินไป เป็นต้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น Google จึงได้ออกกฎเกณฑ์เรื่อง Mobile First Index ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการคัดเลือกเว็บไซต์ไปจัดอันดับ กล่าวคือ เว็บไซต์ไหนไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบนมือถือด้วย เว็บไซต์นั้นจะถูกอัลกอริทึมมองว่าไม่มีคุณภาพ ไม่สามารถมอบประสบการณ์แบบครอบคลุมแก่ผู้ใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือได้ จึงจะไม่ถูกนำมาจัดอันดับ หรือถูกลดอันดับไปจากหน้าผลการค้นหา ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ใดสามารถทำให้การแสดงผลมีประสิทธิภาพทั้งบนเดสก์ท็อปและบนมือถือได้ Google Bot ก็จะมองว่าเว็บไซต์ดังกล่าวปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เหมาะสมแก่การนำมาจัดอันดับ แต่จะได้อยู่อันดับไหนนั้นก็ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยด้าน SEO อื่น ๆ อีกที

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ SEO ได้ที่ – 10 วิธีทำ SEO ให้ติดหน้าแรก 

สรุปได้ว่า โครงสร้างของเว็บไซต์ที่ดี จะต้องทำให้มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile-Friendly) ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชันเดสก์ท็อปมากที่สุด เพื่อให้การแสดงผลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน อันจะส่งผลต่ออันดับ SEO

ออกแบบเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับยุค Mobile First

เทคนิคการทำเว็บไซต์แบบ Mobile First

คำนึงถึงประสบการณ์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับเป็นหลัก

ลองคิดว่า หากเราเป็นผู้ใช้งานมือถือที่เข้าไปในเว็บไซต์หนึ่ง ๆ เพราะต้องการจะหาข้อมูลอะไรบางอย่าง แต่พอเปิดเข้าไปแล้วพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวหน้าตาแปลก ๆ เช่น ปุ่มกดใหญ่เกินไป ตัวหนังสือไม่สม่ำเสมอ หรือองค์ประกอบต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เราจะทำอย่างไรต่อไป

แน่นอนว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนเลือกทำก็คงหนีไม่พ้นการกดออก เพราะเดี๋ยวนี้เรามีเว็บไซต์มากมายให้เลือกเข้าไปอ่าน ไม่จำเป็นต้องง้อเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง นั่นหมายความว่า หากเราไม่สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งานได้ ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาจะออกจากเว็บไซต์เราแล้วไปเว็บไซต์คู่แข่งสูง ดังนั้น ในการออกแบบเว็บไซต์ ควรคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้เป็นหลัก ลองมองตัวเองเป็นลูกค้าดูว่า หากเราเข้ามาในเว็บไซต์นี้แล้ว เราต้องการจะเห็นอะไรบ้าง การแสดงผลบนเดสก์ท็อปกับบนมือถือควรแตกต่างกันอย่างไร หรือจ้าง UX/UI Designer เพื่อมาดูแลส่วนนี้โดยเฉพาะ

ใช้ URL ที่เหมือนกันทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ

ในอดีต จะมีการแบ่งแยก URL ระหว่างบนเดสก์ท็อปกับบนมือถือ โดยหากเราเปิดเว็บไซต์ใด ๆ บนมือถือ ใน URL มักจะขึ้นต้นด้วยตัว m ซึ่งย่อมาจาก Mobile แต่ปัจจุบัน Google ออกกฎใหม่มาแล้วว่าไม่ควรใช้ URL แยก เพราะจะทำให้ยากต่อการพัฒนาเว็บไซต์ในระบบหลังบ้าน รวมถึงส่งผลกระทบต่อการทำ Backlink อันเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO ด้วย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Backlink ได้ที่ – รู้จัก BACKLINKS เพื่อการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

ปรับปรุง Page Speed ให้หน้าเว็บฯ โหลดเร็วขึ้น

Page Speed คืออีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการทำ SEO มาก เว็บไซต์ไหนที่โหลดช้า Google จะมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ เพราะความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ถือเป็นประสบการณ์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับเช่นกัน ดังนั้น เมื่อทำเว็บไซต์ให้รองรับอุปกรณ์มือถือแล้ว อย่าลืมปรับปรุง Page Speed ให้หน้าเว็บฯ โหลดเร็วขึ้นด้วย ไม่เช่นนั้น หากลูกค้าเข้ามาแล้วหน้าเว็บฯ เราเอาแต่หมุนติ้ว เขาก็อาจจะขี้เกียจรอแล้วไปเข้าเว็บไซต์อื่นแทนได้ เพราะคนสมัยใหม่มีพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ค่อนข้างเร่งรีบ

