สูตรลัด AEO ให้คอนเทนต์คุณถูกอ้างอิงบน AI Search Engines
Answer Engine Optimisation คือการเตรียมเนื้อหาให้ AI Search Engines อย่าง ChatGPT, Perplexity และ Microsoft Copilot นำไปอ้างอิงได้
ลองคิดดูนะ Google จะแสดงลิสต์เว็บไซต์ให้เราเข้าไปกดเลือกอ่านเอง แต่ AI engines จะตอบคำถามให้ได้เลย แล้วยังบอกด้วยว่าแหล่งข้อมูลมาจากที่ไหน
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือทำให้เว็บไซต์ของเราถูกเลือกใช้เป็นแหล่งข้อมูลให้ AI เลือกอ้างอิง
Table of Contents
Answer Engines คืออะไรกันแน่
Answer Engines ทำงานคนละแบบกับ Google ที่เราคุ้นเคย เราถามคำถาม มันตอบให้ทันที ไม่ต้องไปคลิกอะไรเพิ่ม
AI รายใหญ่ที่คนทั้งโลกเลือกใช้ในตอนนี้:
ChatGPT – AI ตัวแรกที่คนส่วนใหญ่รู้จัก
Perplexity – ทำมาเพื่อการค้นหาโดยเฉพาะ มีแหล่งข้อมูลแบบเรียลไทม์
Microsoft Copilot – AI ของ Bing ที่มากับ Windows และ Office
Google AI Overviews – คำตอบ AI ที่ Google แสดงก่อนผลค้นหาปกติ
Claude – ขึ้นชื่อรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและเป็นประโยชน์
Meta AI – AI ของ Facebook ที่อยู่ในแอปต่างๆ
Gemini – AI รุ่นใหม่ของ Google
ในแต่ละเดือนมีคนทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคนใช้เครื่องมือ AI เหล่านี้ และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเนื้อหาของเว็บไซต์เราไม่ถูกเลือกให้แสดงขึ้นมาเวลาคนถาม AI โดยเฉพาะในเรื่องที่เราเชี่ยวชาญ แสดงว่าเราพลาดโอกาสใหญ่ไปแล้ว
AI Engines เลือกแหล่งข้อมูลยังไง
ผมติดตามดูมาสักพักว่าอะไรได้ถูกอ้างอิง อะไรถูกข้าม เนื้อหาที่ AI Engines เลือกไปใช้มักมีลักษณะแบบนี้
สิ่งที่ AI ชอบ:
- ตอบคำถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
- โครงสร้างชัดเจน อ่านง่าย สแกนได้เร็ว
- มีข้อมูลที่เช็คได้ มีหลักฐาน
- มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- ข้อมูลสดใหม่ มีวันที่กำกับ
สิ่งที่ AI ไม่ชอบ:
- เนื้อหาคลุมเครือ พูดกว้างๆ
- เว็บโหลดช้า หรือพัง
- ข้อความยาวๆ ที่หาประเด็นไม่เจอ
- ไม่มีแหล่งที่มา
- ข้อมูลล้าหลัง
AI Engines เหมือนคนที่อ่านหนังสือเร็ว แล้วมองหาข้อมูลที่เอาไปอ้างอิงได้ เราเลยต้องทำให้อ่านง่าย
AEO ต่างจาก SEO ปกติอย่างไรบ้าง
SEO แบบเดิม | AEO |
ทำให้เว็บติดอันดับ 1 | ทำให้เนื้อหาถูกอ้างอิง |
ดึงคนมาคลิกเว็บ | สร้างการรู้จักแบรนด์ |
เน้นคีย์เวิร์ด | เน้นการตอบคำถาม |
วัดจำนวนคนเข้าเว็บ | วัดจำนวนครั้งที่ถูกอ้างอิง |
ที่น่าสนใจคือ เว็บที่มีคนเข้าแค่ 100 คนต่อเดือน แต่มีโครงสร้างดี อาจถูกอ้างอิงถึง 500+ ครั้ง ในขณะที่เว็บดังแต่เนื้อหายุ่งเหยิง อาจไม่ถูกอ้างอิงถึงเลย
Traffic อาจไม่ได้วัดผลอะไรได้มาก แต่คุณภาพเนื้อหาต่างหากที่ให้ผลลัพท์
ควรเน้นแพลตฟอร์มไหน
AI Engine แต่ละตัวชอบสไตล์เนื้อหาไม่เหมือนกัน จึงต้องเลือกตัวที่เข้ากับกลุ่มลูกค้าเรา
ChatGPT เหมาะกับธุรกิจไหน