ทั้งนี้ องค์ประกอบที่มีส่วนในการทำให้หน้าเว็บฯ โหลดเร็วหรือช้า อาจประกอบไปด้วยจำนวนภาพหรือวิดีโอที่อยู่บนหน้าเพจนั้น ๆ หากไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไปก็จะทำให้การแสดงผลใช้ระยะเวลานานขึ้น แนะนำให้ใช้เครื่องมือบีบอัดรูปภาพ หรือไฟล์ภาพ WebP แทน และลดขนาดโคดที่ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ หรือใช้โคดชุดเดียวกันทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือถือ

ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย

แน่นอนว่าความสวยงามของเว็บไซต์ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับธุรกิจของเรา แต่ต้องอย่าลืมให้ความสำคัญกับความยาก-ง่ายในการใช้งานด้วย เพราะต่อให้เว็บไซต์หน้าตาดูดีแค่ไหน ถ้าเข้าไปแล้วใช้งานยาก หาปุ่มที่ต้องการไม่เจอ การจัดเรียงหน้าเพจมีความสะเปะสะปะ ร้อยทั้งร้อยก็คงไม่อยากเข้าไปใช้งานเว็บไซต์นั้นอีก ยิ่งพอมาอยู่บนมือถือด้วยแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก ๆ ด้วยขนาดหน้าจอมือถือจะเล็กกว่าเดสก์ท็อปค่อนข้างเยอะ ทำให้ความสะดวกสบายหลาย ๆ อย่างที่เคยมีตอนใช้งานบนเดสก์ท็อปลดน้อยลง ดังนั้น การทำเว็บไซต์แบบ Mobile First จึงต้องเน้นให้มีความง่ายต่อการใช้งานให้ได้มากที่สุด เช่น จัดวางหัวข้อ รูปภาพ ปุ่ม CTA ต่าง ๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มองหาได้ง่าย ซึ่งหากเราทำได้ดี ก็จะส่งผลต่อยอดคลิก (Click Rate) ที่เพิ่มขึ้น อันจะนำไปสู่อันดับ SEO ที่ดีกว่าเดิมด้วย

 

Mobile First เทร็นด์ยุคใหม่ที่นักการตลาดห้ามมองข้าม

เนื่องจาก Mobile First คือ ยุคที่โทรศัพท์มือถือได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา และพฤติกรรมของผู้บริโภคเวลาใช้มือถือก็จะแตกต่างจากเวลาใช้คอมพิวเตอร์ด้วย ดังนั้น ในการทำการตลาด เราจึงต้องใส่ใจว่าเทคนิคแบบใดเหมาะสมกับอุปกรณ์ชนิดไหน โดยก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ใช้งานบนมือถือต้องการอะไร ชอบค้นหาสิ่งไหน ซึ่งส่วนมากแล้ว ผู้ที่ค้นหาบางสิ่งผ่านโทรศัพท์จะเป็นผู้ที่ต้องการคำตอบแบบทันทีทันใด ในขณะที่ผู้ที่ค้นหาบนคอมพิวเตอร์ มักจะเป็นผู้ที่ต้องการข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ยังไม่ได้คิดจะซื้อทันที สิ่งที่เราต้องทำจึงเป็นการทำให้ฟังก์ชันทุกอย่างบนเว็บไซต์สามารถใช้งานได้ง่ายบนมือถือมากที่สุด เช่น ปุ่มกดลงตะกร้า ปุ่มชำระเงิน เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อให้มากขึ้น ถ้าผู้บริโภคเข้ามาแล้วหาปุ่มเหล่านี้ไม่เจอ หรือรู้สึกว่าใช้ยาก ก็มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกรำคาญแล้วออกไปใช้งานเว็บไซต์คู่แข่งแทน

หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่กำลังมองหาผู้ช่วยดูแลประสิทธิภาพโดยรวมของเว็บไซต์ Primal Digital Agency เป็นบริษัทรับทำการตลาด ที่มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คน พร้อมช่วยให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณดูโดดเด่นกว่าที่เคย ติดต่อเราได้เลยวันนี้