บริษัท B2B และธุรกิจบริการมืออาชีพ
คนถาม ChatGPT เรื่องคำแนะนำธุรกิจ กลยุทธ์ การวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่ง ChatGPT มักจะอ้างอิงจากเนื้อหาเหล่านี้
- รายงานวิจัยและกรณีศึกษา
- ความเห็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประวัติชัดเจน
- การอธิบายที่ละเอียดพร้อมข้อมูลสนับสนุน
- มุมมองจากมืออาชีพเรื่องเทรนด์ต่างๆ
Perplexity ชอบเนื้อหาแบบไหน
แบรนด์สินค้าและคำแนะนำในชีวิตจริง
คนใช้ Perplexity ต้องการความช่วยเหลือที่นำไปใช้ได้จริง จึงมักจะอ้างอิงจากเนื้อหาเหล่านี้
- รีวิวจากผู้ใช้และประสบการณ์จริง
- คู่มือการทำที่มีขั้นตอนชัดเจน
- การเปรียบเทียบสินค้าและคำแนะนำ
- เรื่องราวว่าอะไรได้ผลจริง
Microsoft Copilot ชอบเนื้อหาแบบไหน
เครื่องมือธุรกิจและเนื้อหาสำหรับองค์กร
Copilot อยู่ในโปรแกรมทำงาน จึงมักจะอ้างอิงจากเนื้อหาเหล่านี้
- โซลูชันธุรกิจและทิปส์เพิ่มประสิทธิภาพ
- คู่มือเทคนิคและการใช้งาน
- การวิเคราะห์ตลาดและข้อมูลอุตสาหกรรม
- เนื้อหาพัฒนาทักษะการทำงาน
ไม่จำเป็นต้องเลือกแค่อันเดียว แต่เริ่มจากที่ลูกค้าเราใช้มากที่สุดจะดีกว่า
ทำยังไงให้เนื้อหาเราน่าอ้างอิง
กลยุทธ์ที่ 1: ให้คำตอบทันที
วางคำตอบไว้ข้างบนสุด อย่าให้ AI ต้องไปหาเอา
ตัวอย่างที่แย่: “การตลาดเนื้อหาได้กลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นในยุคดิจิทัล หลายธุรกิจประสบปัญหา…”
ตัวอย่างที่ดี: “Content marketing สร้าง leads ได้มากกว่าโฆษณาปกติ 3 เท่า ขณะที่ใช้ต้นทุนน้อยกว่า 62% ตามงานวิจัยของ HubSpot ปี 2024”
ซึ่งแบบหลังให้ข้อมูลที่ชัดเจน AI สามารถเอาไปอ้างอิงได้เลย
กลยุทธ์ที่ 2: จัดรูปแบบให้อ่านง่าย
AI Engines ชอบเนื้อหาที่แยกแยะได้เร็ว
แบบที่ได้ผล:
- ลิสต์หมายเลขสำหรับขั้นตอน
- bullet points สำหรับจุดสำคัญ
- ตารางเปรียบเทียบสำหรับตัวเลือกต่างๆ
- ส่วน Q&A สำหรับคำถามที่ถามบ่อย
- หัวข้อชัดเจนที่จัดระเบียบเนื้อหา
ตัวอย่างโครงสร้างที่ได้รับการอ้างอิง:
Content Marketing คืออะไร?
การทำ Content Marketing คือการสร้างคอนเทนต์คุณภาพเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดขาย
ประโยชน์ของการทำ Content Marketing
– ประหยัดงบได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิม
– ได้ Leads มากกว่า 3 เท่า/งบ 1 ดอลลาร์ ในการทำการตลาด
– สร้างสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มลูกค้า
กลยุทธ์ที่ 3: แสดงความน่าเชื่อถือ
AI Engines ชอบอ้างอิงแหล่งที่ดูน่าไว้ใจ
ปัจจัยที่สร้างความน่าเชื่อถือ
- มีข้อมูลผู้เขียนและประสบการณ์
- มีประวัติบริษัท
- มีการอ้างอิงงานวิจัยและข้อมูล
- มีตัวอย่างจริงและกรณีศึกษา
- ระบุวันที่เผยแพร่และอัปเดต
ไม่ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังก็ได้ แค่ต้องแสดงให้เห็นว่าเรารู้เรื่องที่พูดเป็นอย่างดี
ปัจจัยทางเทคนิคที่ต้องรู้
AI Engines ไม่สามารถมองเห็นเนื้อหาบนเว็บที่เขียนด้วย JavaScript ซึ่งหลายๆ เว็บเจอปัญหาตรงนี้
สิ่งที่ต้องมี
- เนื้อหาที่สามารถแสดงใน HTML ปกติ
- โหลดเร็ว
- ใช้ Tag หัวข้อถูกต้อง (H1, H2, H3)
- วันที่อัปเดตในบทความ
- Schema Markup ช่วยให้ AI เข้าใจโครงสร้าง
WordPress ส่วนใหญ่จัดการเรื่องนี้ให้แล้ว แต่ถ้าคุณมี Developer เอง ต้องเช็คให้แน่ใจว่าเนื้อหาโหลดได้โดยไม่ต้องพึ่ง JavaScript
ข้อผิดพลาดที่เจอบ่อย
ข้อผิดพลาดที่ 1: พยายามโกงระบบ
หลายคนพยายามยัดคีย์เวิร์ดเข้าไปเยอะๆ หวังว่าจะทำให้ AI เอาเนื้อหาไปอ้างอิง แต่ระบบ AI ฉลาดกว่านั้น
และให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์จริงๆ มากกว่า
ข้อผิดพลาดที่ 2: อยากครอบจักรวาล
AI Engine แต่ละตัวทำงานไม่เหมือนกัน ถ้าอยากให้ทุกตัวชอบพร้อมกัน มักจะจบด้วยไม่มีตัวไหนชอบเลย
เลือกแพลตฟอร์มหลักซักตัว เก่งตัวนั้นก่อน
ข้อผิดพลาดที่ 3: ไม่ใส่ใจโครงสร้าง
ข้อความยาวๆ ไม่มีจุดชัดเจน ไม่ค่อยได้รับการอ้างอิง AI engines ต้องการข้อมูลที่อ่านง่ายและเป็นระเบียบ
แบ่งเนื้อหาให้สั้น ใส่หัวข้อ ทำให้จุดสำคัญหาง่าย
ข้อผิดพลาดที่ 4: ลืมอัปเดตเนื้อหา
AI Engines ชอบข้อมูลใหม่ โพสต์เก่าจากปี 2019 คงไม่ได้รับการอ้างอิง แม้จะเขียนดีก็ตาม
ใส่วันที่อัปเดตในเนื้อหาดีๆ รีเฟรชตัวอย่างและข้อมูลทุกปี
วัดผลยังไง
ความสำเร็จ AEO ไม่เหมือน SEO ปกติ
ที่ควรติดตาม:
- AI Engines อ้างอิงเนื้อหาเราบ่อยแค่ไหน
- คำถามไหนที่เราควรถูกใช้อ้างอิง
- การอ้างอิงทำให้แบรนด์เราดูดีไหม
- คุณภาพของคนที่มารู้จักเราผ่าน AI
เครื่องมือที่ช่วยได้: ตอนนี้ส่วนใหญ่ต้องเช็คเอง ตั้ง Google Alerts สำหรับชื่อแบรนด์เราบวกคำว่า “ตาม” หรือ “รายงานว่า”
ลองเสิร์ชชื่อแบรนด์เราใน ChatGPT กับ Perplexity ทุกเดือนดูว่ามีอะไรขึ้นมาบ้าง
เริ่มต้นยังไง
สัปดาห์ที่ 1: เลือก AI Engine เป้าหมายตามกลุ่มลูกค้า
สัปดาห์ที่ 2: เช็กเนื้อหาดีที่มีว่าน่าจะถูกอ้างอิงได้ไหม
สัปดาห์ที่ 3: จัดโครงสร้างใหม่ 3-5 บทความให้ดีขึ้น
สัปดาห์ที่ 4: เริ่มติดตามการกล่าวถึงและการอ้างอิง
อย่าพยายามแก้ทุกอย่างพร้อมกัน เลือกเนื้อหาที่ดีที่สุดมาปรับปรุงก่อน
เริ่มจากประเภทเนื้อหาเหล่านี้:
- คู่มือและวิธีทำของอุตสาหกรรม
- บทความเปรียบเทียบ
- หน้า FAQ
- อธิบายศัพท์เทคนิค
- กรณีศึกษาที่มีตัวเลขชัดเจน
รูปแบบพวกนี้ใช้ได้ดีกับการอ้างอิง AI ตามธรรมชาติ
ทำไมต้องเริ่มตอนนี้
เวลาคนถาม AI เกี่ยวกับอุตสาหกรรมของคุณ คุณอยากจะถูกอ้างอิงถึง หรืออยากให้คู่แข่งแซงหน้าไป?
Answer Engines กำลังโตเร็วมาก ธุรกิจที่เข้าใจ AEO แต่เนิ่นๆ ก็จะได้เปรียบอย่างมหาศาล ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ โอกาสที่คุณจะก้าวนำจึงยังมีมาก
AI Search ไม่ได้มาแทน Google แต่เป็นช่องทางใหม่ที่เราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าถึงลูกค้าได้
เรียนรู้วิธีเชี่ยวชาญทั้งการค้นหาแบบเดิมและ AI ด้วยคู่มือสูตรสำเร็จที่เรานำเสนอตั้งแต่วันนี้
Join the discussion - 0 Comment